ลิลลี่ ได้หมดท่าสดชื่น เจอดราม่า - คำบูลลี่ เครียดหนักจนเกือบออกวงการ เผยเหตุผลที่ยังอยู่ต่อ

ลูกทุ่งแดนใต้ ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เปิดใจชีวิตส่วนตัวและเส้นทางในวงการบันเทิง หลังปล่อยเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว เปลี่ยนชีวิตทุกด้าน เจอดราม่าถาโถม เผชิญหน้ากับคอมเมนต์บูลลี่แรง ๆ จากชาวเน็ตจนคิดอยากลาวงการ โชคดีทีครอบครัวเป็นเซฟโซน ทำให้เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเผยเหตุผลที่ยังอยู่ในวงการต่อไป

โดย ลิลลี่ ที่ตอนนี้สวยขึ้นมาก เผยว่าเป็นคนที่ผ่านการโดนบูลลี่ ผ่านดรามามาเยอะมาก ๆ ผ่านจุดที่เสียใจหนัก ร้องไห้คนเดียวก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะมีเซฟโซนไว้ร้องไห้โดยเฉพาะคือครอบครัว หนูคุยกับพี่เจน และครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาจะเป็นคนที่ให้พลังบวก ย้อนไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วเพลง”เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ปล่อยออกมา ยอดวิวพุ่งชั่วข้ามคืน จากเสียงเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นที่รู้จัก มันเปลี่ยนชีวิตหนูทุกด้าน แต่ได้ทัวร์คอนเสิร์ตแค่ปีเดียว เพราะมีโควิด-19 ถ้าเกิดไม่มีโควิดคิวงานยาวไป 2-3 ปีเลย เสียดายมากที่สุด ตอนนั้นอยู่กับค่ายพี่เจนทำรายการ YouTube อยู่ หนูไปช่วยบ้าง งานร้องเพลงก็มีบ้างแต่เข้มงวดมาก ทำอะไรก็ยาก

จำโมเมนต์ครั้งแรกที่ขึ้นเวทีร้องเพลง ตื่นเต้นมาก เสียงก็สั่น เจอดราม่าหนักด้วย เพราะว่าเสียงที่เราร้องไม่เหมือนเสียงที่เขาฟัง เจองานแรกคนเยอะมาก หนูโดนด่าไปเยอะเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ แต่ตอนนี้แตกต่างกันมาก เพราะเดี๋ยวนี้จะมีคนส่งมุกให้เราเล่น ถ้าเรานิ่ง พี่เจนจะคอยแทรกทันทีก็เลยรู้สึกสบายใจมากขึ้น ทุกวันนี้หนูก็ยังทำได้ไม่ดี ปีนี้มีแพลนว่าจะทำเพลง เหมือนเราโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว จะทำช่อง Youtube เป็นของตัวเองมีการปรึกษากับพี่เจนเบื้องหลังด้วย

เอาจริง ๆ พอเข้าวงการมาแรก ๆ หนูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะคิดว่าตัวเองยังเด็ก ยังทำตัวไม่ถูก กลัวดราม่า มีหลายอย่างที่หนูคิดไม่ถึงเยอะมาก ตอนนั้นอายุ 15 ปี หนูโดนดรามาครั้งแรกคือเรื่องพี่จินตรา คือตอนนั้นหนูกับพี่คิง ก่อนบ่าย แกบอกว่าหนูก็หน้าตาเหมือนพี่แก แต่ว่าวันนั้นแกใส่วิกพี่จินตรามา ด้วยความสนิทกันหนูก็เลยแซวพี่คิงว่าไม่ได้อยากหน้าตาเหมือนพี่คิง คนก็จับโยงดราม่าว่าดูถูกพี่จินตราเหรอ หนูโดนหนักมาก ทั้งยังโดนบูลลี่เรื่องหน้าตากับส่วนสูง คือหนูก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ถ้ามองย้อนกลับไปมองตัวคนที่เข้ามาคอมเมนต์มาว่าเรา จริง ๆ ปัญหาในชีวิตเขาเองก็มีเยอะมาก แต่เขาไม่จัดการกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง มองแค่ว่าการมานั่งว่าคนอื่น บูลลี่คนอื่น ด่าคนอื่นคือความสุขของเขา ได้ด่าแล้วสะใจมันไม่ใช่เลย ถ้าเป็นหนูเกลียดใครหรือไม่ชอบใคร จะเลื่อนผ่าน จะไม่ไปคอมเมนต์ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยเจอเขาเลย เพราะการที่เขามาคอมเมนต์มาแสดงว่าเขาให้ค่าเรา ยิ่งมีคนให้ความสนใจเราเยอะ งานก็เข้ามาหาหนูเยอะ นั่นคือคุณกำลังเพิ่มความสนใจให้กับหนูอยู่ ตอนนี้จะฟ้องเหมือนกัน อยากเอาเงินมาดาวน์รถ

นอกจากนี้ยังมีคนสบประมาทว่าหนูดังได้ก็เพราะพี่เจน ถ้าไม่มีพี่สาวก็คงไม่ดังหรอก หนูไม่รู้สึกอะไรเพราะมันเป็นเรื่องจริง หนูก็ดังได้เพราะพี่เจน ถ้าวันนั้นพี่เจนไม่เรียกหนูมาแล้วบอกว่าร้องท่อนนี้ให้พี่ฟังหน่อย ก็คงไม่มีวันนี้ พี่เจนมองว่าเหมาะกับหนูก็คือให้หนูทำเลย ณ ตอนนี้ในวัย 21 ปี ถามว่าหนูอยากมีแฟน อยากมีครอบครัวแบบพี่เจน ตอนนี้ยังไม่อยากมีค่ะ ตัวหนูเองยังไม่รอดเลย (หัวเราะ) มีแฟนหรือยัง ก็มีคุย ๆ ค่ะ สเปกคือต้องสูง เพราะว่าหนูเตี้ย (หัวเราะ) คือรู้สึกว่ายังเด็กอยู่ การที่คน ๆหนึ่งจะมาคุยกับเราได้ ต้องเข้าใจ เราทำงานส่วนใหญ่เลย กลางคืนหนูไม่ว่างต้องไปทำงาน แล้วก็ไม่มีเวลาให้ สิ่งที่ทำให้หนูโตขึ้นเป็นหนูทุกวันนี้คือครอบครัว รองลงมาคือโซเชียล แล้วก็ประสบการณ์ที่เจอมาหลาย ๆ อย่าง เราต้องยอมรับมันให้ได้ ช่วงที่เครียดสุด ๆ เคยคิดที่จะไม่อยู่ในวงการแล้ว แต่ที่ยังอยู่ต่อ เพราะตังค์ค่ะ ตอนนี้หนูอยากทำโรงแรม อยากทำรีสอร์ต ให้คนเข้าพัก คืนละ 500-600 บาท ทุ่งสงที่หนูอยู่ตอนนี้มันเป็นทางผ่านเยอะด้วย เป็นความคิดกำลังหาเงินอยู่.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน