เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้(10 ส.ค.2566) 2 ดีเจดัง “ดีเจแจ็คไรเดอร์ ชนัตพล” และ “ดีเจคิว ธิติพันธ์” พร้อม “ทนายนฤภรณ์ ชายเพ็ชร” เดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน เอาผิดคลื่นวิทยุดัง หลังถูกเบี้ยวค่าจ้างจัดรายการวิทยุนาน 9 เดือนรวมหลักล้านกว่าบาท หลังทั้งคู่ส่งจดหมายทวงถามหนี้ไปเกิน 7 วัน แต่กลับถูกคลื่นวิทยุดังเพิกเฉย จึงขอใช้กฎหมายช่วยทวงสิทธิ
โดย 2 ดีเจดังเปิดใจด้วยความอัดอั้นว่า วันนี้ขอเป็นกระบอกเสียงแทนดีเจทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมถึงพนักงานที่เจอปัญหาถูกเบี้ยวค่าจ้างเหมือนกัน เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ตอนนั้นพวกตนถูกขอลดค่าจ้าง 20% ในรายการวิทยุ Breakfast Show ที่ทำคู่กันมายาวนาน 10 ปี ซึ่งทั้งคู่ก็ยินยอมพร้อมช่วย เพราะเห็นว่าช่วงนั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้บริษัทย่ำแย่ หลังจากนั้นก็ไม่เคยขอขึ้นค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกตนรักคลื่นและสู้กับคลื่นมาโดยตลอด แต่พอพักหลังเจอปัญหาค้างจ่ายค่าจ้าง พยายามทวงถาม แต่กลับได้คำตอบว่าให้ไปฟ้องเอาก่อนจะถูกบอกเลิกจ้าง สั่งห้ามเข้าบริษัทหลัง มิ.ย.ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ออกมาวันนี้และรีบดำเนินคดี เพราะคู่กรณีเคยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย ทั้งเรื่องอายุความและไกลเกลี่ยลดหย่อนการชำระหนี้ในชั้นศาล ทำให้รู้สึกรับไม่ได้ เพราะไม่ใช่แค่ตน 2 คนที่โดน แต่อดีตดีเจและพนักงานก็โดนแบบนี้ วิงวอนสังคมและคนทำงานทุกคนช่วยเป็นกระบอกเสียง ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ เพราะมันคือการเอาเปรียบของนายจ้างด้วยการใช้ช่องโหว่กฏหมายรังแกคนทำงาน รับเสียใจที่วันนี้ไม่ได้จัดรายการวิทยุที่รัก แต่เชื่อว่าอนาคตถ้ามีผู้ใหญ่ใจดีเล็งเห็นพวกตนก็พร้อมทำงานกับที่ใหม่เสมอ
สำหรับคดีนั้นวันนี้จะลงบันทึกประจำวันเพื่อนำไปประกอบสำนวนในการส่งฟ้องศาล ลั่นจะไม่ไกล่เกลี่ยขอลดใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะพวกตนรับผิดชอบงานมาตลอด แต่ยินยอมให้ผ่อนชำระด้วยการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ที่ผ่านมาพวกตนได้รับแต่สัจจะวาจาแล้วสุดท้ายก็โดนกระทำ หากผู้เสียหายหรือลูกจ้างในบริษัทคนไหนอยากให้เป็นตัวกลางทนายความของตนก็พร้อมรวบรวมผู้เสียหายเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คู่กรณีจะได้ไม่ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน