กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเมื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ด้านการแสดงทั้ง 20 คน ใน 4 สาขา คือ นักแสดงนำชายและหญิงยอดเยี่ยม กับ นักแสดงสมทบชายและหญิงยอดเยี่ยม ล้วนเป็นดาราผิวขาวทั้งสิ้น ทั้งที่การแสดงของพระเอกผิวสี เดวิด โอเยโลโว่ จาก Selma ก็โดดเด่น จนนักวิจารณ์มั่นใจว่าเขาต้องได้ลุ้นออสการ์ปีนี้แน่นอน ขณะที่ผู้กำกับหญิง Ava DuVernay จาก Selma เช่นกัน ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลให้เข้าชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ทั้งที่เธออาจสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้กำกับหญิงผิวสีคนแรกที่คว้ารางวัลออสการ์มาครอง
แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักแสดงผิวสีถูกเมินจากเวทีออสการ์ เพราะปี 2011 และปี 1998 ก็เคยเกิดกรณีอย่างนี้มาก่อน จนหลายคนมองว่า ฮอลลีวู้ดยังคงไม่เปิดกว้างเต็มร้อยสำหรับคนทำหนังที่หลากหลาย
ยิ่งการที่โปรดิวเซอร์หนังแถวหน้า Scott Rudin ซึ่งถูกแฮ็คเกอร์นำอีเมล์ของเขาออกมาแฉกับชาวโลก ว่ามีมุมมองเหยียดสีผิว ได้เข้าชิงออสการ์ จากหนังเรื่อง The Grand Budapest Hotel ก็ยิ่งตอกย้ำว่า นี่คืออุตสาหกรรมของผู้สร้างหนังผิวขาวหรือเปล่า
งานนี้พิธีกรและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน Al Sharpton จึงทนไม่ได้ ถึงขั้นออกแถลงการณ์ แสดงความไม่พอใจว่า อุตสาหกรรมหนังฮอลลีวู้ดก็ไม่ต่างจาก เทือกเขาร็อคกี้ ที่ยิ่งสูง ก็ยิ่งขาว และไม่ใช่แค่สาขาด้านการแสดง แม้แต่รางวัลด้านบทภาพยนตร์ทั้ง 2 สาขา ก็มีแต่ผู้เข้าชิงที่เป็นผู้ชายผิวขาวล้วน
ก่อนหน้านี้ สื่อดัง LA Times เคยเผยข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อปี 2012 ว่าสมาชิกของสถาบันศิลปวิทยาการภาพยนตร์สหรัฐ ผู้มีสิทธิลงคะแนนโหวตออสการ์ 93 เปอร์เซ็นต์เป็นคนผิวขาว แถม 76 เปอร์เซ็นต์ยังเป็นผู้ชาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ ฮัลลี เบอร์รี่ จะเป็นนักแสดงหญิง แอฟริกัน- อเมริกัน คนเดียว ที่คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และมีเพียงนักแสดงชายผิวสีเพียงแค่ 4 คนที่เป็นเจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม บนเวทีออสการ์ ที่จัดต่อเนื่องยาวนานมาถึง 87 ครั้ง .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
