บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เสียดายไม่ได้กราบลา ผ่องศรี วรนุช เผยไม่รู้ข้อเท็จจริงเรื่องพินัยกรรม

วันนี้ (21 เม.ย. 68) นับเป็นคืนที่ 4 สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมราชินีลูกทุ่งคนแรกของไทยผู้ล่วงลับ ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง-ขับร้อง) พุทธศักราช 2535 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 ปี วัดไร่ขิง พระอารามหลวง จ.นครปฐม หลังเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ในวัย 85 ปี เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568


โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่เดินทางมาร่วมงานวันนี้เผยว่า มีโอกาสเจอกับ แม่ผ่องศรี ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เคยเอ่ยปากสัญญาว่าจะไปเยี่ยมแม่ แต่ด้วยภารกิจและสุขภาพของแม่ทำให้ยังไม่ทันได้ไปกราบลา ตนในฐานะที่ดูแลกันมาก็รู้สึกเสียดาย เพราะแม่น่ารักและเอ็นดูทุกคนเหมือนลูกหลาน สำหรับเรื่องพินัยกรรมของแม่เท่าที่ตนทราบแม่เคยบอกไว้ว่าแกอยากมอบทุกอย่างให้เป็นสาธารณะประโยชน์ให้กับวงการลูกทุ่ง แต่ก็ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ต้องรอทางญาติ ๆ เปิดเผยข้อมูลเอง

ทางด้าน เจ้าไชยยานนท์ ณ เชียงใหม่ ที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเป็นคนดูแล แม่ผ่องศรี ตั้งแต่ปี 2541 เป็นเวลากว่า 25 ปีที่บ้านของแม่แต่เพียงผู้เดียวมาตลอด ก่อนช่วง 3 ปีหลังมีปัญหาน้อยใจกันตนเลยย้ายกลับไปทำธุรกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดเริ่มต้นตนเข้ามาในฐานะแฟนเพลงของแม่ผ่องศรี กระทั่งสามีของแม่ผ่องศรีเสียชีวิตตนเลยเข้ามาดูแลแม่ รักเสมือนแม่แท้ ๆ ของตัวเอง และได้เจอกับท่าน 2 วันก่อนที่จะเสีย ช่วง 25 ปีที่ตนดูแลแม่นั้นท่านบอกมาตลอดว่าทำพินัยกรรมยกมรดกให้ตน แต่ช่วงที่ห่างกับแม่ก็ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ สำหรับตนดูแลท่านด้วยใจไม่ได้คาดหวังอะไร หลังจบงานของท่านก็แล้วแต่เมตตาว่าแม่ทำพินัยกรรมไว้อย่างไร ตนได้สอบถามทนายความที่ดูแลก็ให้รอหลังจากจบงานก่อน เท่าที่รู้ทายาทสายตรงของแม่ผ่องก็คือลูกของพี่สาว ไม่กลัวมีปัญหามรดกภายหลังเพราะตนไม่เรียกร้อง ที่ผ่านมาก็ดูแลท่านไม่ได้รับผลประโยชน์หรือเงินเดือนอะไรอยู่แล้ว .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 30 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม