เข้าวงการมูเตลูเต็มตัวอีกราย สำหรับนางเอกสาวเรื่องราวดีดี “แพนเค้ก เขมนิจ” ที่ล่าสุดยกครอบครัวบินลัดฟ้าร่วมงานบุญยกช่อฟ้าวัดพุทธาราม ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย. 66) ได้เจอ “แพนเค้ก” เจ้าตัวเล่าว่าทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวแต่อย่างใด แต่ตั้งใจไปทำบุญโดยเฉพาะ จึงยกไปกันทั้งครอบครัว มีแวะเที่ยวนิดหน่อยระหว่างทาง ต้องรีบไปตอนที่พ่อกับแม่ยังมีแรงเดินเที่ยวไหว ถึงทริปนี้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่การได้ไปพร้อมกับครอบครัว ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ มันคือความสุข จบทริปปุ๊บก็รีบกลับมาทำงานเก็บเงิน เพื่อไปเที่ยวกันใหม่ ส่วนเรื่องบุญมีโอกาสได้ทำอย่างต่อเนื่อง การไปครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจขอพรเรื่องเบบี๋โดยเฉพาะ ขอเพียงแค่ให้สุขภาพดีและประสบความสำเร็จเท่านั้น หลายคนมองว่าเดินนสายทำบุญต่อเนื่องเป็นเพราะกำลังเวียนเข้าสู่เบญเพสในวัย 35 ปีอีกครั้ง “แพนเค้ก” ยืนยันว่าไม่เกี่ยว แต่ส่วนตัวเชื่อว่าบุญต้องเติมอยู่เสมอ จึงต้องตระเวนร่วมบุญอยู่ตลอดเวลา หากไม่สะดวกไปเอง ก็จะให้คนในครอบครัวไปแทน ก่อนจะแซวตัวเองแบบขำ ๆ ว่าตอนนี้แพลนบุญข้ามปีแล้ว แต่แพลนงานยังไม่ถึงขนาดนั้นเลย
นอกจากนี้ “แพนเค้ก” ยังเล่าถึงอีก 1 เรื่องราวดี ๆ กับการเป็นนักแสดงคนไทยคนเเรกที่ได้รับรางวัลทูตอัตลักษณ์ไหมไทย ประจำราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เจ้าตัวสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาอาชีพด้านหม่อนไหมมาโดยตลอด โดยมีคุณสามีดีเด่น “รองผู้กำกับหมี ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” เข้ารับรางวัลเเทน นางเอกแก้มป่องบอกต่อว่ารู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับเกียรตินี้ การแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นสิ่งที่ทำมาโดยตลอด เริ่มจากคุณแม่ให้โอกาสและมีพื้นที่ในการใส่ผ้าไทย รวมถึงการใช้ชีวิตและการทำงาน ได้มีโอกาสเดินแฟชันโชว์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ขอบคุณที่เล็งเห็นและให้โอกาสเป็นตัวแทนเผยแพร่ผ้าไทย และต่อจากนี้จะประชาสัมพันธ์ โครงการต่าง ๆ เพื่อเปิดการมองเห็นให้กว้างขึ้น ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันถ้าหลายคนเปิดใจให้กับผ้าไทย และได้ใส่ผ้าไทยดีไซน์ที่เข้ากับตัวเอง จะทำให้สวมผ้าไทยได้อย่างสวยงาม เมาท์สามีเข้ารับรางวัลแทนและได้เห็นผ้าไทยต่าง ๆ จนรู้สึกอินไปกับผ้าไทยและอยากตัดผ้าไทยใส่เอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่หมีเป็นคนที่เปลี่ยนอะไรยากมาก “แพนเค้ก” เคยชวนใส่ผ้าไทยแล้ว แต่สามีออกตัวว่าไม่ถนัด แต่มาวันนี้เป็นโอกาสดีที่สามีเปลี่ยนความคิด ถึงขั้นไปดูหนอนไหมมาแล้วด้วย ดีใจที่ทำให้เห็นว่าคนใกล้ตัวได้เปลี่ยนแนวคิดไปแล้วมากกว่า 50% และสิ่งที่ทำอยู่สามารถส่งแรงไปสู่หลาย ๆ คนต่อไปได้จริง ๆ.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
