
วันนี้ (18 เม.ย.68) เวลา 14.00 น. ที่อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา มหาราชา วัดไร่ขิง พระอารามหลวง จ.นครปฐม บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้ากับพิธีรดน้ำร่างไร้วิญญาณราชินีลูกทุ่ง ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยลูกทุ่ง – ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2535 โดยร่างของ แม่ผ่อง สวมด้วยชุดสีขาวซึ่งเป็นสีที่คุณแม่ชื่นชอบ พร้อมทั้งใส่ผ้าพันคอสีขาวซึ่งเป็นผ้าพันคอผืนที่คุณแม่ใส่ถ่ายรูปเป็นประจำ ซึ่งเป็นการจัดชุดให้ตามคำสั่งเสียที่ก่อนหน้านี้คุณแม่ได้บอกกับลูกหลานไว้ โดยภายในพิธียังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาว และภาพถ่ายในอดีต ถ้วยรางวัลที่คุณแม่ภูมิใจ อาทิ รางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน, รางวัลเพลงยอดนิยมยอดเยี่ยม ปี 2519 และ 2520
โดยพิธีรดน้ำศพ แม่ผ่อง มีศิลปินแห่งชาติและลูกหลานในวงการเพลงลูกทุ่งมาร่วมงาน อาทิ วินัย พันธุรักษ์, ประยง ชื่นเย็น, นคร ถนอมทรัพย์, ชัยชนะ บุญนะโชติ, สิรินทรา นิยากร, เจนภพ จบกระบวนวรรณ, กรุง ศรีวิไล, โอบะ เสียงเหน่อ,หยองลูกหยี, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, ต๋อย ไตรภพ และอีกมากมาย ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีรดน้ำศพ จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.00 น. ก่อนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมคืนแรกเวลา 19.00 น. เป็นลำดับต่อไป
ขณะที่ จุก – บัญชา บุญนะโชติ ลูกชายบุญธรรมของ แม่ผ่อง เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า สาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของแม่ผ่องคือคุณแม่จากไปด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ซึ่งตรวจพบเจอประมาณหนึ่งเดือนก่อน แต่คุณแม่ไม่ยอมรับกับโรคดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะมีหลายคนเป็นห่วงและเดินทางมาเยี่ยม คุณแม่จึงตัดสินใจไม่บอกใครและไม่อยากรับรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาของโรคด้วย อีกทั้งคุณแม่ยังเป็นคนที่ประหยัดมัธยัสถ์จึงไม่อยากเสียเงินเพื่อซื้อยาครั้งละหลักหมื่นบาทเพื่อยื้อชีวิตตัวเอง ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการรักษาโรคมะเร็งปอดไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณแม่ผ่อง อุปนิสัยส่วนตัวของคุณแม่เป็นคนที่ประหยัดกับตัวเองเสมอ แต่กลับเป็นคนมีน้ำใจกับผู้อื่น คุณแม่เป็นคนไม่พูดถึงเรื่องราวของใคร หากจะพูดก็จะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับงานของคน ๆ นั้น ไม่พูดเรื่องส่วนตัว โดยจะไม่ทำให้คนอื่นเกิดความเสียหาย สิ่งที่คุณแม่ฝากฝังไว้ มีเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องของวงการเพลงลูกทุ่งที่คุณแม่ยังคงเป็นห่วง และเป็นคนที่ไม่ชอบให้นักร้องลูกทุ่งมาเต้นเหมือนนักร้องลูกทุ่งหลายคนในปัจจุบัน สำหรับเรื่องพินัยกรรมในฐานะลูกชายบุญธรรมเผยว่าคุณแม่เคยบอกไว้ว่าได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ โดยเป็นการเขียนเพื่อแบ่งทรัพย์สินต่าง ๆ บริจาคการกุศลทั้งหมด เป็นการเขียนด้วยลายมือของคุณแม่เอง แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้พินัยกรรมดังกล่าวได้หายไปอยู่ตรงไหน ขณะที่เงินเดือนจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2535 จนปัจจุบัน แม่ผ่องก็ไม่เคยเบิกเอามาใช้ และก่อนเสียชีวิตได้บอกไว้ว่าให้นำเงินในส่วนดังกล่าวถวายเป็นพระราชกุศลทั้งหมด
อีกทั้ง แม่ผ่อง ยังเคยบอกคนใกล้ชิดว่าหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้วเจ้าตัวจะไม่ไปไหนจะขออยู่รูปปั้นภายในพิพิธภัณฑ์ที่บ้านพุทธมณฑลสาย 5 สามารถให้แฟนเพลงเข้าไปศึกษาผลงานและกราบไหว้ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะที่อัฐิของคุณแม่ผ่องหลังจากเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว ทางครอบครัวตั้งใจจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.เก็บไว้ที่วัดไร่ขิง 2.นำไปเก็บไว้กับครอบครัวที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และส่วนที่ 3 เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ภายในบ้านย่านพุทธมณฑลสาย 5 .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน