ช่างเป็นชะตากรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างอดีตสามีภรรยาคนดัง “จอห์นนี่ เด็ปป์” และ “แอมเบอร์ เฮิร์ด” เพราะหลังศาลตัดสินให้พระเอกรุ่นใหญ่เป็นฝ่ายชนะคดีที่เจ้าตัวเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตภรรยาฐานหมิ่นประมาท เหตุเพราะ “แอมเบอร์” เขียนบทความโจมตีในวอชิงตันโพสต์ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุชื่อ “เด็ปป์” แต่ก็ทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่าจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้เด็ดขาดนั้น ยังคงส่งผลกระทบต่อทั้งคู่อย่างต่อเนื่องแต่ในทิศทางที่แตกต่างกัน
เพราะฝั่ง “แอมเบอร์” การแพ้คดีครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำข่าวลือที่ว่าค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์ จะตัดฉากที่มีเธอในหนัง Aquaman 2: Aquaman and the Lost Kingdom ให้เหลือเพียง 10 นาทีเท่านั้น เพราะภาพลักษณ์สาว “แอมเบอร์” นาทีนี้ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อหนัง ล่าสุดก็มีชาวเน็ตแคปภาพจากอินสตาแกรมสตอรีของผู้ใช้บัญชี “จูเลียต ลอเรน ฟิสเชอร์” ที่อ้างว่าเป็นผู้บริหารค่ายวอร์เนอร์ ระบุว่าจะตัดฉากที่มี “แอมเบอร์” ในหนัง Aquaman 2 ออกให้หมดโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อไนน์เอ็นเตอร์เทนตรวจสอบบัญชีอินสตาแกรมดังกล่าวกลับไม่พบข้อมูลใด ๆ ขณะเดียวกันยังไม่มีการยืนยันจากค่ายหนังดังอย่างเป็นทางการด้วย หลายคนจึงฟันธงว่าข่าวนี้น่าจะเป็นข่าวปลอม ขณะที่หลายคนภาวนาให้เป็นเรื่องจริงซะงั้น
ฟากป๋า “เด็ปป์” ไม่เพียงได้รับเงินค่าชดเชยความเสียหายมูลค่ากว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 510 ล้านบาทเท่านั้น แต่คดีฉาวนี้ยังไม่สามารถดับอนาคตในวงการภาพยนตร์ของเขาได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาฟันธงแล้วว่าแม้ความนิยมจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่ “เด็ปป์” ก็จะอยู่ยั้งยืนยงต่อไปได้เพราะฐานแฟนคลับเหนียวแน่นหนึบ ข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งคือระหว่างการไต่สวนคดีฉาวอย่างดุเดือดนั้น ยอดขายน้ำหอมดิออร์ที่ป๋า “เด็ปป์” เป็นพรีเซนเตอร์มาตั้งแต่ปี 2015 กลับพุ่งขึ้นกว่า 50% เลยทีเดียว ซึ่งต่างจากกรณีคนดังคนอื่น ๆ ทั่วโลกที่แบรนด์สินค้าดังมักตัดสัมพันธ์ทันทีหลังพัวพันข่าวฉาว แต่ชื่อชั้นของ “เด็ปป์” ทำให้แบรนด์ดิออร์กล้าวัดใจจนถึงนาทีสุดท้าย
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศาลพิพากษาให้ “เด็ปป์” เป็นฝ่ายชนะคดี แฟนหนังจำนวนมากยังผุดแคมเปญในโซเชียลชวนกันออกมาซื้อน้ำหอมแบรนด์ดังกล่าวเป็นการฉลองชัยให้กับพระเอกในดวงใจจนเกลี้ยงเชลฟ์และหมดสต็อกในช้อปออนไลน์ไปหลายร้านแล้ว เรียกว่างานนี้ซอฟต์พาวเวอร์ของป๋า “เด็ปป์” ทรงพลังสุด ๆ จริง ๆ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ข่าว / ภาพ : dior / foxbusiness /forbes / yahoo / sportskeeda / internationalbusinesstimes / therecenttimes / IG:julietlaurenfischer