ช่วงเช้าวันนี้ (9 ม.ค. 68) เจ้าหน้าที่ได้มีการนำตัว บอสพอล วรัตน์พล และ บอสกันต์ กันตถาวร ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปกับพวกรวม 16 คน มายังศาลอาญารัชดา เพื่อฟังคำสั่งฟ้องจากอัยการ หลังจากอัยการได้สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1, นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, ผู้ต้องหาที่ 3-16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19 ในข้อหา ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ขณะที่ ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ “บอสพอล” เปิดใจก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้ศาลนัดมาอ่านคำฟ้องให้จำเลยฟังและจะถามจำเลยว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ถ้ารับสารภาพก็พิจารณาคดี ถ้าปฏิเสธจะนัดสอบคำให้การและนัดตรวจพยานหลังฐานในช่วงมีนาคม-เมษายน สำหรับเรื่องการยื่นขอประกันตัว มองว่าควรยื่นประกันตอนที่ตรวจพยาน แต่ที่กังวลคือหลักฐานที่ดีดีเอสไอยื่นต่ออัยการมีมากกว่า 300,000 แผ่นซึ่งมองว่าเป็นภูเขาน้ำแข็ง โดยหลักฐานที่แท้จริงมันมีมากกว่านั้น คนที่รู้เอกสารดีสุดคือตัวของพนักงานและจำเลย จึงมีความจำเป็นจะต้องประกันตัวออกมา จะทำให้ตัวของจำเลยได้มาอธิบายหลักฐานให้ทนายจำเลยได้เข้าใจ แต่หลังจากนี้คงต้องวางแผนการยื่นประกันภายหลัง เพราะเดี๋ยวจะมีข้ออ้างยุ่งเหยิงพยานอีก วันนี้มองว่าจะให้จำเลยทุกคนแจ้งปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาไปก่อน ส่วนเหตุผลในการปฏิเสธจะมีการยื่นอีกครั้งโดยละเอียดในวันที่นัดสอบคำให้การ จะมีการประชุมกับทีมทนายอย่างจริงจัง พยานที่ DSI ไม่ได้ใช้ ตนก็ต้องใช้ยื่นเพื่อพิจารณา
ส่วนเมื่อวานที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง มิน พีชญา หรือ บอสมิน และ แซม ยุรนันท์ หรือ บอสแซม ในฐานะทนายมีความเห็นว่าดีมาก และรู้สึกดีใจมาก ยืนยันบริษัทไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย การที่ไม่ฟ้องถือเป็นความกล้าหาญที่จะยึดถือความยุติธรรม สิ่งที่อยากตั้งคำถามคือ ระหว่างการยื่นประกันได้คัดค้านการประกันตลอดการฝากขัง จะรับผิดชอบชีวิตของ 2 บอสอย่างไร เป็นเรื่องที่ภาครัฐต้องหาคำตอบว่าทำงานตามกระแสสังคมหรือเปล่า การอัยการสั่งไม่ฟ้องทั้ง 2 คน แสดงว่าไม่มีหลักฐานโยงไปถึงเลย ต่อให้ DSI แย้งตนก็ไม่ได้กังวลแทนบอสมิน-บอสแซม การตั้งคำถามกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่อายัดทรัพย์สิน ปิดช่องทางการต่อสู้ของจำเลยทั้งหมด มันมีความเป็นธรรมต่อจำเลยหรือไม่ แต่เข้าได้ว่า ตำรวจ DSI พนักงานอัยการ มีอำนาจรัฐในมือ แต่ตนไม่มีอำนาจรัฐ จึงพยายามต่อสู้โดยการยื่นประกัน อีกอย่างผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณามียอดสูงกว่านักโทษเด็ดขาด มันเกิดอะไรขึ้น เพราะการที่จำเลยติดคุก ไม่ได้ติดคุกเพียงคนเดียว ครอบครัวเขาติดคุกด้วย อย่างที่ผ่านมาตนได้เข้าไปเยี่ยมบอสแซมอยู่บ่อยครั้ง ก็จะได้เห็นครอบครัว ภรรยาและลูก ๆ ทุกครั้ง ฉะนั้นทนายทุกท่านที่เป็นภาคเอกชนต้องยืนหยัดเพื่อสิทธิของตัวเอง ก่อนจะเล่าต่อว่าได้เข้าไปเยี่ยมบอสกันต์ ก่อนที่อัยการออกคำสั่ง อีกฝ่ายยังปกติดี ยังคงไม่ยิ้มแย้มแต่พูดคุยได้ปกติ แต่พอถามว่าได้เจอภรรยาบอสกันต์ขณะเข้าเยี่ยมหรือไม่ ทนายคนดังอุบตอบคำถามนี้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน