ผู้ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 พาเหรดกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ต้องจารึก เริ่มต้นด้วยผู้กำกับหญิง “โคลอี้ จ้าว” จากหนัง Nomadland ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับหญิงเอเชียคนแรกที่เป็นเจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และเป็นผู้กำกับหญิงคนที่สอง ต่อจาก “แคทรีน บิเกโลว์” ที่นำร่องคว้าออสการ์เมื่อปี 2009 จากเรื่อง The Hurt Locker นั่นเอง โดยหนัง Nomadland ยังไม่พลาดรางวัลใหญ่สุด ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตามความคาดหมาย ทั้งยังส่งให้ “ฟรานเชส แมคดอร์แม่น” คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมตัวที่ 3 มาครอง ต่อจาก Fargo เมื่อปี 1996 และ Three Billboards outside Ebbing, Missouri เมื่อปี 2018 เทียบชั้น เมอรีล สตรีพ , แดเนียล เดย์ ลูอิส และ แจ็ค นิโคลสัน ที่เคยเป็นเจ้าของ 3 รางวัลออสการ์ด้านการแสดงมาก่อน แต่ยังไม่มีใครลบสถิติของนักแสดงผู้ล่วงลับ “แคทเธอรีน เฮปเบิร์น” ที่เป็นเจ้าของ 4 รางวัลออสการ์ได้
มาถึงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ต้องบอกว่า หักปากกาเซียนไม่น้อย เมื่อพระเอกรุ่นใหญ่ “แอนโธนี่ ฮอปกิ้น” จากหนัง The Father ปาดหน้าตัวเต็งอย่าง “แชดวิก บอสแมน” คว้ารางวัลออสการ์ไปครอง เป็นตัวที่ 2 ต่อจากหนังเรื่อง The Silence of the Lambs เมื่อปี 1991 ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่อายุมากที่สุดคือ 83 ปี ที่คว้ารางวัลด้านการแสดงมาครอง แต่เจ้าตัวไม่ได้มารับรางวัลด้วยตัวเอง
และ “โคลอี้ จ้าว” ไม่ใช่ผู้ชนะหญิงชาวเอเชียคนเดียวบนเวทีออสการ์ปีนี้ เพราะนักแสดงเกาหลีรุ่นใหญ่ “ยูนยอจอง” ก็สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการเป็น นักแสดงเกาหลีคนแรก ที่คว้าออสการ์ ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากหนังเรื่อง Minari โดย “ยูนยอจอง” ก็กล่าวระหว่างรับรางวัลว่า “เธอไม่เชื่อเรื่องการแข่งขัน เพราะมันเป็นไปได้ยังไง ที่เธอจะชนะ เกลน โคลส” ดังนั้น ผู้เข้าชิงทุกคนคือผู้ชนะเหมือนกันหมด
ส่วนรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมก็ไม่พลิกโผ เพราะตกเป็นของเต็งหนึ่งอย่าง “แดเนียล คาลูย่า” จาก Judas and the Black Messiah หลังตระเวนกวาดรางวัลเกือบทุกเวที ทั้ง ลูกโลกทองคำ และ SAG Awards โดยหนังยังพ่วงด้วยรางวัล เพลงประกอบยอดเยี่ยม จากเพลง Fight for You อีกด้วย
ดูเหมือนออสการ์จะสามารถลบคำครหาที่มักถูกตราหน้าว่าให้ความสำคัญกับผู้ชายและคนผิวขาว เพราะปีนี้ไม่แค่นักแสดงหลากสีผิว จะพาเหรดกันรับรางวัลสำคัญ แต่ยังเป็นปีที่ผู้หญิงมาแรง ถึงขึ้นสร้างสถิติใหม่ เป็นปีที่มีผู้ชนะหญิงมากที่สุดถึง 16 รางวัล จากทั้งหมด 23 สาขารางวัล ซึ่งถือเป็น 35.6 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ข่าว / ภาพ Reuters – AP
