แม้จะเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว แต่นักแสดงสาว กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ก็ยังคงดูแลตัวเองอย่างดี และพัฒนาความสวยแซ่บมาโดยตลอด ล่าสุดเปิดใจพูดอย่างหมดเปลือกในรายการ WOODY INTERVIEW เผยเคล็ดลับมัดใจสามี บี้ ธรรศภาคย์ ประคองชีวิตรักทางไกล ในช่วงที่สามีต้องห่างครอบครัวบินไปทำงานที่จีน และพูดครั้งแรก! เรื่องการใช้กฎกติกากับสามี บี้ ธรรศภาคย์ ในการทะเลาะกันต่อหน้าลูก และการวางแผนชีวิตเพื่อลูกในวันที่พ่อแม่ไม่อยู่
โดย กุ๊บกิ๊บ เผยว่า “ปีนี้เป่าเปา 8 ขวบ ส่วนเป่าเป้ย์ 3 ขวบแล้ว เด็กพอเขาใช้ชีวิตในโรงเรียนนานาชาติ ได้เปิดความคิดมาก ๆ เขาได้ทำโน้นนี่นั่น ต่างจากตอนเรา 7-8 ขวบ เราทำอะไรอยู่ไม่ใช่แบบนี้ เรารู้สึกว่าเขาโตเร็ว โตไว หลัง ๆ กิ๊บกับบี้บินต่างประเทศบ่อย บี้ช่วงนี้ที่จีนเปิดเขาก็บินไป ๆ มา ๆ แล้วหลัง ๆ กิ๊บก็ต้องไปดูเรื่องศัลยกรรมที่เกาหลี แต่แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่เรา 2 คนจะต้องบินไปเกาหลีด้วยกันแล้ว น่าจะเป็นครั้งที่นานที่สุด ต้องเอาลูกไว้ที่บ้าน เสร็จแล้วพอเราบินก็คุยกันว่าคิดถึงลูกเนอะ เปิดดูรูปลูก สักพัก 2 คนผัวเมียก็เงียบ เพราะคิดว่าถ้าเราเป็นอะไรไป เราจัดการให้ลูกหมดแล้วเนอะ ของเธอลูกจะได้เท่าไหร่ ของเราสองคนได้จนเรียนจบใช่ไหม ถ้าเราเป็นอะไรไปใครจะดูแลลูก เตรียมแล้ว บอกแล้วเนอะนั่งคุยกัน 2 คนผัวเมียแล้วร้องไห้ด้วยกัน เวลามันผ่านไปเร็วลูกกำลังโต เขากำลังจะต้องเดินไปข้างหน้า เราจะต้องจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาถ้ามันเกิดอะไรขึ้นเราจะพลาดไม่ได้เลย ลูกจะต้องได้ไปต่อในสิ่งที่เขาจะต้องได้ไป จุดนี้แล้วที่เราสองคนไม่ได้ห่วงแค่เรื่องของตัวเอง แต่เราห่วงเขาสองคนว่าเขาจะอยู่ได้ไหม เราเตรียมทุกอย่างให้เขาแล้ว เขาต้องได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราคิดว่ามันจะเหมาะมันจะดีกับเขา บอกลูกตลอดว่าถ้าแม่เป็นอะไรไป หนูจะไปหาใครได้บ้าง ใครที่หนูจะไว้ใจได้บ้าง ใครที่จะช่วยหนูดูแลหนูได้ ที่บอกก็จะมี ดิว อริสรา ที่เป็นเพื่อนสนิทแม่ หนูมีอะไรหนูไปขอความช่วยเหลือเขาได้ ลุงต๊อบ เถ้าแก่น้อย เขาจะช่วยจัดการทุกอย่างให้หนู กิ๊บว่าสิ่งที่น่ากลัวคือเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป กิ๊บจะทำเหมือนที่กิ๊บเคยเลี้ยงเขา เตรียมเขาตั้งแต่เด็ก ๆ จะไปหมอนะคะวันนี้ จะไปหาหมอจะต้องฉีดยานะ แล้วเตรียมคุณหมอจะจิ้มตรงนี้แล้วมันจะเจ็บนะ หนูจะเจ็บนะหนูร้องไห้ได้นะ เราจะบอกเขาไว้เขาก็จะรู้กระบวนการมันเป็นแบบนี้ เดี๋ยวฉันจะร้องไห้ เดี๋ยวฉันก็จะรู้ว่าความเจ็บมันจะหายไป กิ๊บก็เลยจะเตรียมเปาเป่าไว้แล้วเรียกเป่าเป้ย์มาด้วย ว่านี่นะหนูมีพี่เปานะ ถ้าแม่เป็นอะไรไป ป๊าเป็นอะไรไปคนนี้อยู่กับหนูนะ ซึ่งลูก ๆ เขาฟัง
เป่าเปาฟังแล้วก็ถามกิ๊บคำหนึ่งบอกว่าแล้วหนูเรียกน้าดิวว่าแม่ได้ไหม ก็เลยบอกว่าได้สิ ไม่มีปัญหาเลย หรือว่าใครที่ดูแลหนูแล้วหนูรักเขา แต่ลูกไม่ได้ถามว่าแม่จะต้องไปแปลว่าอะไร เขาเข้าใจ แปลกไหม ถึงได้บอกว่าเด็กโตกว่าที่เราคิด เขาเข้าใจการจากลา กิ๊บบอกเขาตลอดว่าวันหนึ่งเขาจะต้องอยู่กันเอง เขาไม่ได้มีหน้าที่จะต้องแบกรับน้องนะ เปาไม่ได้มีหน้าที่แบ่งรับน้อง แต่คือจะต้องอยู่ด้วยกัน แล้วก็ดูแลกันไปจนโต เหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นพี่จะต้องเสียสละให้เป้ย์ อะไรก็จะต้องพี่เปาไม่ใช่นะ แต่คุณจะต้องรักกัน เทคแคร์กันนั่นคือสิ่งที่กิ๊บสอนลูกตลอด กิ๊บกับบี้เราวางแผนการเงินไว้แล้ว แต่ว่าหลังจากวันนั้นมีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่เราจะบิน หรือจะไม่อยู่ เราจะบอกเขาทุกครั้ง กิ๊บจะชอบใส่เรื่องแบบนี้ในบทสนทนากับลูกอยู่บ่อย ๆ รู้สึกว่าถ้าเขาได้คุ้นชิน จะเหมือนเราฝึกอะไรสักอย่าง ถ้าฝึกมันไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกว่าคุ้นเคยกับมัน เป็นสัจธรรม ความจริงของชีวิต ถ้าลูกได้ยินเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ เขาจะรู้ว่าเขาจะยังไง เวลาเกิดขึ้นเขาก็คงเสียใจ แต่เขาจะรู้ว่าชีวิตจะยังไปต่อนะ
ถามว่าเวลาที่กิ๊บกับบี้ทะเลาะกันต่อหน้าลูก เรามีกติกายังไงไหม ? เรื่องนี้ไม่เคยพูดที่ไหนเลย เราเคยมีหลุดที่แบบเหมือนจะทะเลาะกันต่อหน้าลูกประมาณ 1-2 ครั้ง แต่ว่าไม่แรง เพราะเราจะรู้ตัวว่าลูกอยู่ แล้วเปาเขาก็จะบอก หยุด! หยุดเลยทั้งคู่ เปาจะบอกอย่างนี้ เราก็จะรู้แล้ว เพราะกิ๊บจะเป็นคนไม่ขี้โมโห ใจเย็น แต่บี้อาจจะมีบ้าง ที่แบบผู้ชาย ฮอร์โมนจะมีความนิดหนึ่ง แต่หลังจากที่เราทะเลาะต่อหน้าลูกครั้งสุดท้าย แล้วลูกบอกว่า หยุด! พอ! แสดงว่าเขารู้แล้วว่ามันคืออะไร เราไม่อยากให้ลูกเห็นอะไรแบบนี้อีก เราก็จะเลือกวันกัน แบ่งวัน ใน 1 อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ถ้าวันไหนที่ลูกบอกว่าหนูอยากไปเที่ยว แล้วกิ๊บบอกว่าไม่เอาไม่ควร กิ๊บเห็นว่าไม่โอเค แต่บี้บอกว่านิดหน่อยเองลูกต้องได้ เขาได้ เพราะเป็นวันของบี้ บี้มีสิทธิ์นั้น แต่หลังจากพุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตาของดิฉันแล้ว ถ้าดิฉันบอกว่าเปาทำยังงี้แม่ว่าไม่โอเค บี้ก็จะต้องตามแม่ค่ะ รู้ไหมว่ามันตัดปัญหาการทะเลาะกันต่อหน้าลูก หรือการที่พ่อแม่จะเถียงกันแล้วเลี้ยงลูกไม่ไปในทางเดียวกัน จริง ๆ อันนี้แชร์ได้ แต่ว่าพ่อแม่ต้องตกลงกันแล้วพ่อแม่ต้องเคารพที่เราตกลงกันด้วยนะ เราการทะเลาะกันต่อหน้าลูกแล้วลูกเป็นผู้หญิงด้วยไม่ดีเลย ขนาดตัวเราเองยังไม่อยากนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่คนทะเลาะกันเลย เราแต่งงานกัน 8 แต่ถ้ารวมคบกันก็เกือบ 9 ปี วันแรกที่คบกันออกสื่อยังจำคอมเมนต์ได้เลย ไม่รอดหรอก เดี๋ยวก็เลิก ท้องก่อนแต่งเดี๋ยวก็เลิก แบบทุกคนรู้เรื่องของเราดีกว่าตัวเราหมดเลย แต่ถามว่าสิ่งที่ทุกคนคอมเมนต์มันกลายเป็นทำให้เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรชีวิตคนก็แบบนี้ เราวางแผนอะไรไว้บ้าง คนอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่วันหนึ่งคนก็จะเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันก็มีนะ มันเกิดขึ้นได้ คือปรับกันเยอะในเรื่องของแอตติจูดที่มีต่อกันและกัน คิดว่าตอนที่คบเป็นแฟนกันที่ยังไม่ได้แต่งงานมีลูกทะเลาะกันบ่อยกว่า พอแต่งงานมีลูกก็ค่อย ๆ เบาลง แต่มันจะมีเรื่องมาตลอดเวลามีเรื่องครอบครัว มีโน้นมีนี่ ความเห็นในเรื่องเลี้ยงลูก มันจะมีเข้ามาตลอด แรงบ้าง เบาบ้าง แต่คู่เราเป็นคู่ที่ทะเลาะกันเพื่อปรับ ไม่เคยคิดว่าทะเลาะกันเพื่อเลิก ณ วันนี้ ปัจจุบันนี้ กิ๊บกับบี้ทะเลาะกันน้อยมาก เถียงกันนิด ๆ หน่อย ๆ แป๊ปเดียวจบ ผ่านไปเร็วแล้วก็เข้าใจนิสัยของแต่ละคนมากขึ้น สิ่งที่ทำให้กิ๊บกับบี้ทะเลาะกันมากที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของเราสองคน เวลาเราอยู่กันสองคนเราจะรักกันมาก สวีตสุด ๆ เราจะแบบฉัน 17 เธอ 18 มันจะกุ๊กกิ๊กมาก ๆ มันจะตะมุตะมิ ๆ จนทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้น เคล็ดลับมัดใจสามีของกิ๊บคือ ดูแลตัวเอง เข้าใจ ผู้ชายยังไงก็ชอบดูอะไรสวย ๆ งาม ๆ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะมีคำว่าเบื่อ เพราะว่าเราไม่ใช่แค่ดูแลตัวเอง ในที่นี่คือไม่ใช่แค่ดูแลรูปร่างหน้าตา เราต้องดูแลไปถึงความคิด สิ่งที่เราคิดกับตัวเรา สิ่งที่เราคิดกับตัวเขา สิ่งที่เราดูแลเขาและสิ่งที่เราทำให้เขา และทำให้ตัวเราเอง เวลาคนเรามีชีวิตคู่วันหนึ่งถ้าเรามัวแต่คิดถึงตัวเรา เราจะลืมคน ๆ หนึ่งไป แล้วถ้ามัวแต่คิดถึงแต่ลูก เราก็จะลืมคน ๆ หนึ่งไป มีช่องว่างของกันและกันเกิดขึ้น สิ่งที่กิ๊บรู้สึกว่าทำให้เขารักแล้วก็เอ็นดูเรา และมีความสุขตลอดมันคือกิ๊บใส่ใจเขาในทุก ๆ ความรู้สึก ในทุก ๆ คำพูด ในทุก ๆ วัน พยายามทำให้เขารู้สึกไม่ขาดอบอุ่น แล้วเราก็ดูแลตัวเองให้เราดูดี ดูสวยน่ามอง อาจจะไม่สวยในสายตาคนอื่น แต่เราก็จะดูดีสวยน่ารักในแบบเขา”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน