ทำเอาหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ สำหรับนักร้องเสียงดี แพท-รัณนภันต์ หรือ แพท วงเคลียร์ เมื่อเจ้าตัวถึงกับต้องถามหาความปลอดภัย หลังเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ต ที่จังหวัดพิษณุโลก และได้เช็กอินโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่จู่ ๆ กลับมีพนักงานโรงแรมถือวิสาสะใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามากลางดึก โดยไม่ได้รับอนุญาต อ้างว่ามาเช็กแอร์ ซึ่งตอนนั้นตนกำลังแต่งตัวอยู่ด้วย
โดยสาว แพท ต้องออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าว ลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “โรงแรมที่พักมีสิทธิ์เปิดเข้ามาในห้องพักลูกค้าเหรอคะ? แพทแต่งตัวอยู่ เมื่อคืนมีผู้ชายเปิดเข้ามาค่ะ เมื่อคืนเวลาประมาณ 22.00 แพทอยู่ในห้องคนเดียว กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องโรงแรม เตรียมตัวจะออกไปโชว์ มีผู้ชายใช้คีย์การ์ดเปิดเข้ามาในห้อง แพทตกใจมากตะโกนเสียงดัง ผู้ชายคนนั้นพูดว่า “ขอโทษครับ” แล้วปิดประตู
ซักพักมีคนโทรขึ้นมาบนห้องบอกว่า “ขอโทษครับ ผมเห็นว่าแอร์ไม่ติดเลยจะเข้ามาดู” งง ๆ แล้ววางสายไป ใช่ค่ะ แพทไม่ได้เปิดแอร์เพราะอากาศค่อนข้างเย็น (และรร.ปกติมีมอนิเตอร์ดูด้วยเหรอคะว่าห้องไหนเปิด/ไม่เปิดแอร์) แต่คิดแล้วคิดอีกมันก็ไม่มีเหตุผลสมควรไหนเลย ที่ทางโรงแรมจะมีสิทธิ์เปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเช็กอินเข้าพักแล้ว มันอันตรายมากนะ ยิ่งสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวนอนคนเดียว ห้องที่นี่ไม่มีสายยูล็อกด้วยนะ
ผจก.วงลงไปถามรายละเอียด และขอการ์ดห้องแพทเพิ่มอีกใบเพราะทีแรกได้มาใบเดียว (ปกติเราควรได้ห้องละสองใบไหมคะ) ทางโรงแรมให้การ์ดมาโดยไม่มีการสแกนอะไรเพิ่มเติม เหมือนกับว่ามีการเตรียมอีกใบไว้อยู่แล้วของห้องนี้ ซึ่งก็แปลกอีก เมื่อคืนแพทไม่ได้เปลี่ยนโรงแรม เพราะโชคดีว่าไปจังหวัดที่มีน้องอยู่ เลยโทรเรียกขอให้น้องมาช่วยนอนเป็นเพื่อน และเช้านี้ออกเดินทางเช้ามาก ถ้าเปลี่ยนโรงแรมอาจจะยิ่งต้องนอนดึก แต่เป็นการนอนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดคืน
มีเหตุผลไหนที่มีน้ำหนักมากพอที่โรงแรมจะควรเปิดเข้ามาในห้องที่ลูกค้าเช็กอินแล้วเหรอคะ? ต่อให้กรณีลูกค้าไม่อยู่ในห้องก็มีทรัพย์สินอยู่ในห้องไหมคะ? และนี่แพทกำลังแต่งตัวอยู่มันหนักหนาเหมือนกันเนอะ และเมื่อคืน จริง ๆ ห้องพี่นัทกลองก็ไม่ได้เปิดแอร์เหมือนกัน ก็ไม่มีใครเปิดเข้าไปนะ” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน