ทำเอาแฟน ๆ ต่างเข้ามาชื่นชมในความใจสู้ของนักร้องชื่อดัง “ตูน – อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” หลังได้เข้ารับการผ่าตัดผ่านทางลำคอ เพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกทั้งสองข้อที่มีปัญหาออก และแทนที่ด้วยหมอนรองกระดูกเทียม ซึ่งหลังผ่าตัดทำเอาเจ้าตัวหวั่นใจว่าเสียงจะไม่สามารถกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม เพราะเป็นช่วงที่หนุ่ม ตูน ต้องเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ ในอีกไม่ถึง 2 เดือน และต้องพักฟื้นร่างกาย ฝึกใช้เสียง ร้องเพลงใหม่ทั้งหมด
โดยวันนี้ (2 ก.ค. 67) หนุ่ม ตูน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้หยุดพักจากการทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อซ้อมและเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งเป็นการหยุดพักที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้วของพวกเราก่อนการขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ในทุก ๆ ครั้งตลอดการเดินทาง 22 ปีของบอดี้สแลม แต่นอกจากการหยุดเพื่อพักและซักซ้อมเตรียมตัวเพื่อโชว์ที่เราอยากทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วนั้น ส่วนตัวผมเองก็ถือโอกาสในการ “ซ่อม” ร่างกายที่ใช้มาอย่างหนักหน่วงตลอดเวลาอันยาวนาน
หลายคนที่ไปดูคอนเสิร์ตใหญ่คงสังเกตเห็นรอยแผลที่บริเวณคอด้านหน้าของผมที่เป็นรอยยาวสักประมาณนิ้วครึ่ง ใช่ครับ ผมเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เป็นการผ่าตัดจากทางด้านหน้าลำคอเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกทั้งสองข้อที่มีปัญหาออกแล้วแทนที่ด้วยหมอนรองกระดูกเทียม แล้วยึดติดกระดูกทั้งสามข้อที่เกี่ยวข้องให้เป็นเหมือนกระดูกข้อเดียว ที่อาจมีการจำกัดองศาของการก้มและเงยของคอเมื่อผ่าตัดเสร็จ
สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ต้องเปลี่ยนหมอนรองกระดูกแบบผม คงไม่คิดว่ามันเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่และเสี่ยงอะไรมากมาย แต่สำหรับผมที่ชอบร้องเพลงและยังคงร้องเพลงเพื่อความสุขอยู่ในทุกเมื่อเชื่อวัน การผ่าตัดลักษณะนี้จะมีความเสี่ยงกับเส้นเสียงบ้างไม่มากก็น้อย ที่อาจทำให้เกิดเสียงเปลี่ยนหรือเสียงแหบทั้งชั่วคราวและแบบถาวร ซึ่งเราก็ได้แต่หวังใจว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคงจะไม่เกิดขึ้นกับเรา
แต่สุดท้ายต้องขอบพระคุณคุณหมอและแพทย์ผู้ช่วย และพยาบาลทุก ๆ ท่าน ที่ช่วยทำให้การผ่าตัดครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ที่ทำให้ผมได้พร้อมที่สุดสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดเสร็จประมาณเกือบสองเดือน ตลอดเวลาการพักฟื้นและเตรียมตัว สิ่งที่ผมทำได้ก็คือการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตและเริ่มทำให้ตัวเองคุ้นชินกับการร้องเพลง กับอวัยวะเทียมที่อยู่ในลำคอ ที่ไม่มากก็น้อยในความรู้สึกของผมมันก็คือการ “ฝึก” การใช้เสียงและการร้องเพลงใหม่นั่นเอง
ทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกมา ผมจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในลำคอของผม ที่ไม่เหมือนเดิมที่เคยใช้เสียงมาตลอดหลายปี ในใจก็คิดกังวลต่าง ๆ นานา กลัวว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีในคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะถึง ที่มีคนตั้งใจมาเชียร์หลายหมื่นคนตลอดทั้งสามรอบ แต่อีกใจก็ “สู้” และมั่นใจว่าตัวเองจะหายเป็นปกติและทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดอีกครั้ง
ฉากจบของเรื่องราวนี้ หลาย ๆ คนคงได้อยู่เป็นประจักษ์กับสายตาตัวเองเมื่อเกือบสิบวันที่ผ่านมา บนเวที ผ่านทางคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเราทั้งสามรอบ ขอบคุณทุก ๆ คนอีกครั้งที่ยังคงมาให้กำลังใจกันในทุก ๆ ครั้งที่เรามีคอนเสิร์ตใหญ่ มาร่วมเขียนประสบการณ์พิเศษๆให้เกิดขึ้นและจดจำในหัวใจไปพร้อม ๆ กัน หวังว่าครั้งนี้ทุก ๆ คนคงจะพกความสุข พกรอยยิ้มและแรงบันดาลใจดี ๆ กลับบ้านไปได้บ้างไม่มากก็น้อย และส่วนตัวต้องขอบคุณสำหรับโอกาสที่ทุกคนมอบให้ผม ให้ได้ทำหน้าที่ “ร้องเพลง” บนเวทีตรงนั้นอีกครั้ง เพราะข้างบนนั้นมันคือที่ ๆ ผมมี “ความสุข” และมี “ความหมาย” ที่สุด ขอบคุณอีกครั้งที่ให้เกียรตินี้กับผมตลอดมานะครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ ใช้ชีวิตให้สนุกนะครับ ด้วยรัก ตูน 2 ก.ค. 2567
ปล. สามารถติดตามไดอารี่เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องราวนี้ได้ทางช่อง Youtube ของครอบครัวของเราที่ช่อง “KTTV Journey” เวลา 6 โมงเย็นวันนี้พร้อม ๆ กันนะครับ สุดท้ายนี้ขอบพระคุณคุณหมอและทีมที่ช่วยวางแผนการผ่าตัดและทำการผ่าตัดให้ผมครั้งนี้ให้สำเร็จลงได้ด้วยดี โดยไม่มีอาการผิดปกติทางเส้นเสียงอย่างที่ผมกังวล ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ ครับ ขอขอบคุณครูเจ ที่ช่วยปรับแต่งจูนเสียงและสอนวิธีการใช้เสียงที่ถูกที่ควรให้ผม และทำให้ผมมีความมั่นใจในการขึ้นเวทีมากขึ้นในครั้งนี้ ช่วงเวลาสองสามวันกับครูเจมันมีความหมายกับผมมากจริง ๆ ครับ รัก” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน