เป็นช่วงขาขึ้นสุด ๆ สำหรับนักร้องชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ เพราะประกาศคิวงานแต่ละเดือนออกมา เรียกว่าไม่เคยต่ำกว่า 40-50 งาน จนทำให้การรับงานในต่างประเทศโดนบีบไปในตัว แต่ล่าสุด นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ เจ้าของค่ายเพลง ไหทองคำ ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า “#ลำไยขึ้นเเท่นเป็นSoft Power คนล่าสุดของไทยพร้อมคิวออนทัวร์ทั่วไทยเเละทั่วโลก” ซึ่งทำให้มีแฟน ๆ เข้ามาร่วมชื่นชมและแสดงความยินดีล้นหลาม รวมถึงเปิดใจถึงคอนเสิร์ตใหญ่ที่เคยประกาศวันที่ 1 ธ.ค. 2567 มีเหตุให้ต้องเลื่อนออกไปก่อน
วันนี้(9 ก.ค. 2567) ทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน สายตรงสอบถาม นายห้างประจักษ์ชัย เจ้าตัวเปิดใจว่า “เราเห็นศักยภาพน้องมาพอสมควร กับกระแสตอบรับน้องในทิศทางที่ไปได้ทั่วโลกอยู่ เลยมองว่าหลังจากนี้น่าจะขยับการแสดงของน้องที่นอกจากในไทย เราน่าจะไปเผชิญกับโลกภายนอกได้แล้ว ที่จริงมันโดนบีบด้วยคิวน้องในประเทศที่แน่นอยู่แล้ว แต่ผู้จัดจากเกาหลี ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา บราซิล เปรู เรารู้ว่าขีดความสามารถที่ลูกค้าโทรเข้ามา เราน่าจะอัปการแสดงของเราขึ้นมาอีกระดับนึงแล้ว ที่จริงอยากจะให้รัฐบาลมองในเรื่องศิลปวัฒนธรรมที่จะนำไปเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติหรือชาวโลกได้เห็นว่า ที่จริงน้องลำไยก็สามารถที่จะเป็นอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นท่าเต้นหรือการแสดงที่แมสมากขึ้น รวมถึงการยอมรับจากสายเคป๊อป สายละติน ที่เขาให้การยอมรับเรา ขนาด SJ ยังเอาไปเต้นแสดงว่ามีการยอมรับเกิดขึ้น หรืออย่าง joelma (โจเอลมา) ที่เขาเปรียบลำไยเป็นศิลปินคนนี้ ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของบราซิล ก็แสดงว่ามีการยอมรับ ไม่ใช่แค่เป็นไวรัลไปติดหู กระแทกตา เพราะมีเงินเป็นร้อยล้านไปจ้างให้เขามาเต้น ให้เขามายอมรับก็ไมได้
แต่อันนี้ออร์แกนิกจริง ๆ ท่าเต้นมันเรียล มันของแท้จริง ๆ บางคนมองข้ามตรงนี้ แทนที่จะหยิบฉวยโอกาสตรงนี้ไปต่อยอดให้สังคมโลกได้เห็น ว่าลำไยสามารถเทิร์นโปรได้แล้ว ผมมองว่าหลังจากนี้ผมจะมีการสร้างโปรดักชันที่ใหญ่ขึ้น แม้แต่เพลงยายแล่ม ที่เป็นเพลงคัฟเวอร์เมื่อ 20-30 ปีที่แล้วของวงคันไถ เราก็จะทำเป็นรีมาสเตอร์ใหม่เลย ให้เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้เห็นเพลงนี้จะทำให้สมบูรณ์แบบ ทั้งที่เราเอาเพลงเก่ามาแค่ร้องหน้าเวทีเฉย ๆ และออกแบบท่าเต้นโดยลำไลและทีมแดนซ์ลำไย เราอยากจะทำให้เป็นมาสเตอร์ที่แข็งแรง มีการลงทุนทำโปรดักชันที่ใหญ่ไปเลย
อาจจะมีไปหยิบเพลงเก่า ๆ มาทำอีก? “อยู่ในความคิดที่ตั้งใจไว้ แต่ยังไงลำไยต้องมีเพลงตัวเองที่เป็นเพลงแมส เพลงที่ไม่เกี่ยวกับสินค้า ไม่มีการไทร์อินสินค้าหรือฮาร์ดเซลล์ ตั้งใจจะมีเพลงเดี่ยว ๆ ของตัวเอง แต่ว่าพอกำลังจะเตรียมเพลงของตัวเองมันก็มีเพลงโผล่ขึ้นมา เป็นเพลงที่เราเอามาร้องคัฟเวอร์หน้าเวทีแต่ดันมาดัง เลยต้องสับไปต่อยอดก่อน หลายเพลงที่เราเอามาร้องคั่นเวลาแต่ดันมาดัง เราก็ต้องไปเก็บเกี่ยวระหว่างทางเพื่อต่อยอดก่อน เพราะพอเพลงใหม่มาก็ต้องกลับไปทำการบ้านใหม่ ฉะนั้นเราเก็บเกี่ยวชื่อเสียงหรือท่าเต้นที่คนมันจำทั่วโลก ต่อยอดตรงนี้ให้มันฉ่ำก่อนก็ได้”
เพลงใหม่ลำไย จะปล่อยเมื่อไหร่? “กำลังเตรียมอยู่ครับ กำลังใส่เสียง น่าจะหลัง่ไหลมาประมาณ 2-3 เพลง เป็นแนวบาซิเลียน ละติน เราตั้งใจทำเพลงนี้เพื่อไปละติน บราซิล และในคอนเสิร์ตใหญ่ของปีหน้า(2568) ลำไยต้องหยุดเพื่อซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่ 1 เดือน เพิ่งได้คิว ซึ่งทีแรกจะเร่งรีบอัดปลายปีนี้แต่ไม่ทัน เพราะคิวน้องแน่นมาก เลยต้องขยับออกไป เตรียมซ้อม ระบบเสียง แสง ในโดม”
ทีแรกประกาศคอนเสิร์ตใหญ่ช่วงเดือน ธ.ค. 2567 ? “ใช่ครับ แต่มันไม่ทัน ด้วยคิวที่ต้องซ้อม น้องลำไยก็พะวง เพราะพอภาพมันใหญ่ก็ต้องมีแขกรับเชิญ ไหนจะต้องมีซ้อม ทั้งชุด ทั้งโชว์ เครื่องเสียงระบบต่าง ๆ เพราะเราไม่เคยทำคอนเสิร์ตใหญ่ระดับประเทศ เราเลยต้องให้ทีมออร์แกไนซ์มืออาชีพมาเสนอราคา แล้วต้องมาดูบัทเจ็ตกัน จริง ๆ เราไม่ซีเรียสเรื่องสปอนเซอร์ เพราะเราพร้อมทำให้ยิ่งใหญ่ ทำให้เป็นที่จดจำว่า ครั้งนึงในชีวิตที่มาจากอีสาน อินดี้ แล้วเทิร์นโปรมาวันนี้ มาเป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ และกำลังจะเทิร์นโปรไปสู่สายตาชาวโลก เราจะไปให้ได้เยอะที่สุด”
ประกาศไปหรือยังว่ามีการเลื่อนคอนเสิร์ตใหญ่ ? “ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการ แต่เราล็อกคิวไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นวันที่ 26 – 27 ก.ย. 2568 คือสิ่งที่เราแจ้งน้องลำไยและทีมงานแล้ว เพราะระหว่างทางจนไปถึง ก.ค. 2568 คือน้องไม่มีคิวว่างเลย เฉลี่ย 45-55 คิวในแต่ละเดือน ทำให้ที่พอเป็นไปได้มากที่สุดคือ ก.ย. 68 คือถ้าหลังจากนั้นไปอีกเราก็กลัวว่าความฉ่ำความฟีเวอร์มันจะแผ่วลง แต่เราจะยังทำงานกันหนัก และน่าจะเป็นก้าวกระโดดที่เราจะอัปเลเวลขึ้นไป เชื่อว่า 3-4 ปี ที่เรายังเลี้ยงกระแสของลำไยไว้ได้”
ลำไยมีบ่นเหนื่อยหรือท้อไหม เพราะคิวแน่นมาก ? “ไม่บ่นเหนื่อย ไม่ท้อเลย มันเป็นความกระหาย เหมือนเราเสียเวลาช่อวงโควิดไป 2 ปีกว่า ทุกคนอั้นหมด เราปรึกษากันว่าน้องเหนื่อยไหม ถ้ายังต้องเดินต่อดุเดือดแบบนี้ ถ้าพอต้องบอกนะ วันละ 1 งานก็ได้ แต่ทุกคนบอกว่ามีความจำเป็นต้องสร้างบัทเจ็ตให้ครอบครัว ทุกคนอยากได้บ้าน อยากได้รถ อยากรักษาความดัง เพราะความดังอยู่กับเราสั้น ๆ แต่ความไม่ดังจะอยู่กับเราเกินครึ่งชีวิต บางคนดังแค่ปีเดียวแล้วหาย และอายุมากสังขารมันก็สู้ไม่ไหวแล้ว บางทีพอขึ้นเวทีแล้วมีโทรศัพท์เล็งมา 2-3 พันเครื่องที่หน้าเวที ความเหนื่อยที่เราเพิ่งมาจากที่อื่น พอขึ้นไปปุ๊บคนกรี๊ดเราเอนเนอจี้มันมาเอง แต่ก่อนมีคนดูเราแค่ 20 คน ไปงานเลี้ยงก็เป็นนักร้องคนสุดท้ายที่ขึ้น คนดัง ๆ ร้องไปหมดแล้ว เขาจะเก็บเก้าอี้แล้ว เรายังไปขอขึ้นเขา เพื่อได้ถ่ายรูปเป็นโปรไฟล์ จำได้วันที่ไม่มีคนนั่งดูเรา เราขึ้นร้องเพลงแล้วเขามาขอเก็บเก้าอี้จนที่นั่งอยู่ 2-3 คน แต่วันนี้พอขึ้นเวทีแล้วมือถือทุกเครื่องเล็งไปที่ลำไย แดนเซอร์ก็ดัง นักดนตรีก็ได้กระแส เหมือนกับว่าเหนื่อยมันแค่เหนื่อย แต่ไม่มีงานทำมันคิดหนัก มันเศร้ากว่าตอนที่เรามีงานหนัก ๆ นะ มีงานดีกว่าตกงาน”
“ตอนนี้เสื้อผ้า หน้าผม คอสตูมเราก็ใช้ 5 ทีมแล้ว ถ้าทำ 1-2 ทีมไม่ทัน บางมันตัน เราจะไปโกอินเตอร์แล้ว แต่ก่อนเราเจียมตัว เราตะมุตะมิตามค่ายเพลงต้นทุนต่ำ เราเจียมตัวมาตลอดว่าคงไม่ถึงระดับอินเตอร์ คงอยู่ได้แค่งานบวช งานวัด งานเลี้ยงบ้าง แต่พอมันมีความมั่นใจว่ามีคนต่อคิวซื้อบัตรหมดตลอดในหลาย ๆ จังหวัด ไปที่ไหนก็มีแฟนต่างชาติมาถ่ายรูปด้วย ล่าสุด SJ ก็เต้นเพลงเรา เรายิ่งฮึกเหิมว่าต่อจากนี้เราทำเล่นไม่ได้นะ บอลเข้าเท้าแล้ว กระแสมาถึงเราแล้ว เราจะทำแบบเช้าชามเย็นชามไม่ได้นะ ต้องมีนักวิชาการ มีทีมงานมืออาชีพ เราเลยต้องตั้งธงไว้ว่า ลำไยต้องเวิล์ดวายแล้ว ต้อง Around the World แล้ว”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
