หนุ่ม กะลา ถาม จูน 66 ล้านหายไปไหน? ลั่น! ชี้แจงได้ พร้อมหย่า ไม่คิดทำลายชีวิตอีกฝ่าย

หลังจากที่นักร้องเสียงนุ่มชื่อดัง หนุ่ม กะลา หอบหลักฐานเข้าพบ ทนายเดชา มอบหมายให้ยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิด ที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วน จำกัด ทองบริบูรณ์ 365 โดยการโอนเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวโดยทุจริต รวม 452 ครั้ง เป็นเงิน 66,359,957 บาท มีพยานหลักฐานชัดเจนและยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งคดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีชู้สาวหรือเรื่องเมียหลวงเมียน้อยแต่อย่างใด ทั้งนี้ หนุ่ม กะลา ได้ตัดสินใจบวช ในวันที่ 15 มิ.ย. 2567 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลาร่วม 1 เดือน


ล่าสุดวันนี้ (7 มิ.ย. 67) หนุ่ม กะลา พร้อม ทนายเดชา ตั้งโต๊ะแถลงถึงประเด็นดังกล่าว เผยว่าจริง ๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว ถ้าสังเกตที่ผ่านมา ตนออกมาพูดแค่ครั้งเดียว ที่ไม่ออกมาพูด เพราะกลัวกระทบถึงลูก ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย แต่มีคนส่งข่าวมาให้ดูว่าหนีบวชไปอยู่กับเมียน้อย? มันเริ่มเป็นกระแส 2 วันที่ผ่านมา เรื่องที่ไปฟ้องต่อศาล เพื่ออยากเคลียร์ปัญหาเรื่องการยักยอกเงิน คิดว่าเป็นปัญหาภายใน ให้ศาลเป็นคนตัดสิน ไม่ใช่ให้สื่อมากดดันว่าไม่เลี้ยงลูก ชั่วร้าย แต่ทางฝั่งนั้นเขาพูด ตนก็ต้องออกมาพูดบ้าง

จริง ๆ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยสงสัยเรื่องการเงิน เพราะเป็นสามี-ภรรยากัน ตนมีหน้าที่ออกไปทำงานหาเงินอย่างเดียว แต่จุดที่ตอนเขาคืนบัญชี เขาคืนมาแค่ 2-3 แสน มันเป็นจุดที่คาใจ เพราะตนจะต้องรับผิดชอบรายเดือนเขาและลูกอีกหลายแสน จึงตกใจว่าเงินหายไปไหนหมด เขาไม่เคยให้เหตุผลเรื่องเงินเลย แต่มันเช็กรายการเดินบัญชีทางมือถือได้ ชื่อมันออกไปเพ็ญชุลี


เคยพูดกับ จูน ว่าทำไม่เราไม่มีเงิน 10 ล้านสักที คำพูดนี้อยู่ในไลน์ที่คุยกัน ตนเป็นนักร้องที่น้อยเนื้อต่ำใจมาก พูดอย่างตรงไปตรงมาว่าทำไมถึงไม่มีเงิน 10 ล้านบ้าง ทุกครั้งที่เวลาไปธนาคาร ตนต้องไปเซ็น เพราะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เบิกเงินได้ แต่ งงว่าทำไมถึงไปบัญชีเพ็ญชุลีได้ ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้เซ็นอะไรเลย เงินของเราไปไหน? คำตอบที่ได้มันมีค่าใช้จ่าย ซึ่งมันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่มีประเด็นข่าวกับเขา แต่มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เป็นวงกะลาด้วยซ้ำ จนตอนนี้ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว 9-10 ปี ทุกอย่างมันกระจ่างตอนที่ดูรายการเดินบัญชี

ถ้าบริหารเงินเป็น อยากถามว่าตนเป็นนักร้องมา 26 ปี ทำไมถึงเป็นหนี้ 20 ล้าน ทั้งหนี้บ้าน รถ 2 คัน คอนโด ทุกอย่างไม่มีการดูแล ตนเห็นรายการเดินบัญชีแปลก ๆ จึงได้ปรึกษาทนาย และบอกว่าไม่ได้หวังเงิน 66 ล้านคืน แต่ขอให้เขาปิดหนี้ให้หน่อย ถ้าเป็นไปได้ขอติดตัว 5 ล้านได้ไหม ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ขอแค่ปิดหนี้ให้ แล้วเราก็จบกัน และสาเหตุที่ยังหย่ากันไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเงินตอนนี้อยู่ไหน ต้องได้คุยกันเรื่องนี้ก่อน

โดยตนได้เงินเดือน 4 หมื่นบาทต่อเดือน แต่มาได้ 1 แสนตอนแยกบ้าน และแยกบ้านมาได้ประมาณ 2 ปี ตนเป็นคนขอเขาเพิ่มเอง เพราะต้องเลี้ยงดูลูกน้องค่าอาหารเวลาเดินทางทัวร์คอนเสิร์ต มีบางคนพูดว่าแยกบ้านแล้วไม่รับผิดชอบเลี้ยงดูลูก อยากบอกว่าตนต้องจ่ายค่าใช้จ่ายภายในบ้าน 7 แสนบาทต่อเดือน ต้องจ่ายทุกเดือน รวมถึงค่าใช้จ่ายเขาด้วย ตอนแยกออกจากบ้านของที่เป็นหนี้เขายกให้ตน ส่วนของที่ผ่อนหมดแล้วเขาเอาไป จึงไม่สามารถแบ่งสินสมรสได้ จำเป็นต้องใช้คดีอาญาเข้ามาจัดการ หนี้สินหลังจดทะเบียนสมรส จริง ๆ ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง เป็นไปตามกฎหมายครอบครัว แต่นี่เขาโยนมาให้ตนหมดเลย


ปัญหาเรื่องมือที่สาม ไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้เราต้องเลิกกัน ตนรู้สึกผิดที่ทำสิ่งนั้นลงไป ยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย พอหลังจากเกิดเรื่องแล้ว ทำให้เราอยู่กันไม่ได้ พอแยกทางต้องมีการเคลียร์กัน ว่าจะเอายังไงต่อ แต่ปัญหามันอยู่ที่เราตกลงกันไม่ได้ ตนทำงานมาทั้งชีวิต มันไม่ยุติธรรมกับตน เป็นว่าตนต้องมานั่งผ่านบ้าน ผ่อนรถ รวมถึงค่าใช้จ่ายของลูก ถ้าเป็นไปได้อยากเคลียร์ว่าเงิน 66 ล้านหายไปไหน ถ้าเงินยังอยู่มันยิ่งดี เพราะมันสามารถปิดหนี้ได้ อยากให้มาตกลงกัน ตนพร้อมหย่า และตกลงกันเรื่องลูก ยืนยันไม่ได้ฟ้องเขาเพื่อให้เขาติดคุก หรือฆ่าเขาให้ตาย แค่อยากเคลียร์กันให้จบ

ส่วนเรื่องบวช หนุ่ม กะลา ให้เหตุผลว่าเบื่อ รวมถึงเรื่องดรามาที่เกิดขึ้นก็มีส่วน มีแพลนบวชมานานแล้ว ซึ่งจะบวชเดือนกว่า ๆ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 3,013 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม