นักร้องสาวมากความสามารถ “หญิง รฐา” เล่าเรื่องราวสุดซาบซึ้งที่ได้เป็นตัวแม่ของเหล่า LGBTQ ขอบคุณทุกแรงสนับสนุน 2002 ราตรี ที่ทำให้คนจดจำจนถึงวันนี้ ลั่น! จะเต้นจน 80 ก็ยังไหว ด้านชีวิตคู่คงไม่คิดมีทายาท เพราะมีความสุขอยู่กับตรงนี้แล้ว ในรายการ WOODY INTERVIEW
ด้วยการที่เป็นตัวแม่ของกลุ่ม LGBTQ มีหลายเหตุการณ์มากที่พวกเขาจะชื่นชอบในตัวคุณ เล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจให้ฟังหน่อย ?
หญิง รฐา : เราก็ทำงานเป็นนักร้องจากเพลง จินนี่จ๋า ก็เกือบ 20 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเห็นการเติบโตของน้อง ๆ กลุ่มนี้ที่เติบโตไปกับเรา จะเห็นเขาตั้งแต่เรียน รด. ใส่ชุดมาแล้วก็แบบพี่ขอลายเซ็นวิ่งตามรถเรา จนวันหนึ่งเขาก็เติบโตเหมือนกับทำรายการอยู่ในแกรมมี่ เห็นเขาเดินอยู่ในตึกแกรมมี่ เป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี จากแฟนคลับกลายเป็นน้องคนหนึ่งที่เราสนิทเพราะว่าเหมือนเราเติบโตมาด้วยกัน แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำรายการออนไลน์ด้วยกัน ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าเป็นมากกว่าแค่แฟนคลับ จนทุกวันนี้ก็จะไปเที่ยวดิสนีย์ ชอบดิสนีย์เหมือนกัน ส่วนอันนี้เรารู้สึกประทับใจส่วนใหญ่ก็จะมีเดินเข้ามาแล้วก็น้ำตาคลอ ตัวสั่นแล้วก็จับเรา พูดว่าแม่ทำให้หนูรู้จักตัวเอง เป็นโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่าอาชีพนี้มันจะทำให้คน ๆ หนึ่งได้รู้จักตัวเอง คำว่ารู้จักตัวเองมันใหญ่มากนะสำหรับหญิง การที่เราได้ Come Out กับทุก ๆ คนรวมถึงตัวเราเอง ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นแล้วก็ให้ครอบครัวรู้ แล้ววันหนึ่งเขาก้าวมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม มีอาชีพที่ดีในสังคม เลยรู้สึกว่ามันก็เท่ดีนะ การที่เราเป็น 2002 ราตรี เป็นอะไรที่สร้าง Inspiration ให้คน
พอได้รับการสนับสนุนการครอบครัวด้วยก็จะเป็นอะไรที่ผลักดันให้เขายิ่งมีพลังมากขึ้น ?
หญิง รฐา : ใช่ สำหรับหญิงเอง รู้สึกว่าไม่ใช่แค่เขานะเราด้วย ถ้าไม่มีพวกเขาสนับสนุนเชื่อว่าจินนี่จ๋า หรือตัวหญิง ตัวพี่แคท เพื่อน ๆ ในวง 2002 ราตรี ก็จะไม่ได้เดินทางกันมานานขนาดนี้ เพลงมันทำงานได้มาเป็น 20 ปี เพราะพวกเขานะ แล้วเราก็ได้มีคอนเสิร์ตขึ้นก็เพราะพวกเขาเหมือนกัน มันก็เป็นความภูมิใจของพวกเรา
ก็โตกันไปถึง 80 ปี ?
หญิง รฐา : ก็ยังเต้นไหวค่ะ (หัวเราะ)
พูดถึงการเป็นตัวแม่แล้วในชีวิตจริงความเป็นตัวมัมจะเกิดขึ้นไหม ?
หญิง รฐา : ไม่ค่ะ คุยกับสามีแล้วค่ะ คุยกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานเลย ช่วงเวลาที่เราคบกันจะคุยกันถึงอนาคตอยู่แล้ว เขาก็จะบอกว่ามองไม่เห็นว่าเราจะมีอนาคตในรูปแบบของการเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีลูกหญิงคิดยังไง คือจริง ๆ ถ้าหญิงแต่งงานเร็วกว่านี้ ประมาณ 30 ต้น ๆ คงคิดว่าหญิงอาจจะมี แต่พอหญิงแต่งเกือบ 40 แล้ว ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเราไม่เหนื่อยดีกว่า ก็คิดเหมือนกัน แล้วก็ไลฟ์สไตล์ด้วยแหล่ะที่เรายังชอบจะเดินทางใช้ชีวิต หลาย ๆ ครั้งที่เราเจอเพื่อน ๆ ที่มีครอบครัว เขาก็จะบอกว่าไม่มีดีแล้ว (หัวเราะ) เราก็เลยโอเค เลี้ยงลูกเพื่อนค่ะ ชอบสปอย์ลูกเพื่อน ในการเกิดเป็นมนุษย์บางทีเราไม่ต้องทำทุกอย่าง ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้ รู้ในแบบที่เราอย่างรู้พอ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่เขากำหนดมาให้เราอยากเป็นก็ได้ จริง ๆ การมีลูกมันคงไม่ใช่ทุกข์อย่างเดียวมันมีสุขด้วย เพียงแต่เราอาจจะสุขอยู่กับตรงนี้และเราโอเคแล้ว .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน