ร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ “เดฟ โกรห์ล” นักร้องนำวัย 53 ปี แห่งวง Foo Fighters เผยความจริงสุดช็อกว่าเขาสูญเสียการได้ยินมาหลายปีแล้ว และใช้วิธีอ่านริมฝีปากคู่สนทนามาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
“เดฟ” เปิดใจกลางรายการ The Howard Stern Show ว่าเขามีอาการหูเอื้อเรื้อรังที่หูซ้าย และไม่ได้ไปให้คุณหมอตรวจอย่างละเอียดมานานหลายปี จึงค่อย ๆ สูญเสียการได้ยิน แต่หูขวายังใช้การได้เป็นปกติ ถึงอย่างนั้นหูเขาก็ยังไวต่อเสียงดนตรี ทุกครั้งที่เข้าห้องอัดหากได้ยินเสียงเครื่องดนตรีหรือโน้ตเพี้ยนไปแค่เล็กน้อยเขาก็จับได้ทันที ส่วนการใช้ชีวิตประจำวันก็ใช้วิธีอ่านริมฝีปากคู่สนทนามานานถึง 20 ปีแล้ว จึงไม่รู้สึกว่าอาการหูซ้ายอื้อเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต จนกระทั่งโควิด-19 ระบาดหนักและทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยนี่แหละชีวิตเขาจึงไม่ราบรื่นอีกต่อไป แม้กระทั่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้านซ้ายแต่เขากลับไม่ได้ยินเลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไรเพราะมองไม่เห็นริมฝีปากนั่นเอง
แต่ร็อกเกอร์รุ่นเก๋ากลับปฏิเสธที่จะใส่ “อินเอียร์ มอนิเตอร์” หรือหูฟังสำหรับนักร้องนักดนตรีโดยเฉพาะ เพราะแม้หูฟังดังกล่าวจะเก็บรายละเอียดทั้งเสียงร้องของตนเองและเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจน และเป็นที่นิยมของนักร้องนักดนตรีส่วนใหญ่ แต่ “เดฟ” กลับเซย์โนโดยบอกว่า หูฟังแบบนั้นจะทำให้เขาได้ยินเสียงบรรยากาศรอบตัวไม่ชัด ซึ่งเขารู้สึกแฮปปี้กับการได้ยินเสียงแฟนเพลง เสียงเพื่อนร่วมวง และเสียงอื่น ๆ รอบตัวระหว่างโชว์คอนเสิร์ตมากกว่า
“เดฟ โกรห์ว” ไม่ใช่ร็อกเกอร์คนแรกและคนเดียวที่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน เพราะทั้งหนุ่ม “พีท ทาวน์เซนด์” และ “โรเจอร์ ดาลเทรย์” แห่งวง The Who รวมถึง “นีล ยัง” และ “อีริก แคลปตัน” ก็ล้วนเจอปัญหาเดียวกันทั้งสิ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการโชว์คอนเสิร์ตท่ามกลางเสียงดนตรีดังสนั่นและบรรยกาศอึกทึกครึกโครมติดต่อกันมานานหลายสิบปีนั่นเอง .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ข่าว / ภาพ : people / guitar / forbes / nme / bbc