เรียกว่าเป็นมหากาพย์ที่คนทั้งประเทศจับตามองว่าบทสรุปสุดท้ายจะเป็นเช่นไร สำหรับสเตตัสหัวใจของพระเอกหนุ่ม นาย ณภัทร เสียงสมบุญ และ นางเอกสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ คู่รักคนบันเทิงที่ก้าวข้าม FRIEND ZONE สู่ FANZONE ท่ามกลางแรงยุแรงเชียร์จากแฟน ๆ และคนรอบข้าง แต่สานรักหวานฉ่ำกันได้ไม่กี่ปี ก็มีข่าวจากวงไหนเมาท์มาว่าความรักของทั้งคู่ส่อแววต้องสิ้นสุดลง ทั้งที่เพิ่งจะจัดทริปสวีตโชว์โมเมนต์คลั่งรักรัว ๆ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกลายเดือน พ.ค.67 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ใบเฟิร์น ออกอีเวนต์แต่ก็ชิ่งตอบสื่อถึงปมรักสะดุด บอกขอคุยกันยาว ๆ ในครั้งหน้า ในวันบวงสรวงละคร ทองประกายแสด วันที่ 11 ก.ค.67 ที่จะถึงนี้ ขณะที่ นาย เคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว “ขอเวลาให้ผมได้จัดการปัญหาอีกสักนิดนะครับ แล้วผมจะออกมาชี้แจงด้วยตัวผมเองอีกครั้งครับ” ก่อนที่ช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ค.67 ที่ผ่านมาจะร่อนจดหมายเชิญสื่อมวลชนให้มาฟังความจริงพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.67) เวลา 15.00 น.
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้(4 ก.ค.67) นาย นัดสื่อแถลงเปิดใจถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวระบุว่า “
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้(4 ก.ค.67) นาย นัดสื่อแถลงเปิดใจถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวระบุว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ตลอดที่ผ่านมา ออกมาพูดเพราะอยากให้ทุกคนฟังจากปากผมเอง เพราะที่ผ่านมามีข่าวออกมาแล้วมันกระทบจิตใจคนที่ผมรักทั้งครอบครัวใบเฟิร์นและคุณแม่ของผม จากสิ่งที่กระแสข่าวพูดตามตรงว่าตอนนี้ผมกับเฟิร์นทบทวนกันมาตลอด ถอยหกลับมาเป็นเพื่อนกัน เป็นอะไรที่น่ารัก มีแต่ความหวังดีให้กันตลอด สาเหตุเพราะเรา 2 คนให้ความสำคัญกับเรื่องงานเป็นหลัก เพราะมีคนรอร่วมงานกับเราเป็น 100 คน อะไรที่กระทบหน้าที่ของเรา เราจะคุยกันตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นมีข่าวออกมาหลายอย่าง หลายคนเพ่งไปที่คุณแม่ แต่ที่ผ่านมาเป็นการบริหารจัดการของผมเอง ไม่อยากให้โทษใคร ผมบาลานซ์ความสัมพันธ์ไม่ดีเอง บอกไม่ได้เกิดขึ้นว่าตอนไหน แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความรักและความหวังดีที่ทุกคนมีให้กัน ถามว่าได้หาคำตอบเรื่องนี้มั้ย? ผมเชื่อว่าบางเรื่องไม่ได้อยู่ที่เหตุผล แต่เมื่อมันอยู่บนพื้นฐานความรัก มันเป็นเรื่องของเวลา ครอบครัวผมเป็นเหมือนครอบครัวปกติ เราอยู่กันมา 2 คนตั้งแต่เด็ก แม่ผมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เก่งมาก เรามีปัญหาที่เกิดขึ้นมานานเป็นเรื่องปกติ บางปัญหาผมก็แก้ได้ บางปัญหาก็แก้ไม่ได้ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดให้กระทบจิตใจใคร เหตุผลที่เลือกจัดการด้วยวิธีนี้ ไม่ใช่มันไปต่อไม่ได้ แต่มันมีแต่ความหวังดี ความจริงใจให้แก่กัน เฟิร์นเป็นผู้หญิงที่น่ารัก จริงใจ มีแต่ความหวังดี เอาความรู้สึกของคนอื่นขึ้นมาก่อนเสมอ มีแต่ความจริงใจให้คนอื่นเสมอ ผมโชคดีที่ได้รู้จักกัน ได้ลองคบกัน ทุกช่วงเวลามันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เราคุยกันด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์ต่อกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตเราจะไม่ส่งกำลังใจหรือไม่คุยกันเลย”
“ขอไม่ลงดีเทลเรื่องไทม์ไลน์ ไม่ได้มีอะไรที่เปาะบาง อย่างที่บอกทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความรัก ความเข้าใจ เราต้องเคารพการตัดสินใจของกัน อยากเห็นคนเรารักมีแต่ความสุข มีแต่รอยยิ้ม เป็นเรื่องปกติที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อยู่ที่ใจเราว่าเราปรับใจเข้าหามันยังไง ยอมรับมันได้ไหม ยอมรับว่าสภาพจิตใจไม่โอเค แต่ทุกเป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องเจอ แต่โชคดีที่มีคนรอบข้างที่ดี และส่งกำลังใจให้เรา มันเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ๆ ผมยังคงต้องทำหน้าที่ต่อทุกวัน เรื่องของการดูแลความรู้สึกเป็นเรื่องของเวลา ที่ต้องค่อย ๆ คิดและทบทวน ผมได้คุยกับทั้งแม่และเฟิร์นแล้ว ทุกคนเข้าใจกันดี ไม่เรียกว่าจบความสัมพันธ์ แต่แค่ถอยกลับมาเป็นเพื่อนกัน เพราะไม่ได้โกรธ เกลียดกัน วันนี้ออกมาพูด เฟิร์นก็รู้และส่งกำลังใจให้ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ยังมีแต่ความหวังดี สำหรับโอกาสคืนดีเป็นเรื่องของอนาคต ต้องให้พื้นที่แก่กัน เป็นเรื่องสำคัญมาก ยืนยันไม่มีเรื่องมีที่ 3 ตลอดเวลาที่คบกันมันอบอุ่นมากเลย ถามว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเรามั้ย ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติที่กระแสข่าวจะมีผลกระทบต่ออาชีพของผม เชื่อว่าทุกคนเห็นต้องมีวิจารณญาณ การเจอความยากลำบากเป็นธรรมดาของมนุษย์ เป็นอุปสรรค์ที่ทุกคนต้องเจอ ผมเรียนรู้และเติบโตขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโต แต่เมื่ออยู่บนพื้นฐานความรักมันเป็นเรื่องที่ดี ผมไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา เพราะใช้เวลาทุกวันคุ้มค่า ไม่เสียใจเลย เราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว การมีคนรักมันเป็นเรื่องดี แล้วมีคนรักที่เป็นคนดี อบอุ่น ทุกสิ่งเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ผมก็เรียนรู้และค่อย ๆ เติบโตไปกับมัน ใบเฟิร์นเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจผม”
“ต่อจากนี้เราสามารถร่วมงานกันได้ปกติ แต่ตอนนี้ให้พื้นที่ของกันและกัน ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ขอบคุณสื่อ ขอบคุณพ่อเฟิร์นที่เอ็นดู แต่อย่างที่บอกถ้าบางอย่างใช้เหตุผมไม่ได้ ก็ต้องเป็นเรื่องของเวลา สุดท้ายผมอยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน เรื่องขายรถ เป็นเรื่องปกติของชีวิต ซื้อมาขายไป เรื่องที่บอกว่าผมเอาไปเปย์ผู้หญิง ขอเคลียร์ก่อนว่า ผมโดนสอนให้เป็นสุภาพบุรุษตั้งแต่เด็ก เฟิร์นก็ทำงานมาตั้งแต่ตลอด 20 ปี เขาเป็นคนน่ารักและกตัญญู การดูแลผู้หญิงของผม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่เฟิร์นเป็นคนที่แฟร์มาก ไม่อยากให้คนวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนี้ออกไปอีก ต่อจากนี้ขอให้เป็นกำลังใจให้กันและกัน มอบแต่สิ่งดี ๆ มอบแต่ความรักให้กันและกันครับ” โดยระหว่างที่ให้สัมภาษณ์ นาย ใกล้น้ำตาอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งสัมภาษณ์เสร็จจึงได้ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้นต่อหน้าสื่อมวลชนที่เดินทางมาทำข่าวและให้กำลังใจ นาย – ใบเฟิร์น เสมอมา.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน