กลับมาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ในรอบ 7 ปี ผู้กำกับมากฝีมือ “พิง ลำพระเพลิง” กับภาพยนตร์แนวคอมเมดี้บนสังเวียน “แสนสนั่นพันธุ์สั่นสู้” เรื่องแรกในปี 2568 โดยได้นักแสดงมากความสามารถมาประชันความฮา อาทิ “เก้า จิรายุ,ฝน ศนันธฉัตร,ชิน ชินวุฒ,อาไท และอีกมากมาย เตรียมเข้าฉาย 9 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์
ภายในงาน พิง ลำพระเพลิง ในฐานะผู้คลุกคลี ทั้งงานเบื้องหน้าและงานเบื้องหลังมานานเกือบ 20 ปียังเผยถึงสถานการณ์การสร้างผลงานสู่ตลาดภาพยนตร์ว่า ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ในฐานะผู้ที่เคยเขียนบททั้งภาพยนตร์และละครทุกวันนี้แทบไม่มีผู้จ้างงานติดต่อมาให้ทำงาน ซึ่งก็ถือเป็นความเข้าใจได้เพราะวงการบันเทิงมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนในฐานะคนเขียนบทเองก็ต้องมีการปรับตัว อย่างการกลับมาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเองอีกครั้ง โดยเป็นการลงมือทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่หาสปอนเซอร์ไปจนถึงติดต่อบริษัทในการทำโปรโมต ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเจ้าตัวมาก เพราะก่อนหน้านี้เวลาสร้างผลงานเจ้าตัวมักจะทำกับรูปแบบบริษัท สร้างงานแล้วให้บริษัทเป็นคนดำเนินการในเรื่องของการนำผลงานเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าการทำงานด้วยตัวเองในทุกขั้นตอนจะเดินทางมาถึงเร็วขนาดนี้ แต่ก็อยากเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกคน พร้อมย้ำต้องรู้จักการปรับตัวให้ได้
ขณะที่วงการภาพยนตร์ไทยเองในปีที่ผ่านมา พิงลำพระเพลิง มองว่าเป็นเรื่องราวที่ดี เพราะหนังไทยได้ออกสู่สายตาชาวโลกมากขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ที่ปัจจุบันติดหนึ่งใน 15 รายชื่อ สาขา ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม บนเวทีประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 ยกระดับฝีมือคนไทยอีกทั้งยังปลุกไฟในตัวของผู้กำกับรายอื่นไม่เว้นแม้แต่ พิง ลำพระเพลิง ที่อยากกลับมาสร้างภาพยนตร์เป็นของตัวเองอีกครั้ง สำหรับภาพยนตร์หลานม่าจะเข้าชิงถึงรอบ 5 เรื่องสุดท้ายหรือไม่ ส่วนตัวมองว่า เราชนะตั้งแต่ที่รางวัลนี้มองเห็นผลงานที่สร้างจากคนไทยแล้ว
สำหรับวงการละครไทย พิง ลำพระเพลิง เปรียบเทียบให้เห็นว่าขนาดเจ้าตัว ที่มีคอนเนคชั่นทั่วฟ้าเมืองไทยก็ไม่มีใครติดต่อจ้างงานเขียนบทมาเป็นปี ผู้ที่เป็นนักเขียนโดยเฉพาะฟรีแลนซ์ หลังจากนี้แนะนำให้รู้จักการปรับตัว ความช่วยเหลือจะไม่เดินทางมาถึงถ้าเราไม่กรุยทางรอ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ภาพ : pinglumprapleng