ถึงกับออกปากว่า “สุขภาพ” สำคัญและจำเป็นกับชีวิตจริง ๆ สำหรับนักร้องดังยุค 90 แหม่ม พัชรดา วัฒนา ที่ เล่าประสบการณ์ป่วยโรคซึมเศร้า หลังสังเกตความคิดตัวเองเปลี่ยนไป เป็นความคิดลบ เลยรีบไปพบแพทย์ และตรวจพบว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตทำร้ายตัวเอง แนะการรักษาต้องอาศัยคนรอบข้างส่วนหนึ่ง ทานยาส่วนหนึ่ง และจากตัวเองส่วนหนึ่ง หยุดใช้คำว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” เพราะเมื่อเวลาที่สารเคมีในสมองมันพร่อง มันใช้คำนี้ไม่ได้ แนะนำคนรอบข้างอย่าชวนคนป่วยซึมเศร้าคุยเรื่องการป่วย หรือพูดว่าเดี๋ยวก็หาย เพราะคนป่วยจะหนีทันที สิ่งที่ช่วยได้คือพาเขาออกจากเรื่องที่เป็น เปลี่ยนเรื่องคุย แล้วจะดีขึ้น แต่ต้องควบคู่กับการรักษา โชคดีน้องสาว โมเม นภัสสร และเพื่อนรอบตัวรับมือได้ จึงเป็นพาตนออกจากอาการป่วย จนดีขึ้น สมัยนี้ง่ายกับการศึกษาโรคซึมเศร้ามาก ทำความเข้าใจกับโรคเพราะมันรักษาได้
แฮปปี้กับชีวิตในวัยใกล้เกษียณ รักชีวิตและบาลานซ์มากขึ้น ไม่นำความเครียดมาใส่ตัว รวมถึงการซื้อความสุขให้ตัวเอง ไม่ใช่เก็บแต่เงิน หาแต่เงิน จนไม่มีความสุข สุดท้ายชีวิตที่มีอยู่ก็ไร้ค่า ลั่น!! วันนี้หากถึงเวลาก็พร้อมตายได้เลย ร่างกายก็บริจาคแล้ว ชีวประวัติตัวเองทำไว้หมด ใส่ไว้ในตู้เซฟ บอกน้องสาวไว้หมด ถ้าจากไปจริง ๆ ก็แค่เอากุญแจไปเปิด ส่วนจะจัดงานหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของคนตายแล้ว เอาเป็นว่าใช้ชีวิตที่มีอยู่ให้มีความสุข ไม่กลับไปทำร้ายร่างกายหรือเครียดกับสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว สำหรับร้านธุรกิจกาแฟที่เพิ่งปิดตัวลงเมื่อต้นปี ก็เกิดจากการป่วยโรคซึมเศร้านี่แหละ เมื่อก่อนทำงานอาร์เอสจนอายุ 50 ก็คิดว่าอยากทำในสิ่งที่ชอบบ้าง เลยไปเรียนชงกาแฟจนมาเปิดร้าน ทำเองทั้งชง ทั้งขาย ทั้งทำเค้ก พอหลังโควิด -19 คนไม่กล้าใช้เงิน เริ่มรู้สึกสิ่งที่ทำเป็นทุกข์และทรมานตัวเองเกินไป เลยตัดสินใจปิดร้านและยกของทุกอย่างให้รุ่นน้องฟรี ๆ ไม่ได้คิดเรื่องขาดทุน กำไร แต่แค่ได้ซื้อประสบการณ์และพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ถ้าจะทำก็ทำได้ เลยไม่ยึดติด ใช้ชีวิตให้ง่ายเท่านั้นเอง.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน