ทำเอานางร้ายผู้จัด และพิธีกรคนเก่งอย่าง หนิง ปณิตา ถึงกับออกอาการจี๊ดกลางใจ เมื่อได้อ่านข้อความของพี่ชายพิธีกรชื่อดัง พีเค ปิยะวัฒน์ อย่าง หนุ่ม ชลธิศ เข็มเพชร โพสต์เตือนสติน้องชายในเฟซบุ๊ก ที่กำลังเฮิร์ตหนักจากนางแบบสาวชาวเวียดนาม โจลี่ เหงียน ที่มีใจความตอนหนึ่งว่า “เงินทองถูกเอาไปหมดก็แล้วไม่เป็นไร เค้าอยากได้ให้เค้าไปจะได้จบ” ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุด จนต้องออกมาระบายผ่านเฟซบุ๊กว่า
“วันนี้สายโทรศัพท์แน่น คนโทรมาถามข่าวว่ารู้อะไรไหม ???!!! (ไม่ใช่ข่าวตัวเองนะ)
จนต้องไปหาอ่าน
แล้วสะดุดหูประโยคที่ว่า
“เงินทองถูกเอาไปหมด ใครอยากได้ให้เค้าไป“
โอย จี๊ดกลางใจ สุดๆ มีคนคิดกันแบบนี้อีกแล้ว
……………
มันเพราะอะไร ?? เขาถึงคิดกันได้แบบนั้น
1. อคตินำล้วนๆ ถูกก็แค่เสมอตัว / ผิดคือจมธรณี (รักผิดๆ คนของฉันถูกเสมอ)
2.ฟังความแค่ข้างเดียว ยึดเหตุผลฝั่งตน คือถูกต้อง โดยอาจจะไม่ค่อยเป็นกลาง ลืมคิดไปไหมว่า เรื่องที่มันเกิดขึ้นจริงๆแล้วเกิดอะไร และเพราะอะไร ทำอะไรลงไปถึงมีเรื่อง
……… ที่สำคัญเหตุผลของอีกฝั่ง มันคืออะไร ลองฟังเขาอย่างเป็นกลางและเมตตาหรือยัง ??
3.หัวโบราณคิดว่าผู้หญิงเลิกกับผู้ชาย (แบบผู้หญิงไม่มีความผิดด้วยนะ ) และเขาได้ใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเองตามข้อกฏหมายเพราะทราบดีว่าพูดกันไปดีแค่ไหนก็ไม่มีวันรู้เรื่องและเข้าใจ คือ ”การอยากได้เงิน หน้าเงิน “ ทั้งๆที่มันคือ #ความรับผิดชอบ ที่เป็นสากลโลกเค้าทำกัน
ถ้าทางกลับกัน ผู้หญิงลองมีคนอื่นบ้าง เพราะผู้ชายคนนั้นทำแบบที่ผู้ชายกล่าวหาผู้หญิง ว่าสาเหตุที่มีคนอื่นเป็นแบบนี้ แบบนี้ !!?? ……….. ฝั่งผู้ชายยังจะคิดแบบเดิมไหม #ใจเขาใจเรา ยุคนี้มันยุคที่ทุกคนเท่าเทียมกันหมดแล้ว
คำว่า ”เอาไปหมด“ หมด = ไม่เหลืออะไรเลย โห!!!! ข้อหาแรงจัง ศักดิ์ศรีแทบไม่เหลือ (ถามจริงๆ มีเยอะขนาดนั้นให้เอาจริงๆไหม)
#เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์
ตราบใดที่คนทำผิดไม่รู้ความผิดตัวเองก็ยากที่จะแก้ไขปรับปรุงให้มันดีขึ้น
กระดุมเม็ดแรกติดผิด มันก็ผิดหมด
และทุกการแก้ตัวโดยไม่รู้ความผิดตัวเอง = โยนความผิดให้คนบริสุทธิ์
โยนไปก็เหมือนบูมเมอแรงสะท้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
แต่ท้ายสุด #ความจริงก็คือความจริง อยู่วันยังค่ำ
เป็นลูกผู้ชายอะเลิกกันแล้ว ไม่ปกป้อง ก็อย่าปากดี #ทำร้าย กันอีกเลย ที่ทำไปมันมากพอแล้ว “
ซึ่งต่อมา หนุ่ม ชลธิศ พี่ชายของพีเค ก็ได้แคปภาพดังกล่าวมาโพสต์ต่อในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมได้อธิบายถึงบ้างเรื่องที่หนิงอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน อีกทั้งยังยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาหรือโกรธหนิงแต่อย่างใด
“ตื่นแต่เช้า .. พี่เห็นคนส่งอะไรมาเยอะมาแยะ แต่มาสะดุดสิ่งนี้โดยส่วนตัวพี่ชื่นชอบน้องหนิงนะ เพราะเห็นป้ายโฆษณาบนทางด่วนแล้วคิดในใจว่า ผู้หญิงคนนี้สวยมาก เครื่องหน้าดีมาก .. และน้องก็เคยสวัสดีพี่หนึ่งหนแบบเปิดกล้อง ไม่เป็นไร น้องมีความคิดเห็นได้เลย ถ้าด้วยเพราะไม่รู้อะไรคือความจริง หรืออะไรคือเนื้อใน ใดๆคือพี่ไม่ใคร่อยากยุ่งเรื่องของใคร
ไม่ได้พูดถึงใคร เอ่ยชื่อใคร กับเก่ากับไม่เก่าก็ไม่มีอะไรกันส่วนตัวทั้งสิ้น สื่ออะไรก็มาถามเชิญไปออกเยอะแยะไปหมด แต่พี่ตัดสินใจไม่ไปเพราะออกทีวีไม่ได้พี่ตอแหลไม่เป็น เดี๋ยวมาจี้แล้วของขึ้นเล่าหมดเปลือก (ชีวิตพี่ตอแหลมาตลอดตอนทำงานเพราะบางทีเพื่อนเจ้านายเข้ามาพี่นึกว่าลูกครึ่งเห็ดเผาะกะจิงโจ้น้ำผสมกันพี่ก็ต้องชมว่าสวย ) พอลาออกมาเลยอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าพี่จะไม่ตอแหลอีกแล้วเพราะแขยงปาก แล้วเราก็เป็นลูกศิษย์คุณแม่บุญเรือนเหมือนกัน ท่านทูตหลายท่านโทรมาบอกว่าปกติหนุ่มพูดจาเพราะ ทำไมคำว่าโจยี่ ถึงเป็นไวรัลในหมู่น้องๆเก้ง กวาง กะเทย เลยเรียนท่านว่าพิมพ์ตอนเครื่องบินจะออก ลบไม่ทันอยู่บนอากาศขาด WiFi พอดี น้องหนิงขา เราเจอกันกอดกันได้นะได้เลยนะจริงๆ#ส่วนเกรียนคีย์บอร์ดก็เอาที่สบายใจอากาศมันร้อนเศรษฐกิจมันแย่พี่เข้าใจ #ไม่มีใครรู้ข้างในนอกจากเจ้าตัวและครอบครัว #ก็ต๊ะติ๊งโหน่งอ่ะเนอะ #หลายอย่างอยากได้ต้องทำเอาทำเองทำบุญทำใจทำอะไรก็ทำไปยกเว้นทำร้ายคนอื่น #เอาดีเข้าตัวเอาชั่วโยนฟรึบใส่คนอื่นมันไม่ดีไม่ดีบาปนะ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน