เจ้าบ่าวป้ายแดง “หมาก ปริญ” เปิดใจครั้งแรก หลังควงแขนเจ้าสาวคนสวย “คิม คิมเบอร์ลี่” เข้าพิธิวิวาห์ในฝัน ณ ทะเลสาบเลคโคโม่ ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 ที่ผ่านมา โดย “หมาก” เผยว่า “ชื่นใจมาก มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นจริง ก่อนงานแต่งทุกคนเครียดมาก เพราะฟ้า ฝน อากาศ พายุมาพอดี เราก็ใช้ทุกวิถีทางที่ทำได้ ทั้งมู ทั้งขอ ทั้งบน ทำทุกอย่าง พอถึงวันจริง มันคนละเรื่องกับพยากรณ์อากาศช่วงเวลาที่ผ่านมาเลย ไม่ได้งมงายอะไรนะ แต่รวบรวมพลังจิตทั้งหมดที่มี ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด เกิดมาในชีวิตไม่เคยขออะไรเลยขนาดนี้ ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาราบรื่น ส่วนที่หลายคนชื่นชมว่างานแต่งงานของเราเหมือนนิยายโรแมนติกเรื่องหนึ่งเลย
ตัวเรามานั่งดูรูปเองก็รู้สึกว่าเหมือนละคร เหมือนนิยายเรื่องหนึ่งจริง ๆ ต้องยกเครดิตให้ “คิม” ที่ไปสรรหาสถานที่ จัดงาน เตรียมงานทุกอย่าง
เผยน้ำตาไหลนาทีที่เจ้าสาวปรากฎตัวตามที่ “คิม” ตั้งใจไว้ “เอาจริง ๆ ไหลก่อนด้วยซ้ำ วันก่อนหน้านั้นก็ไกล ด้วยความที่วันนั้นมีแต่คนที่เรารู้จัก มองไปทางไหนก็มีแต่คนที่พร้อมจะทำเพื่อเราจริง ๆ คนที่พร้อมจะซัพพอร์ตเราตลอด เขามาอยู่ข้าง ๆ เห็นหน้าแล้วก็รู้สึกขอบคุณ วินาทีที่เห็นเจ้าสาวคือตะลึง ไม่น่าเกิดขึ้นได้เลย หนึ่งคือเวล เหมือนมีคนมาถือค้างไว้ โอโห้ เห็นแล้ว นี่มันเกินไปมาก ถามว่าสำหรับเราละครกับชีวิตจริงมันต่างกันขนาดไหน เอาจริง ๆ ตอนนั้นพยายามเปรียบเทียบเหมือนกันนะ เราก็เล่นซีนแต่งงานมาเยอะ พอมาถึงเวลาจริง เรารู้สึกว่าเราอยากอยู่กับตรงนั้นให้นานที่สุด ให้ชัดที่สุด ผมพยายามมองทั้งน้องและบรรยากาศ มองทุกคนที่อยู่ด้วยกัน มันก็เต็ม จำไม่ได้เลยว่าร้องไห้ไปกี่รอบ ตอนที่ประทับใจที่สุดคือตอนที่เราเห็นว่าท้องฟ้าเปิดให้เรา ประทับใจที่สุดแล้ว ส่วนคำพูดในพิธีก็ซึ้ง น้องเขียนมาได้ซึ้งดี รอไว้ดูงานวันที่ 12 พ.ย.66 ซึ่งเป็นวันที่เราจะจัดงานฉลองสมรสที่ประเทศไทย จะมีคลิปวิดิโอออกมา ส่วนของเราที่เขียนลงโซเชียล ไม่มีคำว่ารัก แต่มันเต็มไปด้วยความรัก มันก็น่าจะมาจากความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นจริงกับตัวเราจริง ๆ แล้วที่เห็นว่าจูบเจ้าสาวเก่ง เอ๊ะอ๊ะจูบ จูบรัว ๆ ผมจูบแก้เขินครับ ก็ไปตามความรู้สึกครับ ได้ดูรูป ได้ดูคลิป ก็เออ เยอะจริง ๆ วันนั้นมันเป็นความรู้สึกดี ๆ ตัวน้องเอง ทุกอย่างมันน่ารักไปหมด มันดีไปหมด ไม่ติดที่คนยกให้เป็นพระเอกหมื่นจูบ เป็นแสน เป็นล้านจูบก็ได้ครับ”
นอกจากนี้ “หมาก” ยังเล่าถึงโมเมนต์ที่หลายคนประทับใจ คือโมเมนต์ที่กอดกันสามคน หมาก คิม และแม่ ว่า “ช็อตนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่งานเลิกแล้ว แม่ก็ไม่เคยพูดอะไรจากใจแบบนี้มาก่อน ท่านค่อนข้างเป็นคนเก็บ วันนั้นแกก็พูด ฝากลูกชาย ดูแลดี ๆ นะ ถามว่าชินกับความเป็นสามี ภรรยา หรือยัง เหมือนเดิมครับ เราใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยกันมานานมากแล้ว จนถึงวันนี้มันก็พร้อมทุกอย่าง แค่แสดงความมั่นคง แสดงจุดยืนว่าจะมั่นคงกับคน ๆ นี้ตลอดไปเท่านั้นเอง ทุกอย่างเหมือนเดิม ถ้าเปลี่ยนก็เรื่องคำเรียกสามีภรรยา ก็พยายามเรียกภรรยาอยู่ เปลี่ยนเป็นเรียกเมีย เรียกไปแล้วก็เขิน ๆ เขาก็ยังไม่ค่อยเรียกเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ “คิม” โพสต์อะไรก็จะมี my husband เขาก็คงอยากใช้คำใหม่ ถามว่าความรู้สึกว่าเป็นผู้นำครอบครัวมีมากขึ้น ผมรู้สึกว่าตัวเองมั่นคงขึ้น และก็ต้องมั่นคงขึ้น เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่เรายอม และเสียสละเพื่อมัน ตอนนี้หน้าที่ล้างจาน ถูบ้าน ทำความสะอาดสระน้ำยังอยู่ครับ มีหน้าที่เพิ่มด้วยคือเก็บฉี่หมา มาหมดครับตอนนี้ ยอมทำทุกอย่างครับ ส่วนงานฉลองที่ไทยในวันที่้ 12 พ.ย.66 นี้ ตอนนี้การ์ดยังไม่เสร็จเลย แต่ “น้องคิม” ก็ไม่ทำแล้วจริง ๆ ผมเป็นคนที่ต้องเลือกทุกอย่าง ไปคุยกับทีมออแกไนซ์ เพราะว่าน้องจะไม่ปวดหัวอีกแล้ว มันมากเกินไปแล้ว” ส่วนสตอรี่ทุเรียนตามเมียกลับบ้าน “หมาก” เล่าว่าวันนั้นตนเองและภรรยา แยกกันไปทำหน้าที่ ไปทำธุระของตัวเอง “หมาก” ขับผ่านร้านทุเรียนพอ เลยโทรถามว่ากินไหม “คิม” บอกว่ากิน ก็เลยลงไปซื้อเข้าบ้าน ซึ่งก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน