เพราะคุยกันไม่ลงตัว จึงใช้กฎหมายหาความชัดเจน “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” หรือ “บิ๊ก ธิติวุฒิ” หลังปรึกษา ทนายชายพัฒน์ ให้ช่วยเหลืออยากมีสิทธิดูแลลูก ให้แบ่งทรัพย์สินและห้ามบุคคลอื่นนำเด็กไปสร้างคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม ล่าสุด “บิ๊ก ผญบ.ฟินแลนด์” เผยว่าได้ปรึกษา ทนายชายพัฒน์ แบบครบวงจรว่าต้องการความชัดเจน ไม่ได้ต้องการชนะใคร แค่ต้องการความชัดเจน เรื่องเวลาไปมาหาสู่กับลูก ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ปรึกษาทนายแต่พอมันมีความไม่ชัดเจนจึงต้องปรึกษา ตอนนี้กระบวนการทางกฎหมายได้เริ่มแล้ว 3 ข้อที่เรียกร้องไป คือ 1. การปกครองสิทธิตนไม่ได้ต้องการปกครองเพียงผู้เดียว แค่อยากมีสิทธิดูแลลูกบ้าง 2. การแบ่งทรัพย์สิน ตอนแรกบอกว่าไม่แบ่ง แต่ขอกลับมาคิดใหม่ โดยแบ่งกันเองแล้วค่อยแบ่งให้ลูก เพราะกลัวว่าทรัพย์สินไม่ถึงลูก 3.การถ่ายวิดีโอบุตรของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต พ่อกับแม่มีสิทธิเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นต้องได้รับอนุญาตจากเรา เพราะมันเป็นรายได้เกิดขึ้นมหาศาล
ก่อนหน้าที่คนบอกเรื่องส่วนตัวไม่ควรออกมาพูดในที่ส่วนรวม เจ้าตัว บอกเพราะคุยในบ้านไม่รู้เรื่อง จึงออกมาพูดตรงนี้จะกลัวว่ายิ่งพูดจะทำให้จบไม่ลงหรือไม่ ตนบอกคนที่เงียบไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไร ตนไม่มีปัญหากับใครแค่อยากชัดเจนกับสิทธิ ไม่ต้องการทะเลากับใคร ตอนนี้ทนายบอก ตนไม่ต้องโพสต์อะไรอีกแล้ว เดี๋ยวเขาจัดการเอง ทุกเรื่องที่โพสต์ก็ย่อมมีเหตุเข้ามา อย่างการไปหาลูกมีคอมเมนต์ว่าพูดทำไมตนแค่ไปหาลูกชั่วโมงเดียวก็มีเรื่องมี นอกจากนี้ ผญบ. ยังบอกว่า พร้อมขึ้นศาล หากมีการเพิงเฉย มีข่าวว่า “แพรวราว แสงทอง” ก็มีทนายดี ๆ ตนก็ไม่ต้องการต่อสู้กับเขา แค่เรียงร้องสิทธิของตน คนที่เคยรักกันไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ทุกวันนี้สิทธิ์การดูแลลูก เขาไม่ได้กีดกันอะไร แต่มันมีปัจจัยหลาย ๆ ที่ต้องทำ ถ้าไม่ทำเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ไม่อยากให้มองพ่อแม่มีปัญหากัน ที่ต้องมาขึ้นศาลแบบนี้ เพราะมันไม่ชัดเจนจึงต้องทำ เพราะมันจะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ทุกวันนี้เรามีสิทธิอธิบายให้ลูก ลูกเราต้องรู้จักทำคอนเทนต์ เพราะตนเป็นทำงานเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เขาต้องทำเป็น แต่บางครั้งวันไหนที่เขาไม่ให้ถ่าย เราก็ไม่ถ่ายให้สิทธิ์เขาเต็มที่
สุดท้ายต้องการให้เรื่องจบโดยที่ทุกอย่างต้องชัดเจน เวลาในการเลี้ยงดูต้องชัดเจน เช่นสามารถรับลูกได้วันศุกร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาก็รับลูกได้ปกติ แต่ด้วยความไม่ชัดเจน ไม่อยู่ ไม่ว่างไปนั่นนี่ การดำเนินทางกฎหมายจะทำให้หลายฝ่ายสบายใจ ยิ่งไม่ฟ้องยิ่งจะมองหน้ากันไม่ติด ทำให้มันชัดเจนไปเลย เรื่องข่าวไม่ได้มีผลต่องาน เพราะมีข่าวเลยทำให้มีงาน แต่ไม่อยากดังจากข่าวหรอก ส่วนคอมเมนต์แย่ ๆ ตนไม่คิดฟ้องเพราะจะต้องฟ้องต้องใช้เงินการไปไล่ฟ้องตนมองว่ามันขำตอบกลับตรงนั้นเลย ส่วนการร่วมขึ้นแสดงของ “นุ่น เนตรชนก” หรือ “นุ่น ดำดง” ในคอนเสิร์ตของ “ผญบ. ฟินแลนด์” เจ้าตัว บอกคิดไว้อยู่แล้วว่าจะเอาเขามาร่วมคอนเสิร์ต แต่มันอาจจะบังเอิญที่เกิดเรื่องราว โดยเมื่อวานเขาเข้ามาหน้าดูเศร้ามาก ๆ เหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา จึงได้ให้กำลังใจเขา ไม่รู้ว่าเป็นซึมเศร้ารึเปล่า แต่พอสัมผัสมากับตัวเขามีความเศร้าตลอดเวลา จึงให้กำลังใจ ตอนขึ้นแสดงเขาเต็มที่ แต่พอลงจากเวทีเขาก็จะมีความเศร้า เขาน่าจะกังวล เพราะฝั่ง “ศรราม” ได้มีการแถลงข่าว ตนก็ได้เตือนว่าอย่าพึ่งไปฟัง ส่วนที่หลายคนบอกมันจัดชนกัน ตนบอกไม่ได้ตั้งใจจัดให้ชนกัน ยอมรับว่าทาบทามให้มาขึ้นโชว์ตอนที่มีปัญหาพอดี ตอนแรกกะจะให้วางไว้เป็นดำดง จงเปลี่ยนมาเป็นนางกินรีเล่นน้ำ ตนไม่กล้าจะใช้ดำดงมาเล่นบนเวที เพราะให้เกียรติศรรามด้วย ด้านนุ่นก็ให้เกียรติศรราม ไม่สะดวกเล่นตัวดำดง ส่วนคอมเมนต์ดึงตัว มีสองด้าน สนับสนันกับไม่สนับสนุน เรามองแค่ว่าเขามาทำงาน เสร็จแล้วกลับ ถ้าอนาคตเขาอยากมาอยู่ก็ดูกันเรื่อย ๆ ถามว่ามีโอกาสไหม ตนก็บอกว่าอนาคตก็มีสิทธิ์ แต่ตอนนี้ไม่ได้มีโครงการที่จะดึงตัวมาเป็นศิลปินของค่าย จากข่าวที่ตนได้ติดตาม วงการลิเกก็ได้ทาบทาม นุ่น มาเยอะ แต่เขาอยากเป็นศิลปินอิสระ ถ้าหากมีการร่วมงานในอนาคตอยากจะสร้างการแสดงลิเกให้เขา เพราะมีคนอยากจ้าง “นุ่น” มาต่างหาก อาจจะไม่เอาบทบาทดำดงมาเล่น แต่เอาบทบาทใหม่มาดีกว่า เพราะเขาเก่งและตลกอยู่แล้ว ทั้งนี้ “ผญบ. ฟินแลนด์” มองว่า ศรราม ไม่น่าโกรธ ยอมรับว่ายังไม่ได้มีโอกาสคุยกันกับศรรามตั้งแต่การทาบทาม คืนนี้จะโทรไปหาเลย ส่วนค่าเหนื่อย “นุ่น” เขาไม่ได้เรียกค่าตัว แต่ให้ค่าน้ำมันและมีผู้ใหญ่ดูแลเขาอยู่แล้ว .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน