“เอกชัย” ลั่นคำหยาบมีในสังคมมานาน ขอผลักดันวัฒนธรรมใต้จนลมหายใจสุดท้าย แย้มเหตุผลเลิกเล่น “หอแต๋วแตก”

ยังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่เอง กับเนื้อหาท่อนหนึ่งของเพลง “คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ” ซึ่งล่าสุดวันนี้(19 ก.ย. 2566) “เอกชัย ศรีวิชัย” หนึ่งในนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ออกความเห็นเรื่องดังกล่าวผ่านไมค์ไนน์เอ็นเตอร์เทน ว่า สังคมกระแดะ! เพลงหน้าเวทีคือวัฒนธรรมที่มีมานาน ไม่ใช่แค่หมอลำทางอีสานที่ทะลึ่งหรือหยาบคาย แต่หนังตะลุงทางใต้โชว์ก็มีแบบนี้เพื่อความสนุกสนานให้คนหัวเราะ และสถานที่ที่แสดงก็ไม่ได้ไปโชว์ในโบสถ์หรือวัด สังคมไม่ยอมพูดความจริงเหมือนการสูบบุหรี่หรือเหล้าที่ออกอากาศทางทีวีแต่ใช้การเบลอ แต่ยังไงก็รู้ว่านักแสดงทำอะไร เผยการแสดงหน้าเวทีเพื่อความบันเทิงเฉพาะที่ไม่ได้บันทึกลงแผ่นเสียงแล้วไปเผยแพร่ตามสถานีวิทยุ


มองเรื่องที่เกิดดราม่าเพลงวลี “คนจนมีสิทธิ์ไหม” เกิดขึ้นมาหลายสิบปี ตนก็ไม่ได้เห็นว่าเด็กที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ในยุคนี้คนไหนจะเกิดเรื่องร้ายเพราะเพลงที่ร้อง ลั่นมีปัญญามีลูกก็มีปัญญาสอนด้วย มั่นใจคำหยาบคายมันอยู่ในสังคมมานานแต่ไหนแต่ไรแล้วและคนฟังและเด็กก็มีวิจารณญาณว่าอันไหนเหมาะสมหรือไม่ ถามกลับในยุคนี้ที่พ่อแม่ให้ลูกมีมือถือในมือ แค่ค้นหาคำหยาบคายหรือเรื่องเพศขึ้นอะไรมาบ้าง มันเข้าถึงได้หมดอยู่ที่การสอน บอกถ้าเพลงมันหยาบเกินไปสำหรับลูกคุณ ก็ขอโทษด้วย ส่วนคนที่เข้ามาด่าตนเพราะก็ทำเพลงสองแง่สองง่ามเหมือนกันนั้นไม่สน ด่ามาก็ด่ากลับ

จะผลักดันวัฒนธรรมใต้จนลมหายใจสุดท้าย ลั่นไม่คิดเกษียณหรือวางมือ แต่จะส่งต่อปั้นและให้พื้นที่คนรุ่นใหม่เข้ามารับช่วงต่อ บอกที่ทำเพราะรักและละอายใจถ้าตายไปแล้วบรรพบุรุษชี้หน้าว่าไม่เคยทำอะไรเพื่อคนใต้ เชื่อคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ถามผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ละอายใจเหรอที่พูดคำว่า Soft Power แต่ไม่สนับสนุน บอกตนทำหนังเป็นผู้กำกับมา 9 เรื่อง ได้รางวัลก็มีแต่ไม่มีใครเลี่ยวแล ทุกวันนี้ไม่คอยผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาช่วยแต่เดินหน้าทำเอง ด้วยตัวเองดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ยกตัวอย่าง “จา พนม” ไปโกอินเตอร์เผยแพร่ความเป็นไทยจนทั่วโลกรู้จักมวยไทยก็ด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาสนับสนุน


เล็งทำเทศกาลหนังเมืองคอน ที่นครศรีธรรมราช บอกผู้กำกับไทยเก่ง ๆ เป็นคนใต้เยอะมาก หลังลองจัดปีแรกมาแล้ว ก็จะขยายในปีหน้าทำให้เป็นงานสเกลใหญ่ขึ้นระดับจังหวัด เตรียมคุยผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยราชการเพื่อจัดเป็นเทศกาลหนังจริงจัง
ส่วนที่ตนปฏิเสธไม่เล่น “หอแต๋วแตก” ของ “พชร์ อานนท์” แล้ว เพราะอายุตนไม่ได้น้อย ๆ แล้ว และมีงานทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลังของตัวเอง รวมทั้งงานโชว์คอนเสิร์ตจนไม่เหลือเวลาไปแสดงแล้ว อยากโฟกัสการผลิตหนังของตัวเอง เชิดชูวัฒนธรรมใต้ด้วยงบจำกัดตามแรงบันดาลใจที่มี.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 29,441 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม