จากกรณที่ “ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์” วัย 25 ปี อดีตแฟนเด็กของนักแสดงรุ่นใหญ่ “เอ้ ชุติมา นัยนา” วัย 55 ปี ออกมาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอดว่า ตั้งแต่เลิกรากับอดีตแฟนสาวดารารุ่นใหญ่ ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2565 อีกฝ่ายไม่ยอมส่งค่างวดรถยนต์ BMW และค่างวดบ้าน มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ทำให้ตอนนี้ตนเองถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้องตามรถ ส่วนบ้านก็ถูกยึดไปแล้วจนทำให้ชื่อตนเองถูกแบล็คลิสต์
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ “เอ้” และ “ฟร้อง” เผชิญหน้ากันครั้งแรกหลังเลิกรา พร้อมเปิดใจถึงปมร้อนดังกล่าว โดย “เอ้” เผยว่า เราคบกันมา 6 ปีกว่า ตอนแรกเช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน ระยะหลังฟร้องเขามาปรึกษาเอ้ว่าอยู่บ้านกันไหม เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด ต้องใช้ลิฟต์รวมกับคนอื่น ๆ ตอนนั้นฟร้องบอกกับเอ้ว่าจะอยู่กับเอ้ยาว ๆ ไม่ได้จะนอกใจ เลยพาเอ้ไปดูบ้าน ดารา 4.2 ล้านบาท ซื้อเป็นชื่อฟร้อง แต่เอ้เป็นคนจ่ายและผ่อนแบงค์ให้เดือน 20,000 กว่าบาท ให้เป็นชื่อเขา ไม่ใช่เพราะชื่อเราผ่อนไม่ได้ แต่เพราะเขาอายุยังน้อย มันผ่อนน้อยกว่า และอยากให้ฟร้องมีสมบัติติดตัว มีชีวิตที่ดี นอกจากนี้เอ้ยังส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ฟร้องด้วย บ้านหลังนี้ซื้อมาประมาณ 2 ปี การจ่ายค่าบ้าน หักผ่านบัญชีของฟร้อง โดยเอ้เป็นคนโอนเงินเข้าบัญชีให้ ก่อนหน้านี้ฟร้องเรียกเอ้ว่าที่รัก แต่พอเลิกกันก็ไม่ใช้คำนี้แล้ว เพราะมันจบแล้ว เลิกกันแล้ว ตอนเลิกกัน เอ้ย้ายออกจากบ้าน 3 เดือนไปอยู่ที่อื่น เพราะทนพฤติกรรมฟร้องไม่ไหว แต่ระหว่างนั้นก็ยังจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ก่อนจะย้ายกลับเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นกับลูกสาวบุญธรรม 2 คน โดยที่ฟร้องไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้น แต่วันดีฟร้องก็งัดบ้านเข้ามาดูว่าเราขนทรัพย์สินอะไรออกไปหรือเปล่า ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ขณะที่แม่ของฟร้องบอกให้เอ้ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ เอ้ขอเวลา 60 วัน เพื่อหาที่อยู่ใหม่และขนย้ายข้าวของ เพราะช่วงนี้เล่นกลับมาแสดงละครและมีงานที่ต้องทำ แต่แม่ฟร้องให้เวลาแค่ 30 วัน และบอกว่าห้ามขนอะไรออกไปนอกจากเสื้อผ้าของเอ้เท่านั้น ส่วนรถ BMW ฟร้องมาถามเอ้ว่าเอาไหม เวลาไปทำงานที่ไหนจะได้สะดวก ก่อนจะพาไปดูรถ ซึ่งรถราคาล้านกว่าบาท เอ้ออกเงินดาวน์ไปหลายแสน และผ่อนให้อีกเดือนละประมาณ 20,000 กว่าบาท แต่เอ้ไม่ได้เป็นคนอยากได้ เพราะขับรถไม่เป็น ตอนเลิกกันรถก็จอดไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้ ที่เอารถไปด้วย เพราะฟร้องเอารถไปรีไฟแนนซ์เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จนเอ้รู้สึกว่าจ่ายยังไงก็จ่ายไม่หมดสักที เอ้ไม่ได้เอารถไปจำนำหรือถอดชิ้นส่วนชำแหละอย่างที่อดีตแฟนอ้างถึง แต่พยายามติดต่อหาคนมาซื้อต่อเพื่อปิดหนี้ก้อนนี้ แต่ตอนนี้ได้นำรถไปจอดคืนไว้ที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี ส่งมอบคืนให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวาน(2 ก.ค.66)แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อกลั่นแกล้งให้อีกฝ่ายเสียหาย ส่วนเหตุที่ไม่จ่ายค่างวดรถต่อ เพราะเป็นชื่อฟร้อง และฟร้องเอารถไฟรีไฟแนนซ์เอาเงินมาไว้ที่ฟร้องคนเดียว และเอาเงินดังกล่าวไปปั่นคาบาร่า ตอนนี้คืนให้ทั้งบ้านและรถเพื่อให้เขาสบายใจ และเอารถส่งคืนให้ช้า เพราะตั้งแต่เลิกกันกก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ส่วนสัญญาที่ระบุว่า “เอ้” จะผ่อนค่างวดรถให้จบ แล้วฟร้องจะโอนรถคืนให้เอ้ เอ้มองว่าฟร้องผิดสัญญาก่อน เพราะเอ้ต้องการหาคนมาซื้อรถเพื่อปลดภาระหนี้ก้อนนี้หมดไป แต่ฟร้องอยากเอารถไปคืนไฟแนนซ์ แล้วที่บอกว่าตำรวจติดต่อมาแล้วติดต่อไม่ได้ เป็นเพราะเอ้ย้ายที่อยู่ พอคุณตำรวจส่งไปที่อยู่เดิมไม่ได้อยู่แล้วค่ะ โดนเขาไล่ที่ออกมาค่ะ คนขอความเป็นธรรมน่าจะเป็นเอ้มากกว่า ตอนคบกันแรก ๆ เราบอกว่าเราจะเอาลูกเขามาดูแล จะส่งเรียน เราเต็มใจจะให้ตรงนี้ เพราะอยากให้มีอนาคตที่ดี ตอนนั้นเขาต้อนรับเราดีมาก ไม่ได้พูดรังเกียจคนแก่กว่า คนเป็นป้าแบบวันนี้ คุณยินยอมให้ฉันอยู่กับลูกคุณ ส่วนเหตุผลที่เราหนีเขาไป เพราะเขาเที่ยวกลางคืน เที่ยวยันสว่าง มีพยานยืนยัน และเขาก็มีผู้หญิงคนอื่น มีแฟนใหม่แล้ว หลังเลิกกันเขาไปทำงานที่โฮส เป็นบาร์ดูแลผู้ชาย บางคนเข้าไปทำงานเสร็จก็กลับบ้าน แต่บางคนเข้าไปเพื่อหาผู้หญิงดูแล ใจเราอยากให้ทุกอย่างจบ อยากให้น้องไปมีชีวิตที่ดี เราก็มีชีวิตของเรา ฟร้องพูดว่าเอ้อยู่ในวงการมานาน ต้องมีสื่อปกป้อง ไม่ใช่นะคะ สื่อเขามีจรรยยาบรรณ เขาเอาความถูกต้อง มันไม่มีอิทธิพลในวงการบันเทิง ไม่ได้ต้องการแกล้งหรือรังแกฟร้อง ตอนคบกันก็ให้ไปเยอะแล้ว พอเลิกกันทำไมฉันต้องมานั่งจ่าย เราจ่ายไปเยอะแล้ว ไม่จ่ายอะไรอีกแล้วค่ะ อยากให้น้องมีชีวิตที่ดี ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก เอ้มั่นใจว่าเอ้ยังมีความทรงจำดี ๆ กับน้องอยู่ คนเราถ้าไม่มีความทรงจำที่ดีคงไม่อยู่กันนานขนาดนี้
ด้าน “ฟร้อง” เล่าต่อว่า เอารถไปรีไฟแนนซ์เพราะต้องการหมุนเงินช่วยเอ้ เพราะช่วงนั้นเอ้ไม่มีงาน ไม่ได้เอาเงินไปเล่นการพนันอะไรเลย ที่เอาไปปั่นบาคาร่าก็คือโดนหลอก แล้วเงินที่ได้จากการรีไฟแนนซ์ก็เอาไปจ่ายค่าแชร์ ค่าหาย ค่าบ้านแม่อีกหลังให้เอ้ ส่วนที่เอ้เอารถมาคืน ทำให้ตนต้องจ่ายค่าส่วนต่างที่เหลือก่อน ถามว่าเอาตามข้อตกลงนี้ไหม ขอไปปรึกษาครอบครัวและทนายก่อน เพราะเอ้ทำให้ผมโดนแบล็คลิสต์ โดนฟ้องล้มละลาย เหมือนแกล้งให้เราเสียหาย ถ้าไม่ไปร้องเพจก็คงไม่ออกมา ยืนยันว่าไม่ได้เที่ยวกลางคืนยันสว่างอย่างที่เขากล่าวหา ไม่ได้ติดกระห- ส่วนเรื่องที่ไปทำงานที่โฮส ผมแค่ไปสมัครดูเฉย ๆ เพราะไม่เคยไปทำงานที่โฮสเลย อยากหางานทำ เพราะมีภาระหนี้สิน จากนี้เรื่องรถจะเอายังไง ขอปรึกษาทนายก่อน ขอบคุณเอ้ที่ซัพพอร์ตมาตลอด 6 ปี ขอเก็บความทรงจำดี ๆ ที่เคยมีให้กันไว้
แม่วรรณ แม่ของฟร้อง ต่อว่า “เอ้” กลางรายกายว่าอย่าต่อแ-ล พร้อมปรบมือชมว่าเอ้เป็นนักแสดง เล่นละครเก่ง จน “เอ้” ต้องตอบกลับมาว่า “บางอย่างชีวิตจริงไม่ใช่ละคร ไม่จำเป็นต้องแสดงตลอดเวลา” ก่อนที่แม่ของฟร้องจะยอมรับว่าไล่อีกฝ่ายออกจากบ้าน เนื่องจากเบี้ยวส่งค่างวด เพราะอยากให้ทุกอย่างจบ ให้แบงค์มายึดไปเลย ส่วนรถก็ให้ไฟแนนซ์ยึดไปเลย พร้อมยืนยันไม่เคยขายลูกิน คุณมากล่าวหาว่าลูกเราขายตัว เหตุผลที่เขาเลิกกันตอนนี้ เพราะเอ้หมดตัวแล้ว เอ้ไม่มีงาน แล้วคุณมาว่าลูกเราเที่ยวยันสว่าง ลูกเราติดกระห- เสียความรู้สึกไปแล้ว ไม่อโหสิกรรมให้ ไม่อยากเจอ หน้าก็ไม่อยากเห็น ไม่อยากได้ยินชื่อ ต่างคนต่างอยู่ อย่ามายุ่งเกี่ยวกันดีกว่า.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
