จากกรณีนางร้ายสุดแซ่บ “หนิง ปณิตา” โพสต์ภาพมือที่ 3 ลงโซเชียล หลังมีเพจแห่งหนึ่งนำรูปหลานสาวที่ถ่ายคู่กับ “จิน จรินทร์” ไปลงในข่าวจนเกิดความเข้าใจผิด ล่าสุด “หนิง” เปิดใจแบบ EXCLUSIVE กับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า “ที่หนิงต้องโพสต์ชี้แจง เพราะมีเพจข่าวหนึ่งเอารูปหลานสาวของหนิงที่ถ่ายรูปคู่กับคุณจินไปลง แล้วทำให้คนเข้าใจผิดว่าหลานสาวหนิงเป็นผู้หญิงคนที่ตกเป็นข่าวกับคุณจิน หนิงเห็นก็ไม่สบายใจเลยรีบชี้แจง ก่อนหนิงจะโพสต์ภาพ ได้สอบถามทนายความส่วนตัวแล้ว ถามว่ากลัวไหมว่าเขาจะฟ้องกลับ เพราะก็มีข่าวเขารวบรวมหลักฐานดำเนินคดีคนที่โพสต์รูปเขาหรือคอมเมนต์เขาในเชิงเสียหายแล้ว จริง ๆ ในโซเชียลก็มีคนโพสต์รูปเยอะนะคะ เชื่อว่าทุกคนก็เห็น หนิงก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงแล้วออกมาซัพพอร์ตหนิง แต่เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องของหนิงกับคุณ ถ้าจะทำอะไรมาลงที่หนิง ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง อย่าดึงคนอื่นที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้ามา เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย ขอพูดตรงนี้นะ ถ้าใครถูกฟ้อง หนิงจะเป็นคนช่วยทุกคนเอง ไม่ว่าหนิงจะรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตาม เพราะเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ดังนั้นเขาไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบอะไรตรงนี้”
“หนิง” เผยต่อว่า “ตอนนี้สภาพจิตใจโอเคมาก ๆ เพราะยังไงก็ต้องเดินต่อไป ขอบคุณกำลังใจจากทุกคน เมื่อก่อนเราทำผิดพลาดเยอะ โดนด่าก็เยอะ แต่ตอนนี้เห็นทุกคอนเมนต์ เห็นทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาให้ รู้สึกขอบคุณทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก ขอบคุณจากใจ ไม่เคยคิดว่าจะได้รับความรักจากทุกคนจริง ๆ ส่วน “น้องณิริน” ลูกสาว เป็นเด็กเข้มแข็งมากยิ่งเขาเข้มแข็ง เราในฐานะแม่ก็ต้องสตรองและทำตัวให้ดี เป็นแบบอย่างให้กับลูก ทุกวันนี้ไม่ว่าลูกจะทำกิจกรรมอะไร หนิงจะไปทำด้วย ไม่ว่าจะเรียนภาษา ร้องเพลง เต้น ตอนนี้ทำงานเสร็จก็ใช้ชีวิตอยู่กับเขาตลอด ช่วงนี้เขาปิดเทอม เขาก็จะไปกับเรา ขับรถหลงบ้างถูกบ้างก็ตามประสาสองแม่ลูก ส่วนที่ “หนิง” พูดในคุยแซ่บโชว์” ว่า ใจกว้างให้คุณจินช่วยเหลือ “คู่กรณี แล้วหนิงจะยอมจบเรื่องให้ เพราะมีการคุยกับคุณจิน บอกคุณจินไปว่าช่วยเขาก็ได้นะเรื่องคดี เพราะหนิงอยากจบแล้ว ทุกวันนี้เหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุก ๆ วัน หนิงอยากจบ อยากใช้ชีวิตของตัวเอง มีความสุขกับลูก จะทำหน้าเป็นทั้งพ่อและแม่ เพื่อดูแลณิรินให้ดี เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นคนดีของสังคม หนิงจะให้ลูกได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยได้และเคยมี ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การศึกษา ความเป็นอยู่จนเขาจบปริญญา เมื่อเขาโตถึงให้เขาเลือกทางเดินของเขาเอง แต่ ณ วันนี้เราจะดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะเขาคือลูกของเราค่ะ”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
