ออกมายืนยันว่าเป็นซิงเกิลมัมด้วยตนเองเป็นครั้งแรก สำหรับคุณแม่สายแซ่บ “อุ้ม ลักขณา” หลังจากที่ตกเป็นข่าวเลิกรากับสามี “บอล กฤษณะ” ก่อนจะออกมายอมรับผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าสวมคอนเวิร์สกันเป็นที่เรียบร้อย โดยแม่ม่ายป้ายแดงได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ “แฉ” ว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาไม่เคยระแวงหรือคิดว่าจะมีวันนี้ เพราะที่ผ่านมาเขาคือความสุข คือพ่อและสามีที่ดี แต่มันก็มาเกิดเรื่องที่ทำให้ไปต่อไม่ได้
ก่อนจะถูกพิธีกรฝีปากกล้า “มดดำ คชาภา” ถาม ว่าจริงไหม? เพราะไปดูหมอดูมา อุ้มก็เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกก็ไม่เชื่อ คิดว่าเค้าพูดไปเรื่อยเพราะตอนนั้นชีวิตครอบครัวดีอยู่ แต่เกิดเรื่องหลังจากนั้นไม่เกินอาทิตย์ ทำให้ตอนนี้สนิทกับหมอดูคนนั้นมาก ซึ่งตนได้ย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว
ที่ผ่านมาหลังจากละครเรื่อง “นาคี” ดัง ก็มีงานเข้ามามากมาย แต่เราเลือกปฏิเสธเพราะช่วงนั้นมีเรื่องคดีของพี่บอล เราก็เลือกที่จะไม่ปล่อยมือเขา จับมือพิสูจน์ว่าเรารักกันร่วมทุกข์ร่วมสุข ทั้งที่ตอนนั้นคนรอบข้างหรือครอบครัวทุกคนบอกให้เลิกหมด แต่พอมาเจอแบบนี้พ่อแม่เค้าทุกข์มาก ไม่เคยอยากให้ครอบครัวเราแตกแยก ไม่ว่าจะเป็นของอุ้มหรือนิวเคลียร์ เค้ารักหลานมากไม่อยากให้ “น้องดิสนีย์” มีปมในใจ
และจากที่ทาง “ไนน์เอ็นเตอร์เทน” ได้นำเสนอไปว่า อุ้มได้เห็นข้อความในมือถือบอลจนทำให้มีปาดเสียงและได้มีการพยายามง้อขอคืนดีนั้น อุ้มบอกว่าเป็นการคุยกันมากกว่า กว่าจะเลิกก็มีการเคลียร์กัน นอกจากนี้ซิงเกิลมัมป้ายแดงยังได้เคลียร์ประเด็นข่าวลือต่างๆ ที่ถูกคาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เลิกรากับอดีตสามี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ผู้จัดการเป็นมือที่ 3 , เรื่องไม่ยอมให้สามีทำการบ้าน หรือเรื่องเงินทองจากที่แม่ของสาวอุ้มได้โพสต์ในไอจี โดยเจ้าตัวได้เคลียร์คัทว่า ผู้จัดการส่วนตัวของตนนั้นเป็นสาวไม่ใช่ผู้หญิง เรื่องไม่ให้ทำการบ้าน 3 ปี ก็ไม่จริง เพราะปีแรกตั้งท้องปีที่ 2 ต้องเลี้ยงลูกหนักมากไม่มีพี่เลี้ยง หลังจากนั้นก็มีปกติ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เธอไปเอาหน้าอกออก เพราะเค้าบอกแล้วแต่เรา ส่วนเรื่องโพสต์ของแม่ อาจเป็นจังหวะบังเอิญ ไม่น่าเกี่ยวเพราะอุ้มกับเค้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินกัน
ก่อนที่ดาราสาวจะยอมรับว่าตอนนี้เซ็นใบหย่ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอดีตสามีรับผิดชอบเรื่องลูก ตัวเองจากนี้จะกลับมารับงานในวงการ ส่วน “น้องดิสนีย์” ก็เริ่มเข้าใจ แต่เค้าไม่จำเป็นต้องรับรู้ถีงปัญหาของพ่อแม่ อุ้มไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดีหรือไม่ภูมิใจในตัวพ่อแม่ ฉะนั้นเลยเลือกไม่พูดถึงปัญหาอีกแล้ว ถ้าย้อนกลับไปได้ก็คงเลือกผู้ชายคนนี้ เพราะเค้าให้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตอุ้ม นั่้นคือ “ลูก”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
