นนกุล แย้มเหตุผลยอมเปิดใจคุย แอฟ ทั้งที่เป็นคนโลกส่วนตัวสูง เผยข้อตกลงที่ต้องทำเป็นรีทีนทุกวัน

พระเอกหนุ่มหน้าใส นนกุล ชานน สันตินธรกุล เปิดใจในรายการ WOODY FM เล่าถึงเส้นทางการเป็นนักแสดงที่เริ่มต้นจากเด็กที่ไม่รู้อะไรเลย แต่แคตงานผ่าน และได้รับคำชม จนฝันใหญ่ถึงขั้นอยากไปฮอลลีวูด วันนี้รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้น แต่เป็นเรื่องยากเหลือเกินในการที่จะขยับไปข้างหน้ากว่านี้ แม้จะยังไม่หมดไฟแต่ก็มีความรู้สึกเอื่อย ๆ ยอมรับเป็น Introvert ไม่ชอบเข้าหาใคร ยอมเปิดใจคุยกับ แอฟ ทักษอร เพราะอยากมีคู่ วันนี้รู้สึกอิ่มกับความรักบริสุทธิ์ที่คนของใจมอบให้


โดย นนกุล เล่าว่า “ผมเป็นคนที่ทุ่มเทและจริงจังในการแสดงมาก ๆ มีผู้กำกับท่านหนึ่ง แต่จำชื่อไม่ได้ เป็นคนแรกที่ทำให้จุดประกายความชอบ จำไม่ได้ว่าหนังสั้นหรือโฆษณา แต่วันนั้นตนยังเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรในชีวิต ยังไม่มีความฝัน แต่ได้ลองไปแคตงานแล้วได้งานชิ้นนั้น หลังจบงานผู้กำกับเดินมาพูดแค่ประโยชน์ง่าย ๆ ว่า “พี่ชอบแอ็คติ้งของเรานะ” พอเราเป็นเด็กที่ยังไม่มีความฝันอะไร การที่เราได้มาอยู่ในโลกของมืออาชีพแล้วเราได้รับคำชม เลยมีแรงบันดาลใจว่า ถ้าเราไปต่อล่ะจะไปได้ถึงไหน ลองฝันให้ใหญ่สุด ๆ ไปเลยไหม ได้ไม่ได้ไม่ว่ากัน น่าจะนำพาให้เราไปสู่จุดที่ดีได้ เลยเป็นที่มาว่าช่วงแรก ๆ ของวงการเวลาไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็จะบอกว่าอยากไปฮอลลีวูด แต่ล่าสุดไฟไม่แรงเหมือนสมัยก่อนแล้ว ตอนนี้พลังงานในตัวน่าจะ 60-70 % สมัยก่อนที่เรายังไม่มีคอนเนคชั่นในวงการ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวงการบันเทิง แต่ความที่อยากรู้ อยากได้ อยากค้นหาขวนขวาย ยังไม่มีใครรู้จัก มันเฟรชสำหรับเรา ได้เจอเพื่อนนักแสดงใหม่ ๆ ได้ลองงานอะไรใหม่ๆ ก็ได้เห็นการเติบโตของเราที่มันเร็วมากในช่วงที่เริ่มต้น พอมันผ่านมาหลายปีคือทุก ๆ ช่วงเวลาของชีวิตมันจะชอบมีช่วงกราฟที่สูงขึ้น แต่พอถึงจุดหนึ่งก็จะเริ่มช้า เริ่มยาก ซึ่งเราคิดว่าเก่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำได้ดีกว่าเมื่อก่อนอีกนะ แต่ทำไมมันยากเหลือเกินในการที่เราจะขยับไปข้างหน้ากว่านี้ ก็เลยมีความรู้สึกเอื่อย ๆ ไฟมันหมดไหมก็คงบอกว่ายังครับ”

“ประกอบกับเราเป็น Introvert ไม่ชอบเข้าหาใคร แล้วก็ไม่พยายามด้วย ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อนอะไร ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่หลายคน ผมทำทุกอย่างเองได้หมด ดูหนัง กินข้าว ฟิตเนส สบายมากครับ แต่สุดท้ายนิสัยส่วนตัวมันไม่สามารถสู้สัญชาตญาณดิบเถื่อนของมนุษย์ได้ ผมมองว่ามนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคม เราก็คงอยากมีคู่อยาก เราจะเหนื่อยเวลาคนคุยเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นเป็นข้อได้เปรียบของ Introvert ตรงที่ว่าพอเราเหนื่อยที่จะคุยกับคนเยอะ ๆ เราก็ขอแค่คุยกับคน ๆ นี้แค่คนเดียว แล้วเราก็พอแล้ว หรือมันคงเป็นแค่ความก็เขาน่ารักดี สวยดี ฉันอยากอยู่ด้วยกับเขา ไม่มีอะไรซับซ้อน ถามว่าพลังงานที่ผมได้จากพี่แอฟเป็นแบบไหน ผมรู้สึกว่าความรักพี่เขามันบริสุทธิ์มาก หมายความว่ามันมีความรู้สึกบางอย่างที่ผมสัมผัสจากพี่เขา แล้วได้รับความรักจากผู้หญิงที่เด็กและโตในเวลาเดียวกัน มันบริสุทธิ์เหมือนเด็กมาก ๆ ในขณะเดียวกันก็มีเชิงเหมือนผู้ใหญ่ ถ้าชอบอะไรก็บอกว่าชอบ แล้วถ้าเกิดเขาบอกว่ารู้สึกดีกับผมเขาก็พูดแบบใสมาก ๆ จนบางทีเรายังตกใจเลย รู้สึกว่าพี่เขาก็มีประสบการณ์ความรักมากกว่าผมเยอะเลย แต่ว่าทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นคนที่เชื่อในความรักที่ดีอยู่เหมือนเดิมเลย และก็ยังคงมอบให้กับผม ซึ่งตรงนี้เวลาได้รับแล้วผมรู้สึกอิ่มมาก ๆ ครับ”

“เราอิสระกัน เวลาไปไหนมาไหนจะเป็นการพูดแบบชวนคุย ไม่ได้แบบรายงาน แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอเราคุยกัน ตอนหัวค่ำในแต่ละวัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมคุยกับพี่แอฟว่าก็ต้องมีนะเป็นรูทีน ก็จะมีคำถามปิดจบอยู่แล้วครับว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง เพราะเรายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่าการที่เราได้คุยกันอย่างน้อยทีละนิดที่ละหน่อยในแต่ละวันมันก็ดี ที่ผมอยากให้เป็นกลางคืนก็เพราะว่ามันเป็นช่วงสุดท้ายของวัน ได้เสร็จสรรพอะไรเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ตอนกลางวันที่บางทีเรารีบ ๆ อยู่ แล้วจะได้ตั้งใจฟังซึ่งกันและกันจริง ๆ ว่าวันนี้เราทำอะไรมาบ้าง ที่ตั้งใจให้เป็นรูทีน เพราะถ้ายิ่งทะเลาะหรืออะไรกันอยากให้จบภายในวันนั้นเลยไม่ข้ามวัน”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 182 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม