ปู มัณฑนา ยันจ่าย 1.4 ล้านก้อนเดียวจบ แต่ ลูกหมี ต้องเดินสายออกรายการขอโทษก่อน ส่วนกรณีหมิ่นฯ ออกสื่อ แค่ขอโทษไม่พอต้องหาวิธีเยียวยา ย้ำบ้านไม่ถังแตก มีที่ดินมากกว่า 100 ไร่ รวมมูลค่าเป็นร้อย ๆ ล้าน

ปมหนี้สินที่ร้อนแรงที่สุดนาทีนี้ หนีไม่พ้นกรณีของนักแสดง ปู มัณฑนา ที่ติดหนี้ ลูกหมี รัศมี และ ลิลลี่ เหงียน หลักล้านบาท ซึ่งมีการทวงถามแล้วแต่อดีตนักแสดงไม่คืน แถมจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้าน ทำให้มีลูกหนี้คนอื่นโผล่อีกเพียบ จนต้องไปจบที่แจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ต่อมามีการนัดไกล่เกลี่ยกันแต่ไม่สำเร็จ ตำรวจจึงนัดอีกครั้งวันที่ 16 ก.ค.นี้


จากนั้น ปู ขอเจรจาหนี้จาก 2 ล้าน เหลือ 1.4 ล้าน ซึ่ง ลูกหมี รับเงื่อนไข แต่ขอให้จ่ายเงินทีเดียวเลย ตรงนี้ “ปู” บอกไม่สะดวกจ่าย และจะดำเนินคดีกลับ “ลูกหมี” ที่ไปหมิ่นประมาทออกทีวี กระทั้ง ปู ไปออกรายการมีบางช่วงพูดว่า “ลิลลี่ เหงียน” พามิจฉาชีพมาทำให้ “ปู” เป็นหนี้ 5 แสนบาท ต่อมามีภาพ “ปู” นอนป่วยเข้า รพ. เพราะเครียดจากการเข้าไปดูไลฟ์สดที่ทนายของคู่กรณีต่อว่าด่าทอจนเครียด ต่อมาวันที่ 9 ก.ค. ลูกหมี – ลิลลี่ พร้อมด้วยกลุ่มเจ้าหนี้ไปออกรายการ “โหนกระแส” ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดวันนี้(10 ก.ค. 2567) ปู มัณฑนา ควงสามี หาญส์ หิมะทองคำ พร้อมด้วย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช เดินทางไปร่วมรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ก่อนออกมาเปิดใจกับกองทัพสื่อมวลชนอีกครั้ง ปมหนี้สินทั้งหมด


โดยทนายประมาณกล่าวก่อนว่า เรื่องนี้ความยากคือ เจ้าหนี้มาทวงถามไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ฟ้องไปตามรูปคดี แต่มันผิดปกติคือ ปูเขาส่งดอกเบี้ยมาตลอด ก่อนวันเกิดเรื่อง เพิ่งจะผิดนัด แล้วเขาก็ไปแจ้งความเลย วันที่ 4 มันต้องคุยว่าจะเอาไงให้คดีเสร็จไป เลยไม่สามารถทยอยจ่ายได้ เงินที่ลงทุนต่าง ๆ มันขาดมือ การถูกโกงที่ดิน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่ชำระหนี้

หนี้เหล่านี้ชำระครับ แต่ผมตรวจสอบเงินคุณปู กับลูกหมี โอนไป โอนมา ตั้งแต่ปลาย ก.ย. – ธ.ค. และ ม.ค. ดูจากยอดมันมีเงินที่เขย่งกันอยู่ 1.4 ล้าน ฉะนั้น เงินที่จะไกล่เกลี่ย คือ 1.4 ล้าน เคสนี้สัญญากู้ 2 ล้าน แต่ทั้งหมดไม่ใช่หนี้จริง แต่เงินที่คุณลูกหมีกันคุณปู มันเกินกันอยู่ ในทางกฎหมาย ต้องชำระตามมูลหนี้จริง ๆ ไม่ใช่ตามสัญญาที่เขียน เรื่องนี้ยึดหลักยุติธรรมคือ 1.4 ล้าน ส่วนหนี้ถ้าจ่ายให้แล้วมันก็ไม่จบ เพราะมีคดีหมิ่นประมาท ทวงถามผิดกฎหมาย วันนั้นที่ไกล่เกลี่ยหนี้ ผมบอกผมจ่าย 1.4 ล้าน ส่วนใครทำคดีอะไรผิดก็ไปว่าตามคดีที่เกิดขึ้น ไปขึ้นโรงขึ้นศาลอีก ก็ไม่จบ การปรองดองที่ดีคือต้องจบ จับมือกัน ต่างคนต่างทำมาหากิน แต่การชำระ 1.4 บาท แล้วยังต้องขึ้นศาลอยู่ มันไม่ใช่การจบคดี คือ 1.4 ล้านอันนี้ ไม่เกี่ยว คดีหมิ่นประมาท ฝั่งปูชำระ 1.4 บาทแน่นอน ส่วนหมิ่นประมาทจะแก้ไขยังไง ดูผลไกล่เกลี่ย 16 ก.ค. 2567 อีกที จ่ายแน่ แต่คดีหมิ่นประมาทจะเยียวยายังไง วิธีทวงถามจัดการ ยังไม่จบ

ด้าน “ปู มัณฑนา” เผยว่า “วันนั้นในห้องไกล่เกลี่ยมี 4 คน เรา ตำรวจ ปู หาญ ลูกหมี ทนายกิ่ง ทุกคนโอเค อยู่ที่ 1.4 บาท เราถามลูกหมีว่า เขาจะเยียวยาชดเชยเรายังไงที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เขาบอกจะเดินสายขอโทษทุกรายการ พอขอโทษจบเราจะจ่าย 1.4 ล้านบาท แต่อยู่ ๆ มีคนบอก ผมไม่จบ 1.4 ใครบอกว่าลูกความผมจะเอา เลยไม่จบ ซึ่งมันไม่ใช่เขาลดให้ แต่มันคือมูลหนี้จริง 1.4 ล้านบาท ทางออกของเรื่องคือให้คนกลางหรือศาลตัดสิน ปูไม่รู้ว่าใครยุยงให้พูดว่า ให้เริ่มต้นที่ 2 ล้าน วันนั้นเราคุยกันด้วยดีแล้ว แต่พอมีคนมายุ พี่ลูกหมีก็เปลี่ยนไป ลูกหมีบอกต่อหน้าเจ้าหน้าที่ก่อนว่าจะตระเวนเดินสายขอโทษเราก่อน แล้วจ่าย 1.4 ล้านบาท แต่เรื่องคดีเป็นส่วนคดีไป ตั้งใจจ่ายก้อนเดียว 1.4 ล้าน เราไม่เคยบอกเขาว่าไม่จ่าย เราติดต่อกันตลอด ไม่เคยหายไปไหน ในขนาดที่เขาแจ้งความเราแล้ว ยังส่งข้อความมายินดีกับเราว่าลูกสอบติดจุฬาแล้ว”


ทนายเสริมว่า “ส่วนถ้าจะให้ยุติคดีหมิ่นประมาท คือแค่คำขอโทษมันพอมั้ย มีวิธีการที่ดีกว่านี้ไหม แบบไม่ต้องว่าความกันอีก ทำกันขนาดนี้ คำขอโทษมันจบเลยไม่ใช่ แค่คำขอโทษมันพอเหรอครับ เดินสายทำลายชื่อเสียงกันขนาดนี้ ยังไม่ได้ประเมินความเสียหายเลย ตราบใดไม่มีการเยียวยาให้ผ่อนคลายได้ คือให้เขาเสนอมา เพราะตอนนี้คิดไม่ออก แต่ไม่ใช่การต่อรองเพื่อชำระหนี้ มันหลายกรรม หลายวาระ เอามาเทียบกันไม่ได้ ของปูหาญส์ มันกระทบถึงลูก มันยิ่งลึกเข้าไปอีก ไม่ใช่ทวงแล้วไม่ได้นะ ทวงแล้วได้ตลอด ไม่ใช่หายไป 3-4 เดือน นี้ห่างแค่ 10 กว่าวัน คดีเช็คไม่ใช่มูลหนี้ มันเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่อาชญากร มันไม่เข้าองค์ประกอบความผิด แล้วไปแจ้งอาญา มันไม่ได้”

นักแสดงสาว เผยต่อว่า “ในเรื่องเช็ค ลูกหมีรู้ดีว่าขอเช็คเพื่อค้ำประกัน เพื่อความสบายใจ ไม่ใช่เอาไปขึ้น เขาส่งสัญญาเงินกู้เปล่า ๆ มาโดยที่ไมได้เขียนอะไรเลย เขาบอกจะเขียนดอกเบี้ยไปได้ไหม ที่เรายอมเซ็นกระดาษเปล่าเพราะยอดมันไม่เยอะ เรามั่นใจว่าถ้าเก็บเพื่อนไม่ได้ เราก็จ่ายเขาไป เรามีปัญญาจ่ายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสัญญาพี่อยากให้ลูกหมีสาบานจริง ๆ คือเขาพยายามไปชวนคนให้ออกมาเยอะ ๆ เพื่อให้เป็นคดีฉ้อโกง แต่คนที่เรารู้จักมีแค่ 2-3 คนเท่านั้น”

เจ้าหนี้มีเยอะมั้ย ? ปู เผย “ถ้าบอกว่า 8 ล้านภูเก็ต นี้คือใคร ก็ออกมาสิค่ะ พูดให้เราเสื่อมเสียชื่อเสีย มีช่างแต่งหน้า น้องนางเอก คอสตูม ยืมเราจริง ๆ เราไม่เคยคิดดอกเบื้ยเขาเลย มีก็คืน ไม่มีเราก็ไม่เคยทวง น้องนางเอกช่อง 7 เราไม่อยากพูด เดี่ยวเขาจะเสียหาย ถ้าบอกว่าเราเป็นหนี้จริงก็ให้ส่งหลักฐานมา เราไม่ขอโทษ เราเป็นหนี้ต้องใช้ เราไม่มีปัญหากับเขาเลย กับน้องลิลลี่ วันที่ 18 เรายังกินเที่ยวกับเขาที่ทองหล่อกับหลังสวนอยู่เลย แต่พอ 20 เขาไปออกกับลูกหมีเลย เขาโทรมาบอกว่า ขอโทษนะเราต้องไปออกรายการกับลูกหมี ถ้าไม่ไปเขาจะเป็นหมา แต่เรื่องที่เราโดนโกง 5 แสน เขาโอนสลิปไปแล้ว 4 แสน ให้ลิลลี่ช่วย 1 แสน แล้ว ลิลลี่ จะมาเป็นพยานให้เรา”

หาญส์ “บริษทที่ให้เข้ามาช่วยดูเรื่องเงิน เราไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เป็นบริษัทที่ดูเรื่องการเงินมา 10 ปีแล้ว ไปเข้าระบบได้ชำระให้ถูกต้องกัน เพราะเราไม่ทราบว่าคือใครบ้าง พอทำธุรกรรมกันเองแต่ไม่บอกผม แต่พอมีปัญหาเราก็ต้องมารับผิดชอบ ลึก ๆ เราเห็นว่าเขาไปลงทุน เขาทำของเขา เราไม่รู้ อยู่บ้านเดียวกันแต่เราไม่เคยทราบ”

ปู ย้ำเพิ่ม “เราไม่ได้ยืมเงินใคร แต่เขาอยากให้ยืมมาปล่อยดอก เขาทำธุรกิจกับเพื่อน ปล่อยดอกให้ร้านแว่น 10 15 20 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่ได้ดอก เลยมาปรึกษาว่าอยากหาเงินเพิ่ม เรามีเพื่อนทำธุรกิจร่วมลงทุนด้วยกัน อยากให้เราเอาเงินเขามาปล่อยดอกเพื่อร่วมลงทุน เป็นเรื่องของแม่ ๆ พี่หาญส์ไม่รับทราบ ในฐานะหัวหน้าครอบครัว พอทราบเรื่องก็ให้เอาบริษัทเข้ามาเคลียร์ให้เรียบร้อย ขอให้เป็นเจ้าหนี้ตัวจริง เราจะช่วยเคลียร์ตามนั้น”

มีข่าวว่าบ้านถังแตก ? ปู ตอบทันที “ไม่มีค่ะ วันนั้นน้องลิลลี่พาน้อง ก. มา เขาเหงา ๆ อกหัก นัดเจอกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คุยกันวันนั้น คุยว่าเรามีปัญหาที่ดิน น้องก. บอกรู้จักอัยการ ศาล สามารถช่วยเหลือได้ พยายามขอเงินเราในวันนั้น 5 แสน แต่เราเพิ่งรู้จักกัน จะให้โอน 5 แสนเลยมันไม่ใช่ บอกไปว่าไม่มีเงินจริง ๆ จังหวะนั้นลูกเราโทรมาขอเงิน ลิลลี่โอนให้ลูกเรา แต่วันรุ่งขึ้นเราก็โอนคืนให้หมดเลยทั้งค่าอาหารและเงินค่าเน็ตลูก ส่วนเรื่องมีการข่มขู่ให้เอาหลักฐานมาว่าใครขู่ มีแต่พี่ลูกหมี ไปบอกทุกพรรคการเมือง ว่าเมียหาญส์ ติดหนี้ เช็คเด้ง มีสส. หลายคนโทรมา เราเสียใจมากทำให้พี่หาญส์เสื่อมเสียชื่อเสีย ไปพูดกับหลายพรรค อีกอย่างตอนนี้มีคนแอดไลน์มาเยอะมากทั้งตัวจริง ตัวปลอม ตอนนี้ใครไม่รู้แอดไลนน์มา แต่เรารู้ว่าใครทำธุรกิจกับเรา เรามีทั้งเจอมิจฉาชีพและเจอตัวจริง การเป็นหนี้เราจ่ายอยู่แล้ว ขอแค่เป็นหนี้ถูกกฎหมาย เรามีทรัพย์สินพร้อมจะจ่ายแต่ขอให้มาถูกต้อง”

กับน้องลิลลี่ ? “ไม่รู้ว่าไปโดนใครยุหรืออะไร เมื่อวาน(9 ก.ค.)ถึงด่าพี่แรงมาก เสียใจเพราะรักและเอ็นดูน้องมาก ๆ ยังส่งแชตไปบอกเขาว่าไม่ถือสาน้องเพราะรู้น้องเป็นคนยังไง น้องอยากเป็นดารา นักแสดง ที่เราพาไปกองถ่ายเพราะเขาอยากเจอดารา 2 คนที่ชื่นชอบ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไปทานอาหารด้วยกันบ่อยมาก เราเป็นพี่โตสุด เราเลี้ยงทุกคนทั้งลูหหมี ลิลลี่ แต่ในการที่เขาเลี้ยงเรามื้อเดียว ก็ไปพูดเหมือนเป็นบุญคุณ แต่เราโอนเงินคืนเขาหมด หลังจากนี้ ปูกับลิลลี่ ยังรักเหมือนเดิม แต่เรื่องคดีความก็ว่ากันไป ส่วนเราจะฟ้องใครบ้างขอกลับไปคิดก่อนเผื่อจะใจเย็นขึ้น แต่น้องก็ด่าเราเยอะ”

ปูยังเปิดใจทิ้งท้ายอีกว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนน้ำหนักลดไป 7 โล เข้ารพ. 6 ครั้ง กระแสโซเชียลด่าเยอะมาก แล้วทนายเดชาไลฟ์ด่าทุกวัน ทนายกุ้งด่าทุกวัน ทุกวันนี้ต้องทานยาเป็น 10 เม็ดกว่าจะนอนได้ ต้องพบจิตแพทย์ ตั้งแต่เข้าวงการมาเป็นสิบปีไม่เคยมีเรื่องเสียหาย แต่มันมามีปัญหากับเพื่อน มิตรภาพดี ๆ ที่ผ่านมา เราเลี้ยงเขาตลอด แต่ในสิ่งที่น้องทำกับพี่มันมากเกินไป เรายืนยันไม่ได้ถังแตก เรามีที่ตรงลานจอดรถที่รพ.มูลค่า 180 ล้าน หลังรพ. มีที่อีก 8 ไร่ ทำธุรกิจให้เช่า มีที่อีก 4 ไร่แถวศรีนครินทร์ ที่ดินคลอง 13 เกือบร้อยไร่ คือมีที่ดินเยอะมาก ทำอสังหาด้วย ไม่ได้ถังแตก พี่ชายมีหน้าตาทางสังคม เราเป็นสะใภ้ตระกูล ขอโทษที่เป็นสะใภ้แล้วทำให้ทุกคนเสื่อมเสียชื่อเสีย ส่วนครอบครัวเข้าใจและซัพพอร์ต แต่มีอาจารย์โทรมาบอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์สอบในบางราวิชาเพราะลูกไม่เข้าชั้นเรียน เป็นผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้น เราแค่อยากให้พี่ลูกหมีออกมาพูดความจริงทั้งหมดเท่านั้น.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 357 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม