“เฮลีย์ บีเบอร์” ยืนยันชัด ๆ เป็นครั้งแรกกลางรายการพอดคาสต์ Call Her Daddy ถึงกระแสข่าวเมาท์ที่ไม่รู้จักจบสิ้นว่า เธอไม่ได้แย่ง “จัสติน บีเบอร์” มาจากอก “เซเลน่า โกเมซ” แน่นอน แถมบอกด้วยว่าเคยเปิดใจเคลียร์กับ “เซเลน่า” เรื่องนี้ และรับรองได้ว่าระหว่างเธอกับแฟนเก่าของสามีไม่มีดราม่าซดเกาเหลากันแน่นอน
“เฮลีย์” ซึ่งแต่งงานกับ “จัสติน บีเบอร์” เมื่อปี 2018 ย้ำว่าในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็ไม่อยากเข้าไปแทรกกลางความสัมพันธ์ของใครจนกระทั่งหมั้นและแต่งงานกันแน่นอน เพราะถูกเลี้ยงมาดี แต่ที่เธอยอมรีเทิร์นกลับไปคบกับ “จัสติน” กระทั่งได้ลงเอยกันในที่สุด เพราะเธอมั่นใจว่าเขาเลิกกับ “เซเลน่า” เด็ดขาดแล้วจริง ๆ แม้คนนอกจะดูเหมือนไทม์ไลน์ความสัมพันธ์จะคาบเกี่ยวกัน แต่ไม่มีใครรู้ดีเท่าพวกเธอแน่นอน
ไทม์ไลน์ความสัมพันธ์ของ 3 ซุปตาร์วัยทีน เริ่มจากปี 2010 ที่ “จัสติน-เซเลน่า” เริ่มคบกัน แล้วก็เลิกกันในปี 2012 , พอปี 2013 ก็กลับมาคบกันใหม่ แล้วก็เลิกกันอีกในปี 2014 , พอเลิกปุ๊บ หนุ่ม “จัสติน” ก็เลยหันไปคบกับ “เฮลีย์” ก่อนจะเลิกกันไปในปี 2016 , แล้วปี 2017 ก็ไปลมพัดหวนระยะสั้น ๆ กับ “เซเลน่า” อีก กระทั่งเลิกรากันอย่างถาวรในปี 2018 แล้วก็ไปขอ “เฮลีย์” แต่งงานในปีเดียวกัน (2018)
ภรรยาคนสวยของนักร้องหนุ่ม “จัสติน บีเบอร์” ยังบอกอีกว่า หลังแต่งงานกับ “จัสติน” แล้ว เธอเคยเปิดอกคุยกับ “เซเลน่า” ซึ่งบอกเลยว่าทำให้เธอรู้สึกดีมาก ๆ เพราะมีแต่การให้เกียรติกันและกัน ไม่มีดราม่าใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกันตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอต้องเผชิญกับคอมเมนต์แย่ ๆ และความเกลียดชังของชาวเน็ตที่กล่าวหาว่าเธอฉก “จัสติน” มาจากอก “เซเลน่า” โดยเฉพาะเฮตสปีชระหว่างที่เธอไลฟ์อินสตาแกรม รวมถึงแฟนเพลงกลุ่มใหญ่ที่มายืนหน้างาน MET Gala 2021 แล้วตะโกนเรียก “เซเลน่า” ขณะเธอควงสามีเดินพรมแดงเข้างาน ซึ่งเธอทั้งเห็นและได้ยินความเกลียดชังเหล่านี้ทั้งหมด แต่เธอก็ทนรับได้ เพราะคิดซะว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรมาทำลายชีวิต ทำลายความสุข และพรากอะไรไปจากเธอได้เลยแม้แต่น้อย
แม้ “เฮลีย์” จะบอกว่าเธอกับ “จัสติน” ไม่เคยขอร้องให้ “เซเลน่า” ช่วยปรามแฟน ๆ เพราะ “เซเลน่า” อยู่ในวงการมานานกว่าเธอ ย่อมรู้ดีว่าคงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
แต่ล่าสุดก็ดูเหมือน “เซเลน่า” จะออกโรงปรามชาวเน็ตอยู่ในทีผ่านคลิปใน TikTok เมื่อวันก่อนว่า หลายคนสนับสนุนแบรนด์เครื่องสำอาง Rare Beauty ของเธอ ซึ่งมีจุดยืนในการสนับสนุนให้ผู้หญิงรักตัวเอง รวมถึงมีโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชยากไร้ แต่สิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุดก็คือความใจร้ายและน่ารังเกียจ ซึ่งมันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ไม่มีใครควรได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคาย ขอบคุณที่สนับสนุนแบรนด์ของเธอแต่ถ้าจะให้ดีก็ควรทำตัวให้สอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ด้วย พร้อมย้ำว่า “คำพูด” เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เพราะตัวเธอเองก็พูดแต่คำดี ๆ กับผู้อื่นเช่นกัน.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ข่าว / ภาพ : yahoo / billboard / vogue
