เจี๊ยบ ลลนา ไม่กลัวอาถรรพ์รัก 7 ปีแฟนสาว เฮ!กฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน ขอบคุณคำชมเกิดมาเพื่อเป็นหมอ

หลังจากที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทยผ่าน นักแสดงมากความสามารถ “เจี๊ยบ ลลนา” ในฐานะเป็นหนึ่งคนใน LGBTQIAN+ เปิดใจว่า ขอบคุณทุกคนที่ทำให้มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน วันนี้เหมือนฝันเป็นจริง แต่เหลือแค่วันประกาศใช้ แต่สำหรับคู่ตนกับแฟนนอกวงการ “เดียร์ บุศรา สาคร” ยังไม่ได้คุยเรื่องฤกษ์ไปจดทะเบียนกัน ซึ่งตอนนี้คบกันมานาน 7 ปีแล้ว ไม่กังวลเรื่องอาถรรพ์รัก 7 ปี เพราะเชื่อในการกระทำที่มีต่อกันและกันมากกว่า ช่วงเวลา 7 ปี ไม่มีอะไรต้องปรับ เหมือนเป็นทุกอย่างให้กัน เป็นแฟน เป็นเพื่อนคู่คิด ล่าสุดก็ได้เป็นคนเลี้ยงเป็ดให้แล้ว วันสำคัญแบบนี้ ตนไม่ได้มีของขวัญวันครบรอบ เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ต้องการอะไร อยากเก็บเงินมากกว่า


เรื่องการแต่งงานสำหรับ “เจี๊ยบ” มันไม่ได้สำคัญ เพราะเหมือนได้เริ่มต้นใช้ชีวิตไปกับ “เดียร์” ไปแล้ว สิ่งที่เราต้องการเป็นเรื่องของกฎหมาย และโมเมนต์ความอบอุ่นที่มีให้กันมากกว่า ที่เราคบกันได้นานเพราะว่าไม่จำเป็นต้องมีใครเป็นผู้ตาม-ผู้นำเสมอไป ถ้ามีใครอ่อนแอไป คนหนึ่งก็เข้มแข็ง ต่างคนต่างเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกันดีกว่า พร้อมบอกว่า ความสม่ำเสมอที่มีให้กันทั้งคู่คือ ไม่มีวันไหนที่ไม่รักกัน ตนเองก็มีความกวนประสาทที่มีให้อย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน

อีกหนึ่งหน้าที่ของ “เจี๊ยบ” กับหมอฉุกเฉิน ที่แม้ช่วงนี้จะไม่ได้อยู่เวรดึกมากเท่าเดิมแล้ว เนื่องจากอาการแพนิกที่เป็นมาปีกว่า แต่เป็นสิ่งที่หยุดทำไม่ได้ แต่ทำแล้วได้ให้อะไรกลับมาหลาย ๆ อย่าง ที่สำคัญคือสอนให้ปลงชีวิต เพราะบางทีใช้ชีวิตด้วยความประมาท หรือใกล้ความเจ็บปวด แต่จริง ๆ อยู่รอบตัวเรา ทำให้ตอนนี้ใช้ชีวิตเต็มที่กับสิ่งที่ตนอยากทำ และอย่าไปทำใครเดือดร้อน เจ้าตัวยังขอบคุณทุกคนที่ชมว่าตนเกิดมาเพื่อเป็นหมอช่วยชีวิตคนจริง ๆ


นอกจากนี้ยังช่วยเหลือสังคมกับมูลนิธิเล็ทส์ บี ฮีโร่ส์ ที่ตนก่อตั้งมาตั้งแต่เรียนจบหมอฉุกเฉิน ซึ่งเป็นมูลนิธิตระหนักถึงความสำคัญในการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นได้ทันท่วงทีและเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยและส่งเสริมความรู้ความเข้าใจการทำ CPR ซึ่งกันยายนก็จะไปรักษาผู้ป่วยยากไร้ ที่จังหวัดเลย และทุกเดือนทุกมีสอน ทำ CPR ขอบคุณประชาชนและคุณหมอทุกคนลงพื้นที่ไปรักษาคนไข้ด้วยตนเอง ตนเป็นแค่กระบอกเสียงที่ทำให้รู้ว่ามีโครงการแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นรู้สึกชื่นใจ ที่ได้ส่งต่อความสิ่งดี ๆ ให้กับทุกคน และคนที่ได้รับก็จะได้ช่วยเหลือคนอื่นต่อไป โดยตอนนี้มูลนิธิเล็ทส์ บี ฮีโร่ส์ เจอความยากลำบากเพราะต้องตามหาเคสด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีหน่วยงานโรงพยาบาลชุมชนที่ลิสต์ความต้องการความช่วยเหลือมาให้ก็จะช่วยเหลือได้ทัน เพราะตนก็มีกำลังพอที่จะช่วยเหลือ ลองติดต่อมาได้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 85 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม