เกรซ เคลียร์ซิงเกิล บาย พอ ลา ลั่นหยุดเอาชื่อโรคมาทำเพลง

ออกปากว่ายังไม่ได้เกิดก็เดินคุมกำเนิดซะแล้วจ้า สำหรับสาวสวยสายฮา “เกรซ-กาญจน์เกล้า” ที่โดนวิจารณ์ยับสับแหลกกับซิงเกิลที่ 4 เพลง “บาย พอ ลา (Bipolar)” จนค่ายต้นสังกัดอย่าง “สไปร์ซซี่ดิสก์” ต้องร่อนจดหมายออกมาชี้แจงและตัดชื่อเจ้าปัญหาทิ้งเพื่อยุติดราม่าดังกล่าว ล่าสุด สาวเกรซ ก็ขอเคลียร์ชัดทุกประเด็นเลยจ้า


“คนบางกลุ่มก็เข้าใจ คนบางกลุ่มก็เซ้นซิทีฟเขามีปัญหาตรงนี้จริง ๆ เขาก็มองว่า เกรซ ไปตั้งชื่อล้อเลียนแต่ว่ามันไม่ใช่ความจริงแล้วเนี้ยคำว่า ไบโพลาร์ ตรงนี้เราไม่ได้ตั้งใจจะมาเหยียดหรือว่าบูลลี่หรือว่าล้ออะไรตรงนี้เลย เพียงแต่ว่าเพลงมันเดินทางของมันเพียงแค่ 3 นาที แล้วชาเล้นจ์ต่าง ๆ มันก็มีเวลาเพียงแค่ 15-30 วินาที แล้วตัว เกรซ เองก็เป็นนักร้องไม่ได้มีโอกาสมาศึกษาคนมากพอ เกรซ ก็ขอใช้โอกาสนี้ในการศึกษาเลยแล้วกัน เพราะว่าบางคนไม่เข้าใจว่าโรคไบโพลาร์จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่การที่อยู่ดี ๆ แล้วหัวเราะแล้วร้องไห้สลับกันในทันทีอันนั้นมันไม่ใช่ คำว่า ไบโพลาร์ มี 2 อาการ อาการแรกเลยก็คือมีความมั่นใจสูง มีความสุขผิดปกติ มีความร่าเริงหัวเราะตลอดเวลา กับอีกอย่างหนึ่งก็คือมีอาการของโรคซึมเศร้า ไม่มีความมั่นใจ เก็บตัว มีความโศกเศร้าผิดปกติ ซึ่ง 2 อย่างนี้มันจะมีลีกไทม์ของมัน มันไม่ใช่เป็นการเป็นแล้วสลับเป็นไปมา 5 นาทีอะไรอย่างนี้ มันจะเป็นช่วงเขาเป็นช่วง ๆ 1 อาทิตย์ 2 อาทิตย์ แล้วแต่ระยะเวลาของอาการแล้วก็ความหนักหนาของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนตรงนี้ก็ไม่ธรรมดาเท่ากัน ซึ่งปัจจุบันก็มีการรักษามีผู้ป่วยค่อนข้างหายแล้วเยอะเหมือนกันมันก็คล้าย ๆ กับโรคซึมเศร้าต้องการกำลังใจและความเข้าใจจากคนรอบข้าง ดังนั้น เกรซ ก็เลยอยากจะให้มาเพิ่มความตระหนักตรงนี้

ก่อนที่ เกรซ จะมาทำเพลง เกรซ ก็ได้มีความเข้าใจเพียงแต่ว่าเราในฐานะนักร้อง เราก็ไม่อาจที่จะสามารถไปนั่งอธิบายทุกคนโอกาสนี้ก็เลยเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ตระหนักเรื่องนี้ไปด้วยในตัวก็แล้วกัน ตกใจเหมือนกันกับกระแสดรามา เพราะว่าจริง ๆ เพลงเป็นเพลงที่ให้กำลังใจด้วยซ้ำสำหรับคนที่อยู่ใน Toxic Relationship เวลาที่เขาทักมาอยู่กับเรา เรามีความสุข แต่เวลาที่เขาไม่อยู่หรือว่าเขาหายไปเรามีความทุกข์มันก็เลยเป็นการเปรียบเทียบความรักใน 2 แง่ เพราะว่าถ้าเราคบกับใครสักคน แล้วเขาสามารถทำให้เราสุขสุด ๆ แต่ทุกข์สุด ๆ ได้ในขณะเดียวกันนั่นมันเป็นความรักที่มันถือว่าเป็น Toxic Relationship เพราะว่าความรักที่เราขาดเขาไม่ได้มันเหมือนสารเสพติด ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เราต่างคนต่างคนที่จะมี healthy relationship ในการทำงาน ในการใช้ชีวิตเพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายต่าง ๆ ของตัวเอง ความรักถ้ามีแล้วดีก็ดี ถ้าไม่มีก็ต้องขอบาย แล้วต้องขอลาเป็นอะไรประมาณนี้


ทางค่ายค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ ก็เลยเปลี่ยนชื่อ สำหรับ เกรซ รู้สึกว่าไม่อยากให้หลาย ๆ คนที่ตัดสิน คิดไปเอง เพราะว่า เกรซ ยังไม่มีโอกาสมาบอกเพราะว่าเราไม่ได้มีการพีอาร์อะไรเลยเพลงเพิ่งเริ่มปล่อยเลย ก็เจอดรามาต้องนี้แล้ว ก็คือยังไม่ได้เกิดก็โดนคุมกำเนิดซะแล้ว มีการปรับเปลี่ยนเพื่อตัดคำว่า ไบโพลาร์ ออก แล้วการชาเล้นจ์อะไรที่เกี่ยวกับอารมณ์ที่เราจะสื่อสารก็ระวังมากขึ้นก็เลยตัดออกเลยดีกว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้ชาเล้นจ์อะไรที่จะทำให้หลายคนเข้าใจเป็นการอธิบาย หรือการให้ข้อมูลความหมายแบบผิด ๆ อะไรประมาณนั้น

พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็กระทบเต็ม ๆ คือไม่ได้โปรโมตประมาณ 2 อาทิตย์เลยที่หายไป ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียใจแต่ก็เข้าใจในบริบท เราจะมาบอกว่าเป็นคนกลุ่มเล็กก็ไม่ได้หรอก เขาก็คือคนกลุ่มหนึ่งในสังคมเหมือนกันที่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเซ้นซิทีฟ เราก็แคร์แม้ว่าจะเป็นคนกลุ่มเล็ก ๆ มีหลายคนมาก ๆ ที่รู้สึกว่าทำไมต้องเปลี่ยนชื่อด้วยมันก็เป็นกิมมิกการเล่นคำ เขาก็มองเป็นเรื่องบวกก็มีเช่นเดียวกันตรงนั้นก็ขอขอบคุณเหมือนกัน แต่สำหรับใครบางคนที่ยังรู้สึก Toxic ว่าที่ผ่านมามันแย่ คือ เกรซ มอบดอกไม้ให้คุณ แต่คุณอย่ามองเป็นมีดได้ไหม เราไม่ได้เจตนาที่ไปทำร้ายแบบนั้น

อันนี้ เกรซ ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่โลกดซเชียลควรที่จะให้โอกาสตัวเราในการที่จะบอกจะพูดก่อนที่จะตัดสินใจอะไรใด ๆ ออกไป แต่ เกรซ เข้าใจค่ายเพลงเขาต้องออกมาแก้ปัญหา ณ ตรงนั้นเลย เพราะว่ามีเรื่องของคนแต่งที่โดนผลกระทบกันไปหมดเลย” จากนี้จะยึดแนวทางเดิมไหม ที่จะเอาโรคมาทำเป็นเพลง? “ก็คงต้องหยุดแล้ว พูดตามตรงว่าในส่วนของโรคคงต้องหยุดแล้ว เอาเพลงอะไรที่เป็นตัวเราเองมาดีกว่า” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 193 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม