หนังดราม่าบู๊ระห่ำเรื่อง Mad Max : Fury Road ที่นำแสดงโดยนางเอก ชาร์ลิซ เธียรอน และ ทอม ฮาร์ดี้ นำโด่งกวาดรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 88 กลับบ้านไปมากที่สุด ถึง 6 สาขาจากที่เข้าชิงทั้งหมด 10 สาขา ทั้งออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม / ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม / แต่งหน้า-ทำผมยอดเยี่ยม / ตัดต่อภาพและเสียงยอดเยี่ยม รวมถึงผสมเสียงยอดเยี่ยม ไปครอง ซึ่งเรียกว่าเป็นรางวัลด้านเทคนิคหนังล้วนๆ
ขณะที่รางวัลด้านเทคนิคด้านภาพยอดเยี่ยม ตกเป็นของหนังเรื่อง Ex Machina ที่ต้องชวดรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมให้กับหนังนักข่าวเรื่อง Spotlight ส่วนหนังตีแผ่พิษเศรษฐกิจโลก The Big Short เป็นจ้าของรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ขณะที่รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม ก็ไม่พลิกโผ เมื่อหนังเด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีจากค่ายพิกซาร์เรื่อง Inside Out คว้ารางวัลนี้ไปครองตามคาด
แต่ที่ผลิกโผสุดๆ คือนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ที่ อลิเซีย วิแคนเดอร์ จาก The Danish Girl ปาดหน้าเต็งหนึ่งอย่างนางเอกรุ่นพี่ เคท วินสเล็ต คว้ารางวัลไปได้จากการเข้าชิงครั้งแรก ส่วนสมทบชายยอดเยี่ยม ตกอยู่ในมือ มาร์ค ไรซ์แลนซ์ จาก Bridge of Spies
มาถึงรางวัลภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ปีนี้ มอบให้กับ ผลงานจากประเทศฮังการีเรื่อง Son of Saul ที่กวาดมาแล้วเกือบทุกเวที รวมถึง รางวัลลูกโลกทองคำ 2016 ด้วย ส่วนรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ก็เป็นไปตามแรงเชียร์ เมื่อ เพลงฮิต Writing on the Wall ประกอบหนังสายลับ Spectre ที่ขับร้องโดย แซม สมิธ เป็นเจ้าของรางวัลนี้
หนังชีวิตหนักๆ เรื่อง The Revenant ที่เข้าชิงมากสุดถึง 12 สาขา ก็เป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม / ผู้กำกับยอดเยี่ยม ที่มอบให้กับ อเลฮานโดร จี อินาร์ตู ซึ่งคว้ารางวัลออสการเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากเขาเคยขึ้นรับรางวัลนี้มาแล้วจากหนังเรื่อง Birdman เช่นเดียวพระเอกลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่คว้ารางวัลออสการ์แรกในชีวิต จากบทบาทของนายพรานที่ต้องเอาชีวิตให้รอดกลางป่า กับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ โดยหนังยังพ่วงรางวัล ถ่ายภาพยอดเยี่ยม ไปอีกต่างหาก และปีนี้ ก็เป็นปีของนางเอก บรี ลาร์สัน จากหนังเรื่อง Room เพราะเธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ไปครอง จากการเข้าชิงออสการ์ครั้งแรกในชีวิต
