เฌอปราง เผยเป็นไอดอลไม่ง่าย วงดังแต่ร้องไห้ตลอดเวลา แข็งแกร่งเพื่อพ่อแม่ แต่แอบโทษตัวเองช่วยน้องไม่ได้!

นักร้องนักแสดงมากความสามารถ เฌอปราง อารีย์กุล เปิดใจหมดเปลือกในรายการ รClub Friday Show เล่าถึงหน้าที่กัปตันวงไอดอลดัง BNK48 ที่ความโด่งดังของวงมาพร้อมความกดดันที่ทำเอา เฌอปราง เครียดหนักจนคิดลบกับตัวเองถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ รวมถึงบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากอุบัติเหตุใหญ่ทำให้หันมาใส่ใจและให้เวลากับคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ใช้โอกาสและเวลาให้คุ้มค่า รวมถึงการสูญเสียน้องชายแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ เฌอปราง ต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งให้คุณพ่อคุณแม่ แต่ลึก ๆ เจ้าตัวก็ยังรู้สึกโทษตัวเองที่ช่วยน้องชายไม่ได้ และคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่าวง BNK48 ห้ามมีแฟนจริงมั้ย พร้อมอัปเดตสเตตัสหัวใจให้ฟังว่าตอนนี้ยังหว่างหรือมีใครดูแลแล้ว


โดย เฌอปราง เล่าว่าตอนที่วง BNK พีกมาก เจ้าตัวมีความกดดันจนกระทั่งเบิร์นเอ้าท์ หนักสุดคือห้ามความคิดลบของตัวเองไม่ได้ อยากร้องไห้ตลอดเวลา ไม่อยากเจอคน ไม่อยากทำงาน จนคิดว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าหรือเปล่า เพราะความคิดลบตอนนั้นคือไม่อยากอยู่แล้ว อยาากซุกตัวอยู่ซอกเตียง อยากตัวเล็ก ๆ ซึ่งที่บ้านก็ตกใจ จึงตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ หลายคนมักพูดว่าถ้าตอนนั้น ฉันทำแบบนี้ ก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่สำหรับเฌอ เป็นคนที่พยายามไม่ให้เกิดคำว่า “รู้งี้” ในชีวิต ทำอะไรจะทำให้เต็มที่ แต่ก็มีเรื่องนี้เรื่องใหญ่ที่เกิดคำว่า “รู้งี้” ไปตลอดชีวิตเลย คือเรื่องอุบัติเหตุ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นทำให้เรารู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตลอด อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอด เลยพยายามที่จะไปเจอและอัปเดตชีวิตกับคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น รวมถึงเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้เราสูญเสียน้องชาย วันนั้นตื่นมาแล้วทราบข่าว ไลน์เด้งเป็นร้อย ๆ ข้อความเลย ตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราต้องแข็งแกร่ง เพราะรู้สึกว่าตอนนั้นพ่อกับแม่น่าจะแย่มาก ๆ เราต้องแข็งแรงก่อน ช่วงนั้นเราก็ต้องทำหน้าที่ขับรถเพราะว่าพ่อแม่ขับรถไม่ไหว เราก็น้ำตาซึมบ้าง ร้องไห้บ้าง หยุดร้องบ้าง แต่ว่าถ้าหนักจริง ๆ ก็คือ 2-3 วันผ่านไป เริ่มรับรู้ รับทราบสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็รู้สึกว่าถ้าเราบอกเร็วกว่านี้ หรือเราให้ทุกคนพยายามช่วยหรือดูกันมากกว่านี้อาจจะดีขึ้นไหม รู้สึกโทษตัวเองที่ช่วยน้องไม่ได้

“ส่วนเรื่องความรักเฌอเองก็อยากรู้ว่าจะมีไหม ที่ผ่านมาไม่มีเพราะเป็นกฎกติกาหรือข้อห้ามในวงเลยหรือเปล่า เรียกว่าต้องระวังภาพลักษณ์มากกว่า มีคนมาจีบไหม ต้องถามว่าเรารู้ตัวหรือเปล่าดีกว่า เพราะเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาจีบเหรอ จริง ๆ เรามีความรักแบบแฟนตอนประมาณมัธยม คุยแมสเสจกัน 2 ปีก่อนจะตกลงเป็นแฟน แต่ก็เป็นแฟนกันได้แค่ 6 เดือนเอง ทำให้เรารู้สึกผิดตลอดเวลา แล้วมาอีกครั้งคือมหาวิทยาลัยเราอยู่กับแมสเสจอีกแล้วค่ะ สุดท้ายก็ไม่รอด ตอนนี้ถ้าจะมีใครเข้ามาจีบจริง ๆ ต้องเป็นยังไง เอาจริง ๆ สำหรับตัวเฌอถ้ามีคนช่วยเรื่องเหล่านี้น่าจะดี คือตัวเฌอเป็นคนที่ชอบทานของอร่อย แต่ขี้เกียจทำ และเฌอหาเงินได้ แต่ทำให้มันงอกเงยยังไม่ค่อยเก่ง ถ้าเกิดคนที่เขาเข้ามาเขาสามารถช่วยจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะมีความสุขมากค่ะ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 253 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม