
เอ่ยปากว่าปิดร้านประชดชีวิตไปเลย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “บีม ศรัณยู” ที่ก่อนหน้านี้ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวเปิดร้านอาหารที่หน้าบ้าน แต่ก็มีปัญหาโดนเจ้าหน้าที่หน่อยงานที่เกี่ยวข้องมาเตือนห้ามตั้งโต๊ะขายบนทางเท้า เจ้าตัว เล่าว่าใจจริงก็อยากจะเปลี่ยนไปที่อื่นบ้างเพราะมีปัญหาบ่อย ยอมรับว่าเสียดายเพราะร้านเพิ่งเปิดได้แค่ 8 เดือนและไม่ได้ขาดทุนอะไร แต่ปัญหาก็คือลูกค้าอยากนั่งหน้าร้านและร้านก็เป็นร้านอาหารมีดนตรีให้ฟัง สามารถเปิดได้ไปถึงกลางคืน พื้นที่มันเลยไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาโดนคนแกล้งร้องเรียนมาตลอด ข้อดีของหน่วยงานที่ทำแอปพลิเคชันขึ้นมาให้ร้องเรียนสิ่งที่กีดขวางทางเท้ามันมี แต่บางทีก็จะมีบุคคลที่อยากจะกลั่นแกล้งผู้อื่นเข้ามารายงานจนคนทำมาหากินก็ทำไม่ได้ อยากให้หน่วยงานพัฒนาแอปให้รู้ว่าคนที่แจ้งมาคือใคร จะได้รู้ว่าใครมีปัญหาจริง ๆ ก็อาจจะได้พูดคุยเคลียร์กันให้จบไป

นอกจากนี้ หนุ่มบีม ยังเจอปัญหาลูกจ้างที่โกงเงินไปอีก 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนไปหมื่นกว่าบาท ครั้งที่ 2 5 หมื่น คือการที่ไม่เอาเงินยอดขายเข้าบัญชีของทางร้าน แต่ตนก็จับได้เพราะมีการเช็กประวัติการทำรายการอยู่แล้ว ครั้งแรกคนที่ยักยอกเงินก็อ้างว่าลูกเล็ก เราก็เข้าใจเลยให้โอกาสไป ส่วนคนที่ 2 ก็จับได้ว่าจิดการพนันออนไลน์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอาเรื่องทางกฎหมายแบบจริงจัง ใจจริงก็อยากดำเนินคดีแต่สุดท้ายคนเคยทำงานด้วยกันมาก็ให้อีกฝ่ายชดใช้ตามวิธีของตน มันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตและเป็นบทเรียนให้กับน้อง ๆ ที่เคยทำงานกับตนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่ไปทำแบบนี้กับใครอีก ต่อให้ไม่มีกินก็อย่าไปคดโกงใครอีก ส่วนร้านก็ตั้งใจว่าจะย้ายไปแถวบรรทัดทอง ซึ่งเป็นทำเลที่ตนได้ค่าเช่ามาไม่แพงมาก หลายคนสงสัยว่าทำไมกล้าไปลงทุนที่บรรทัดทองในตอนนี้เพราะดูเหมือนจะซบเซาแล้ว มองว่าเราได้ค่าเช่ามาถูกเลยไม่ได้กังวล แล้วเราก็คลุกคลีกับถนนบรรทัดทองมานานเกือบ 20 ปี แล้วก็ในส่วนของมาร์เก็ตติ้งที่ต้องทำการบ้านหนักมากยิ่งขึ้น สุดท้ายต่อให้หลายคนบอกว่าจะคืนทุนยากหรือเสี่ยงเจ๊ง สำหรับเราไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าเราไม่กล้าก็ไม่สำเร็จ เราก็เตรียมใจไว้ทุกๆอย่างแล้ว อย่าไปคาดหวังแต่ก็ไม่กลัวที่จะเจ๊ง
ส่วนคดี “แตงโม ภัทรธิดา” ล่าสุดหลังตนได้เข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง DSI เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเราก็พูดความจริงทั้งหมดไม่ได้ป้ายสีใคร ชื่นชมว่าทาง DSI ทำงานหนักมากเพราะได้เห็นข้อมูลที่เค้าเตรียมไว้ก็ต้องชื่นชม 3 ปี ที่ผ่านมาพวกเราก็อยากรู้ความจริง ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรมก็อยากให้ “แตงโม” ได้รับความยุติธรรมและไม่อยากให้กระบวนการยุติธรรมของไทยไม่แย่ไปกว่านี้ ถ้าคนที่ทำผิดก็อยากให้ได้รับผิด .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน