พิธีกรฝีปากแซ่บ มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร เปิดใจหมดเปลือกช่วงชีวิตที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังจนมีงานเข้าชน เงินเข้ามือ ทำธุรกิจมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เรียกว่าใช้ชีวิตอยากซื้ออะไรซื้อ อยากกินอะไรกิน ก่อนชีวิตพลิกผันจมดิ่งถึงขีดสุด งานหด-เงินหาย เหลือเงินในบัญชีไม่ถึงล้าน บทเรียนราคาแพงที่ทำให้เจ้าตัวต้องหันกลับมามองตัวเองและปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง แต่เรื่องการมูเตลู มะตูมก็จัดหนักไม่แพ้กัน เพราะเพียงแค่อยากทำอะไรก็ได้ให้ชีวิตดีขึ้น แต่ก็ต้องไม่เดือดร้อนใคร เหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว
โดย มะตูม เผยว่า “ตอนนี้มะตูม คนเดิมกลับมาแล้ว มะตูมปรับเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง ตอนนี้อยากทำงาน เก็บเงิน ไม่ได้ปาร์ตี้หนักสังสรรค์เยอะ ใช้เงินวันละเป็นล้านเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะเรารู้แล้วเราเคยลองมาแล้ว เราเคยพลาดมาแล้ว แต่หลังจากนี้ชีวิตเราจะไม่ทำพลาดอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว ก่อนหน้านี้เราไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีใครสนใจ เพื่อนสนิทที่เคยมีที่เคยรู้จักก็ลดน้อยลง จนมีหลายคนเคยแนะนำให้มะตูมลองไปมูที่นั่นที่นี่ไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ คือมะตูมไม่ได้ขอพรเพื่ออยากให้ตัวเองดังตัวเองรวยแต่เราอยากขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เรามีสติในการดำเนินชีวิตเท่านั้น
พอได้ไปทำพิธีต่าง ๆ ไปไหว้ขอพร เรารู้สึกว่าชีวิตเราดีขึ้น ชีวิตเรามีเป้าหมายมากขึ้น คือตูมไม่ได้พูดเพื่อให้ทุกคนงมงาย แต่ตูมอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เราเคยผ่านมา มันเป็นอีกหนึ่งที่พึ่งทางใจจริง ๆ ทุกวันนี้มะตูมคิดเพียงแค่ว่าเราทำอะไรแล้วเราสบายใจ ทำแล้วไม่เดือดร้อนใครเราก็อยากที่จะทำ อย่างล่าสุดตูมก็มีโอกาสไปรำถวายพิธีบวงสรวงไหว้เทพอินทร์แปลงสี่หูห้าตา และองค์ปู่พญานาค ที่ จ.นนทบุรี ในพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ประจำปี 2567 ซึ่งถือเป็นการรำบวงสรวงครั้งแรกของมะตูม และน้องสาวแท้ ๆ “ใบตอง อนุธิดา” ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่อยู่ดี ๆ พอเค้ารู้ว่าเราจะไปรำบวงสรวงเค้าก็อยากไปด้วย พวกเราใช้เวลาเรียนรำเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับการรำครั้งแรกที่ผ่านมา เราตั้งใจมาก
เราพึ่งมาย้อนดูคลิปตัวเองมีอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนน้ำตามันไหลออกมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ใจเรามีความเชื่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เพราะมันเป็นที่พึ่งทางใจแล้วเราก็ขอพรทีไรเราก็สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้ที่เราขอให้เรามีงาน มีเงิน มีสติ เราก็เริ่มกลับมาทำงานอย่างเต็มตัวอีกครั้ง อย่างก่อนหน้านี้เราเคยไปไหว้ขอพรว่าเราอยากไปทำงานโกอินเตอร์กับการเดินแบบในต่างประเทศ เราก็ได้ไป แต่เอาจริง ๆ เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย ถ้าเราอยากทำอะไร เพียงแค่เราลงมือทำ ตั้งใจ และพยายาม มันก็จะประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ทุกอย่างต้องลงมือทำด้วยตัวเอง
ตั้งแต่มะตูมได้บวชเรียนมา ทำให้เราได้มีโอกาสศึกษาธรรมะมากขึ้น มีสติมากขึ้น จากเมื่อก่อนมีเงินก็ชอปปิงซื้อของ ไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ แต่เดี๋ยวนี้ชีวิตกลับเป็นหน้ามือกับหลังมือ พอเราเริ่มกลับมาทำงานมีเงินอย่างล่าสุด มะตูมก็กำลังจะเป็นเจ้าภาพสร้างอาคารปฏิบัติธรรมและสร้างองค์พญานาค ก็รู้สึกดีนะที่เราได้ทำอะไรแบบนี้ มันทำให้ชีวิตเราดูมีคุณค่า มีประโยชน์กับสังคมมากขึ้น และเดี๋ยววันที่ 4-5 พฤษภาคมนี้ มะตูมจะไปร่วมพิธีสืบชะตาบูชาดวงใหญ่ที่สุดในไทย ที่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน