ยอมรับว่ากระแสภาพยนตร์ “สัปเหร่อ” เปลี่ยนชีวิตไปมาก นางเอกสาว 300 ล้าน “แพมมี่ สุธิดา” บุกมาโชว์เสียงร้อง “คาถาขุนแผน” ในรายการตกมันส์บันเทิง พร้อมกับเปิดใจกับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนวันนี้(20 ต.ค. 2566) ว่าจริง ๆ รอคอยหนังเรื่อง “สัปเหร่อ” มานานถึง 6 ปี เพราะโดนเลื่อนฉายมาตลอด หลังมีหนังมาแทรกอยู่เรื่อย ๆ และด้วยช่วงโควิดทำให้ผู้กำกับลงไปทำจริงจัง แต่หลังจากที่ได้ทำภาพยนตร์เรื่องนี้และได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากก็เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตมากขึ้น เกินที่คาดคิดไปมาก คนดูชอบก็ดีใจมาก ๆ แล้ว ในระยะเวลา 3 อาทิตย์ที่หนังเข้าฉาย รายได้ก็ทะลุไป 300 ล้านแล้ว เวลาออกไปเจอแฟน ๆ ก็มีแอบร้องไห้เพราะตื้นตัน ซึ่งก็เป็นผลพลอยได้เวลารับงานต่าง ๆ ก็จะมีความน่าเชื่อถือลูกค้ากล้าจ้างมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแอบไปเดินทางสายมูมาอยากให้หนังปัง ๆ และก็ได้ตามคำขอ หลังจากนี้ก็มีแพลนโปรโมตต่างประเทศ ซึ่งแพลนไว้ว่าที่เประเทศเกาหลี และตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวก็เริ่มฉายแล้ว
ด้วยกระแสที่ตอบรับที่ดีและยอดรายได้ก็ทะลุไป 300 ล้าน หลาย ๆ คนก็สงสัยว่าจะได้รับส่วนแบ่งยังไงบ้าง เจ้าตัวบอกว่าทางผู้ใหญ่ก็มีคุยกันเรื่องโบนัส และก็มีเกริ่น ๆ ว่าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นกับทีมงานทั้งหมด ส่วนภาคต่อไปที่จะเป็นบทสรุปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจักรวาลไทบ้าน ซึ่งก็อาจจะได้เจอกันอีกในภาคหน้า มีคุยเกริ่น ๆ กับผู้กำกับไว้บ้างแล้วแต่จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามกัน ถึงจะขึ้นแท่นนางเอก 300 ล้านแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันเพราะมองว่าตัวละครทุกตัวในหนังเด่นหมด ผู้กำกับให้ความสำคัญกับทุกตัวละครให้ทุกคนได้จดจำภาพได้ ซึ่งหลังจากนี้งานละครก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ จะได้เห็นกันมากยิ่งขึ้น
ส่วนนักร้อง “กานต์ ทศน” เจ้าของเพลงดัง “คาถาขุนแผน” ที่ขอสลัดลุคส์นักร้องเปลี่ยนเป็นผู้จัดการส่วนตัวของสาว “แพมมี่” ชั่วคราวก็ออกมาเล่าขำ ๆ ว่าช่วงนี้เพราะอีกฝ่ายมีงานเข้ามาเยอะ ตั้งใจไม่รับงานเยอะเพราะอยากมาสอนเทรนด์อีกฝ่ายด้วยตัวเอง ในฐานะรุ่นพี่ก็ให้คำแนะนำนักร้องรุ่นน้องว่าให้ตั้งใจทำงาน แต่ด้วยความที่ทำงานด้วยกันมานานก็กลายเป็นรู้ใจกันไปแล้ว ก็อยากจะช่วยกันซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน พร้อมเปิดใจกับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนที่แรกว่าช่วงโควิด-19 เป็นช่วงที่ไม่มีงานและเจอกับปัญหาไม่มีเงินและเกิดหนี้สินตามมาและได้พูดคุยกับแพมมี่ถึงเรื่องแพลนอนาคตอยากจะแยกย้ายกันไปทำงานกลับไปทำงานที่บ้านเกิดแต่เพลง “คาถาขุนแผน” ก็พลิกชีวิตทำให้ทั้งคู่มีโอกาสได้กลับมาร้องเพลงและสร้างบริษัทเล็ก ๆ ไว้ตามที่ตั้งใจไว้ พยายามบอกอีกฝ่ายตลอดว่าคนเราไม่ได้ดังไปตลอด ถ้าเกิดพรุ่งนี้ไม่มีกระแสเลยต้องเลือกรับงานไว้ก่อน มีอัปค่าตัวบ้างเพราะอยากเลือกรับงานให้เหมาะสมกับตัวเอง
และเพราะไปไหนมาไหนก็ตัวติดกันตลอดทำให้แฟน ๆ เห็นเคมีที่เข้ากันของทั้งสองคนซึ่งหนุ่ม “กานต์” ก็บอกว่าตอนนี้รับงานคู่มากยิ่งขึ้น หลายครั้งที่ลูกค้าขอมาอยากให้ขึ้นร้องเพลงคู่ ซึ่งแฟน ๆ ก็เชียร์กระแสตอบรับดีมาตลอด หลายครั้งที่โดนถามว่าเป็นอะไรกันแต่ตนก็พยายามไม่ตอบปล่อยให้เดากันไปเอง แต่ก็เป็น “เฟื่อน” ที่คอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน คอยช่วยกันหาตังค์ปลดหนี้เพราะเพิ่งไปถอยรถมาใหม่และอยากจะสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัว.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน