ก่อนหน้านี้ผู้กำกับคนดัง “อาชู ชูศักดิ์ สุธีรธรรม” วัย 80 ปี ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจและโรคไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง และพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งมีภรรยาคู่ชีวิต อ้อย สุมาลี เป็นผู้ดูแล ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค. 67) อาชู ได้เปิดใจกับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน ถึงอาการป่วยว่า เริ่มรู้ตัวว่าป่วยมาตั้งแต่ปี 2566 เริ่มจากจู่ ๆ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จึงรีบไปหาหมอ และตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจ ตั้งแต่นั้นมาอาการก็ทรง ๆ และเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตลอด และเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย. 2567) จู่ ๆ ก็ไม่มีเสียง เสียงหาย และรู้สึกเจ็บที่คอ ทำให้รู้สึกแปลก ๆ จึงรีบไปพบแพทย์ และตรวจเจอว่าเป็นเชื้อราในคอ พอส่องกล้องพบแผลในคอยาวตั้งแต่คอหอย ทางแพทย์สงสัยว่าเชื้อราและแผลในคอ จะส่งผลกระทบกับส่วนต่าง ๆ ในร่างกายหรือไม่ จึงส่งตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ ก็พบว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แต่กลับตรวจเจอโรคไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรง ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว จากเดิม 71 ลดลงมาอยู่ที่ 50 กิโลกรัม ภายในเวลาแค่ 1-2 อาทิตย์ พอรู้ตัวว่าเป็นโรคอะไรบ้าง ก็ทำการรักษามาโดยตลอด ส่วนอาการอ่อนแรง ขาลีบ ทำให้หมอสงสัยอีกว่าจะเป็นพาร์กินสันหรือเปล่า เพราะมีอาการสั่นด้วย จึงได้เข้าเครื่อง TC สแกน แต่ก็ยังรอผล และผลเอกซเรย์พบว่าที่ปอดมีจุด 2 จุด ทางแพทย์ประเมินว่าไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง ซึ่งตั้งแต่ อาชู ป่วย ก็มีภรรยาคู่ชีวิต “อาอ้อย” คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และต้องขึ้นมาเป็นผู้นำครอบครัว เนื่องจาก อาชู ต้องหยุดทำงานมาปีกว่า ๆ แล้ว ภรรยาก็รับงานพากย์เสียง เวลาออกไปทำงาน จะให้หลานและน้องสาวมาสลับกันมาเฝ้า
ตั้งแต่ล้มป่วย “อาชู” โทษตัวเองมาตลอดว่าทำไมต้องเป็นอะไรแบบนี้ด้วย เนื่องจากคนที่เคยทำงานมาตลอดชีวิต กลับกลายต้องมานั่งนอนอยู่แบบนี้ รู้สึกเบื่อและเหนื่อย ทุกวันนี้ยังอยากกลับไปเล่นละคร อยากกลับไปทำงานอีก ช่วงนี้อยู่บ้านว่าง ๆ ก็นั่งดูละคร ดูหนัง เพื่อเติมกำลังใจให้ตัวเอง ด้าน “อาอ้อย” เผยว่าแม้จะมาเป็นหัวหน้าครอบครัว รับผิดชอบเองทั้งหมด เพราะไม่มีลูก ยอมรับว่าเหนื่อย ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษา “อาชู” ก็มีใช้สิทธิ์ด้วย และออกเงินทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้พอมีข่าวออกไปทางมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษา ตอนนี้เริ่มประกาศขายที่ดินและคอนโดหลายที่ ที่สมัยก่อนตอนหนุ่ม ๆ ได้ซื้อเก็บไว้ เพื่อนำเงินมารักษาตัวเอง ตอนนี้อาการรวม ๆ ดีขึ้น มีเสียงพูด เริ่มเดินได้ กินข้าวได้ อยากกินส้มตำมากก็ได้กินแล้ว และตอนนี้น้ำหนักขึ้นมาแล้ว ทั้งนี้ “อาชู” ยังขอบคุณลูก ๆ หลาน ๆ ในวงการบันเทิงที่ไม่ลืมตน ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าป่วย แต่คนใกล้ตัวที่รู้อยากเอาไปกระจายข่าว ก็เลยยอมให้บอก .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน