หนุ่ม กะลา ยื่นข้อเสนอ 8 ข้อ ให้ จูน พิจารณา มอบหมาย ทนายเดชา คุยคืนวันนี้ (19 มิ.ย.)

จากกรณีนักร้องเสียงนุ่ม หนุ่ม กะลา ตั้ง ทนายเดชา เป็นตัวแทนยื่นเรื่องฟ้องภรรยาตีทะเบียนอย่าง จูน เพ็ญชุลี ในข้อหายักยอกเงินบริษัทนั้น ก่อนหน้านี้ ทนายเดชา มีการเผยว่าอยากให้พิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย ช่วยเป็นคนกลางให้ ซึ่งทางฝั่งของ ทนายพัฒน์ ทนายความของ จูน ก็ยินดี หากมีคนกลางมาไกล่เกลี่ย


เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) หนุ่ม กรรชัย ที่รับหน้าที่พิธีกรในรายการข่าวใส่ไข่ อธิบายว่า ตนไม่ใช่คนกลาง จริง ๆ เรื่องทั้งหมดไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวเลย เพราะรู้จักทั้ง จูน และ หนุ่ม กะลา รวมถึงรู้จัก ทนายเดชา และทนายพัฒน์ ทนายความของจูนด้วย พอมีประเด็นเกิดขึ้นทาง จูน ก็โทรมาคุยกับ หนุ่ม กรรชัย ว่าไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อนไปมากกว่านี้ เพราะการที่จะออกมานั่งพูดข้างนอกก็ยิ่งเสีย เหมือนสาวไส้ให้กากิน จูน จึงบอกว่าถ้าคุยกันหลังบ้านได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ด้าน หนุ่ม กรรชัย จึงอาสาไปคุยกับ ทนายเดชา และบอกว่าตนพร้อมเป็นสื่อกลาง แต่ไม่ขอเป็นคนกลาง ขอเป็นแค่คนส่งข่าว จะไม่ขอไปนั่งเจรจา เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวเขา

โดย หนุ่ม กะลา ก่อนหน้าที่จะเข้าพิธีอุปสมบท กับทางทนายเดชาก็ได้มีการร่างข้อตกลงมาทั้งหมด 8 ข้อ แล้ว หนุ่ม กรรชัย ก็ส่งให้จูน ซึ่งทางจูนก็เอาไปดู จริง ๆ เมื่อวานนี้จะให้จูนกับทนายพัฒน์ และทนายเดชามาเจอกัน แต่ว่าจูนติดธุระกะทันหัน จึงได้เลื่อนมาเป็นวันนี้แทน


ล่าสุดทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนต่อสายตรงหา ทนายชายพัฒน์ ทนายความของ จูน ก็ได้เปิดเผยว่า คืนวันนี้ (19 มิ.ย.) เวลา 19.00 น. มีการนัดคุยกันจริงที่บ้านของ หนุ่ม กรรชัย โดยมีทนายเดชา, จูน เพ็ญชุลี และทนายแก้ว รับหน้าที่เป็นคนกลางให้ เนื่องจากทนายชายพัฒน์ติดภารกิจ ซึ่งข้อตกลงทั้ง 8 ข้อ ทางทนายพัฒน์ได้ดูเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่เกี่ยวกับอำนาจการปกครองบุตร หนี้สิน ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงคดีความที่มีการฟ้องร้องกันด้วย โดยทนายพัฒน์เผยสั้น ๆ ว่า มีบางข้อที่รับได้ และมีบางข้อที่รับไม่ได้ ซึ่งจะไปพูดคุยเจรจาต่อรองกันในคืนนี้ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ จูน

ส่วนกรณีที่สาวบุคคลที่ 3 ได้ฟ้อง จูน เพ็ญชุลี กลับ ในข้อหาเบิกความเท็จและนำสืบเท็จ ในคดีแพ่ง ทางทนายชายพัฒน์ เผยว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการนัดไต่สวนมูลฟ้องที่ศาลจังหวัดลพบุรี แต่ทางจูนขอเลื่อนไปเป็นเดือนหน้า เนื่องจากอยากเคลียร์เรื่องคดียักยอกทรัพย์นี้ก่อน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร เนื่องจากเอกสารหลักฐานเป็นร้อย ๆ หน้า ตนได้ส่งไปครบถ้วนแล้ว บางหลักฐานมีการเปิดเผย แต่บางหลักฐานก็ไม่มีการเปิดเผย เพราะเกรงจะเสียรูปคดี ซึ่งหากมีการฟ้องกลับแบบนี้ ต้องดูว่าศาลจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ถ้ารับก็เข้าสู่ขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมต่อไป .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 5,330 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม