ตระการตาการแสดมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชภิเษก

        การแสดงรำถวายพระพรชุด “อาศิรวาททวยราษฎร์น้อมเกล้าฯ ถวายจอมราชัน” เป็นการแสดงในพิธีเปิดการแสดมหรสพสมโภชเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชภิเษก โดยเป็นการสร้างสรรค์บทร้องและกระบวนท่ารำขึ้นใหม่ จากผู้เชี่ยวชาญของสำนักการสังคีต  กรมศิลปากรและวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยมีผู้แสดงอีก 130 คน ได้ร่วมรำโคม ซึ่งเป็นการละเล่นในพระราชพิธีชุดหนึ่ง  ที่ถือโคมดอกบัวออกมาร่ายรำและแปรแถวเป็นรูปมังกร 


        ส่วนอีกหนึ่งการแสดงที่งดงามตระการตา กับการแสดงโขนเรื่อง “รามเกียรติ์” ชุด พระบารมีเกริกฟ้ารามาวตาร 3 ตอน  ทั้งในตอน สถลมาศเฉลิมราชจักรี  จัดแสดงโดยมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ที่ใช้ผู้แสดง 200 คน  ตอนเล่ห์อสุรีเมืองลงกา  โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ฉากพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณขนาดใหญ่บนเวที  ผ่านการแสดงของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่ใช้ผู้แสดง 150 คน และตอนบรมราชาภิเษกพระราม ที่ใช้ผู้แสดงมากที่สุดถึง 500 คน โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 

        ด้านอีก 1 การแสดงมหรสพสมโภชเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชภิเษก คือ  การแสดง แสง สี เสียง และม่านน้ำ ชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า” ซึ่งเป็นการประดับไฟครั้งแรกบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ณ ท้องสนามหลวง สื่อถึง “รัตนมณีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์” เปรียบเสมือนเพชรพลอยบนแผ่นดินไทยที่อุดมสมบูรณ์ และยังมีความงดงามจากสวนดอกไม้ไฟ LED นับหมื่นดวง 


        นอกจากนี้ยังมีการแสดงเทคนิคม่านน้ำ ความยาวกว่า 50 เมตร โดยมีฉากหลังเป็นพระบรมมหาราชวังยามค่ำคืน ผ่านการแสดง 2 ชุด คือ  เจ้าพระยาสายน้ำแห่งชีวิต นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์ไทย และเป็นสายน้ำแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทำให้คนไทยได้ร่วมชมพระบารมีในพระราชพิธีกระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคที่มีมาแต่โบราณ  ชุดที่ 2 เฉลิมฉัตรแก้วของปวงประชา นำเสนอเรื่องราวพระเมตตาของรัชกาลที่ 10 พระมหากรุณาธิคุณที่แผ่ไพศาลไปยังพสกนิกร ให้ได้มีความสงบสุข ร่มเย็น ผ่านสัญลักษณ์ “ดอกรวงผึ้ง” ต้นไม้ประจำพระองค์

        การแสดงมหรสพสมโภชเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชภิเษก และการแสดง แสง สี เสียง และม่านน้ำ ชุด “แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า” จัดแสดงให้ชมฟรีตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป บริเวณท้องสนามหลวง

เข้าชม 84 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม

ข่าวแนะนำ