อุ้ม ขอบคุณสามี บิ๊ก ศรุต ให้ผ่าตัดกระเพาะ หลังอึดอัดน้ำหนักพุ่ง 133 กก.

ถ้าพูดถึงสามีสายซัพพอร์ตภรรยา หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อนักแสดงมากฝีมือ บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์ ติดอันดับแน่นอน เพราะล่าสุดสร้างความเซอร์ไพรส์มากกับภาพของ อุ้ม ชนัญพัชร์ ภรรยา หลังจากทำการผ่าตัดกระเพาะ จากน้ำหนักที่เคยพุ่งไปถึง 133 กก. แต่ผ่านไป 1 ปี ปัจจุบันน้ำหนักตัวลดลงไปถึง 40 กก. เลยทีเดียว นับเป็นของขวัญให้ตัวเองที่ดีที่สุด


โดย สาวอุ้มออกมาเปิดใจว่า “จริง ๆ วิธีลดน้ำหนักก็จะได้ผลในช่วงแรก ๆ เกือบทุกอย่าง แต่ยังไม่มีวิธีไหนที่เห็นผลในระยะยาว หรืออาจเป็นเพราะใจเราเองไม่แข็งพอ อย่างคีโตก็จะเห็นผลชัดแค่ช่วงอาทิตย์แรก แต่สำหรับอุ้มมันมีผลกับอารมณ์มาก รู้สึกได้เลยค่ะ พอร่างกายไม่มีแป้งกับน้ำตาลมันก็ค่อนข้างแย่ ตอนแรกก็คิดว่าหรือเราจะคิดไปเอง แต่ก็รู้สึกได้ว่าเราเครียดจากที่ไม่เคยเครียด ส่งผลกับการนอนมาก ๆ นอนไม่หลับเลยค่ะเลยต้องหยุดและเปลี่ยนมาเป็น Low carb แทน ส่วน IF ตอนนั้นทำแล้วก็รู้สึกทรมานเพราะออกกำลังกายตอนเช้าพอไม่ได้ทานอะไรก็จะเป็นลม เหมือนออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่ กลางคืนหิวก็นอนยากอีกทรมานทุกคืนเหมือนกัน และเคยส่องกล้องรัดกระเพาะทำไปหลายปีมาก แต่ไม่ได้รู้สึกว่าทานได้น้อยตั้งแต่ครั้งแรกยังทานได้ปกติ ต่างจากการผ่าตัดกระเพาะมาก เพราะเราจะทานไม่ได้ทันทีเลยคือทานได้น้อยมาก ๆ

ที่ตัดสินใจผ่าตัดกระเพาะ ตอนนั้นน้ำหนักตัวอยู่ที่ 133 กก. ตอนนั้นเริ่มใช้ชีวิตลำบากมากมีผลกระทบหมด เหมือนเราจะรู้เลยว่าร่างกายเราเริ่มไม่โอเคแล้ว น้ำหนักที่ขึ้นเพราะไทรอยด์ด้วยส่วนนึง แต่ก็เครียดด้วย หลัก ๆ น่าจะมาจากนิสัยการกินที่เปลี่ยนไป กินเยอะขึ้นมีความสุขกับการกินมากขึ้น อาการที่เรากังวลคือการหยุดหายใจขณะหลับ เพราะรู้สึกหายใจไม่สุด ตื่นมาเหมือนคนหลับไม่เต็มอิ่ม และมีการกรนหนักมากจนเกรงใจคุณสามี เกือบจะแยกห้องนอนกันเลยเพราะกลัวเค้านอนไม่หลับ แล้วก็เริ่มมีอาการปวดเข่า เจ็บข้อเท้า เดินได้ไม่เยอะ เหนื่อยง่าย และแน่นอนพอน้ำหนักเยอะ ๆ เราจะเริ่มขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไรเลยและนั้นคือผลกระทบกับการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างหนักแล้ว ตอนนั้นเลยหาวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลแน่ ๆ เลยมาเจอการผ่าตัดกระเพาะแบบส่องกล้อง พอลองศึกษาดูก็คิดว่าน่าจะเหมาะกับเรามากสุด และบวกกับพอไปตรวจร่างกายแล้วคุณหมอบอกว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่โรคเบาหวานเลยตัดสินใจทำอย่างไม่ลังเล”


ซึ่งในอินสตาแกรมภรรยาบิ๊กยังลงภาพพร้อมเล่าความในใจอีกว่า “ช่วงวันเกิดปีที่แล้วจำได้ว่ามันค่อนข้างแย่ ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย เพราะน้ำหนักตัวที่พุ่งขึ้นไปถึง133กิโล มันเยอะมาก ๆ นะ ด้วยโรคก่อนหน้านี้และด้วยการกินที่เปลี่ยนไปเองด้วย ทำให้น้ำหนักตัวมันพุ่งไปเร็วอย่างน่าตกใจ จำได้ว่าตอนนั้นการเดิน การนอน การหายใจหรือแค่ลุกหรือนั่งมันแย่ไปหมด พยายามที่จะลดน้ำหนักหลายวิธีมากๆแต่ทำได้แค่ช่วงสั้น ๆ และลำบากมาก ๆ การตัดสินใจผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเลยเป็นทางเลือกที่คิดว่าใช่ที่สุดสำหรับอุ้มในตอนนั้น 1ปีที่ผ่านมาจากที่เริ่มผ่าจนถึงวันนี้อยากจะขอบคุณตัวเองมากๆที่กล้าตัดสินใจ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขอบคุณคุณสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจในเรื่องไหน ๆ ก็ตาม ผ่านมา1ปีแล้ว น้ำหนักตัวลดไป40กิโลแล้ว ถึงจะยังไม่ได้ลงตามเป้าที่ตั้ง แต่ก็ถือว่าตัวเองเก่งมากๆ ภูมิใจในตัวเองที่สุด ตอนนั้นกลัวเบาหวานและความดันสุด ๆ แต่ก็ถือว่ายังดีที่ยังไม่ได้เป็น การลดน้ำหนักมันยากมากที่สุดในชีวิตจริงๆแต่เราก็ก้าวผ่านมาได้อันนี้ขอบคุณตัวเอง คุณหมอช่วยครึ่งนึงแน่นอนเราต้องมีวินัยด้วยถึงจะสำเร็จ ตอนนี้ยังไม่ไปถึงเป้าหมายแต่ก็จะพยายามต่อไป ครบ1ปีแล้วนี่ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง และต่อไปในทุก ๆ ปีคือการมีสุขภาพที่ดี ทั้งสุขภาพกายและใจ รักตัวเองที่สุด”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ภาพ : bigibig28

เข้าชม 3,277 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม