จากกรณีนักมวยดังดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก สมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกเด็กสาวอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวหาว่าถูก สมรักษ์ ล่วงละเมิดทางเพศ เหตุเกิดกลางดึกของวันที่ 9 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา หลัง สมรักษ์ ก็ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ขอนแก่น และไปเจอเด็กสาวคนนี้ เพราะอีกฝ่ายเข้ามาขอถ่ายรูป จากนั้นก็เดินทางไปยังโรงแรมด้วยกัน โดย สมรักษ์ ยอมรับว่ามีการถอดเสื้อผ้าและกอดจูบกันจริง ๆ แต่ไม่ได้ข่มขืนตามที่ฝ่ายหญิงกล่าวอ้าง และ สมรักษ์ เองก็หย่าขาดจากอีตภรรยา
ล่าสุดเย็นวันนี้(12 ธ.ค.66) เบสท์ รักษ์วนีย์ ลูกสาวของสมรักษ์ เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ในส่วนของคดีต้องรอดูว่าทางทนายจะจัดการยังไง ต้องรอกระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ พ่อเล่าให้เบสท์ฟังเหมือนที่พูดในข่าว เบสท์รู้ว่าพ่ออยุ่ขอนแก่น แต่ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง แต่เชื่อว่าไม่มีใครรู้สึกดี เสียความรู้สึกทุกฝ่าย รวมถึงตัวผู้เสียหายด้วย อยากให้คอมเมนต์กันเบา ๆ ให้กำลังใจทุกฝ่ายดีกว่า ในมุมของครอบครัวก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีข่าวแบบนี้เกิดขึ้น พอเบสท์ โบ๊ท และคุณแม่คุยกัน เราก็ให้กำลังใจกัน มันต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็นครอบครัวกันแล้ว อันนี้หนูรู้อยู่แล้ว เพราะตอนที่เขาหย่ากัน พ่อกับแม่ก็บอกเรา ซึ่งเราแล้วแต่เขาอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องของสามีภรรยา ถ้าเขาสบายใจ เราก็โอเค แต่ที่ไม่ได้ออกมาพูด เพราะถึงพ่อจะหย่ากับแม่ แต่เขาก็ยังอยู่บ้านเบสท์ เพียงแต่อยู่คนละห้องกับแม่ ก่อนจะที่เขาจะตัดสินใจยุติควาสัมพันธ์กันเขาก็บอกกับลูก ๆ เบสท์กับโบ๊ทก็โตแล้ว เข้าใจในเรื่องของความรัก ถ้ามันไม่โอเค ไม่สบายใจก็แล้วแต่เขาจะตัดสินใจ ซึ่งเบสท์คิดว่าเหตุผลน่าจะหลาย ๆ เรื่องรวมกัน เพราะเขาอยู่กันมานาน แต่เบสท์ไม่ได้ถาม คิดแค่ว่าถ้าแม่สบายใจแบบไหน ก็เอาตามแม่
ส่วนคอมเมนต์ด้านลบที่เข้ามา เบสท์มองว่าเป็นปกติ เพราะโดนดราม่ามาเยอะ ขอโฟกัสคนที่ให้กำลังใจมากกว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่มาว่าก็ ขอโทษแทนคุณพ่อด้วย ขอบคุณแฟนคลับและทุก ๆ คนที่ให้กำลังใจ หนูรับรู้ มันฮีลใจหนูจริง ๆ พ่อน่าจะได้กลับมา กทม เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องเคลียร์ ทนายเองก็อยู่กรุงเทพ สำหรับประเด็นที่บอกว่าถ้าเสร็จเรื่องนี้ พ่อจะไปอยู่ฝรั่งเศส ส่วนตัวเบสท์บอกพ่อไปว่า ถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดแล้วอยากไปพักผ่อน หนูก็จะออกค่าตั๋ว ค่าทริปให้ แต่ถ้าผลออกมาแล้วเราผิด เราต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราทำ ผิดก็คือผิด ทุกวันนี้เบสท์ก็ยังซัพพอร์ต ยังรักพ่อแม่ปกติ มันเกิดขึ้นแล้ว เบสท์เป็นคนที่ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก เบสท์ให้กำลังใจพ่ อ แต่ถ้าพ่อทำผิดจริง ๆ ก็ต้องยอมรับผิด แต่เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนั้นพ่ออยู่กับน้องแค่ 2 คน ต้องให้กระบวนการทางกฏหมายพิสูจน์ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงหนูก็ซัพพอร์ตพ่อแม่หนูเท่าที่หนูทำได้อยู่แล้ว ใจก็ยังไม่อยากให้พ่อไป อยากให้พ่อเผชิญปัญาหาที่เกิดขึ้นก่อน
ถามว่าในฐานะที่เราเป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วต้องมาเจอเรื่องเหนือความคาดหมาย มันหนักสำหรับเราไหม หนักค่ะ แต่เราเลือกไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้ว เดินหน้าดีกว่า การเป็นหัวหน้าครอบครัว รับปิดชอบครอบครัวเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหามันอาจจะรู้สึกไม่ดีตรงที่ว่าเราไม่ทำ แต่มีคนมาด่าเราน้อยใจไหม หนูโดนมาตลอด มันห้ามไม่ได้ ถามว่าเชื่อพ่อขนาดไหน หนูไม่เชื่อใครเลย มันพิสูจน์ไม่ได้ เราไม่ได้อยู่ในห้องนั้น ไม่ได้อยู่ในคืนนั้น ไม่รู้ว่าจะมีใครพูดความจริง 100 เปอร์เซ็นต์ไหม ต้องพิสูจน์ตามขั้นตอน ให้ทนายเป็นคนดูแล หลังเกิดเรื่องพ่อไม่ได้พยายามติดต่อมาหาเบทส์ ส่วนใหญ่จะคุยกับโบ๊ทมากกว่า เพราะเขาสนิทกับโบ๊ทมากกว่า ถามว่าอยากพูดอะไรกับพ่อ เหมือนที่พูดทุกรายการเลยค่ะ อยากให้ดูแลตัวเองดี ๆ อยากให้รอบคอบ ไม่ได้ว่าพ่อนะคะ ไม่ได้ว่าพ่อนะคะ ยังรักพ่อเหมือนเดิม แต่อะไรที่มันผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ต้องตักเตือน เบสท์ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องออกมาพูด เพราะเดี๋ยวคนจะมองว่าเราไม่รักพ่อไม่รักแม่ เบสท์รักครอบครัวเหมือนเดิม แต่ในเรื่องนี้ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด
ที่ผ่านมาเวลาเกิดปัญหาเบสท์กับพ่อจะคุยกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเซนซิทีฟก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย เดี๋ยวนี้ชาวเน็ตเดี๋ยวนี้เก่ง แยกแยะได้ ถ้าเราทำผิดจริง ๆ เขาไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ถ้าเราทำถูก จากที่เขาด่าเขาก็จะกลับมา ในเมื่อความจริงมันเป็นแบบนี้ ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าถามว่าพ่อมีความผิดไหม มีความผิดอยู่แล้ว ขอโทษแทนคุณพ่อด้วย หลังจากนี้จะคุยกับพ่อเพื่อให้พ่อสบายใจไหม เบสท์ว่าเบสท์คุยกับแม่ดีกว่า ให้โบ๊ทคุยกับพ่อ ผู้ชายด้วยกันน่าจะเข้าใจกัน หนูคุยกับแม่ หัวอกผู้หญิงด้วยกัน หนูเข้าใจ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากคุยกับพ่อ แต่สิ่งที่หนูได้รับกลับมามันเหมือนกันในข่าว เลยรู้สึกว่าดูในข่าวก็ได้ แต่ถ้าในเรื่องของกำลังใจ เบสท์มองว่าให้กำลังใจแม่ดีกว่า ไม่ได้ให้กำลัใจพ่อ แต่ก็บอกพ่อว่าถ้าพ่อทำผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ว่าจะผิดมาก ผิดน้อย ก็ต้องยอมรับ เบสท์เชื่อว่ามันไม่ได้มีใครรู้สึกดีหรอก แม่เองก็ไม่ได้รู้สึกดี แต่เราก็ให้กำลังใจกัน ถามว่าโอเคกับสิ่งที่เจอไหม ไม่มีใครโอเคหรอก แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ เรื่องนี้ไม่ได้เป็ยเรื่องของเบสท์ ไม่ต้องเชื่อเบสท์ก็ได้ ให้ดูกระบวนการทางกฏหมาย รับรู้ว่าทุกคนให้กำลังใจเบสท์ ขอบคุณมากค่ะ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน