ชีวิตคนมีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นธรรมดา คำนี้ยังใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะงานในวงการบันเทิง ที่มีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับนักแสดง “แวร์ โซว” ที่ล่าสุดเธอออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเชิงตัดพ้อ เรื่องไม่มีงาน ไม่มีเงิน จะอดตาย เงินลงทุน เงินเก็บ ก็ไม่มีเหลือแล้ว ถึงขั้นคิดว่าตอนเช้า “แวร์” จะไปเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ตอนเย็นเป็นเด็กปั๊ม ส่วนลูกสาว “น้องคนดี” จะไปเป็นพนักงานร้านกาแฟหน้าปากซอยบ้าน และอีกหลาย ๆ ข้อความ ท่ามกลางแฟนคลับแห่ส่งกำลังใจให้ล้นหลาม
ขณะที่เมื่อคืนนี้(29 มิ.ย.2566) “ตกมันส์สนั่นทุ่ง” ต่อสายพูดคุยสด ๆ กับ “แวร์ โซว” และ “น้องคนดี-ภริตพร” ลูกสาว ทางคลื่น วิทยุ อสมท MCOT Radio Network 41 สถานีทั่วประเทศ เพื่ออัปเดตชีวิตล่าสุดของเธอ
โดย “แวร์ โซว” เปิดใจว่า “ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจร้านปลาหมึกย่าง แต่ตอนนี้ปิดกิจการแล้ว เพราะปัญหาเรื่องต้นทุน ปลาหมึกต้องสด สะอาด ถึงจะอร่อย ถ้ายังทำต่อจากเคยได้เงินเท่าทุน พอค่าข้าว ค่าน้ำมัน อาจจะเข้าเนื้อแทน ส่วนกิจการ “บ๊วยรวมรส” ก็ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยอมรับตอนนี้ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเลย แม้จะยังพอเหลือเงินเก็บก้อนสุดท้ายอยู่ แต่ก็เครียด เพราะไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ซึ่งตนกับลูกสาวต้องใช้เงินดำรงชีพ ขับเคลื่อนชีวิต ตอนนี้พยายามขอโอกาสงานแสดง ที่เปรียบเสมือนอาชีพหลักในวงการบันเทิง 30 ปี และการแสดง คือ อาชีพที่เธอรัก
“แวร์” เล่าว่า ทุกวันนี้ต้องประหยัด จะทำอะไร ต้องคิดให้ดีรอบคอบ พยายามมองหางานทำเสริม แต่ต้องใจเย็น ๆ เพราะเดียวลงทุนไปแล้วผิดพลาด ก็จมอีก ที่มีคนบอกว่า คนเราไม่ควรมีอาชีพเดียว เธอเข้าใจคำนี้ ซึ่งย้อนกลับไป 10 ปี ตนทำมาแล้วหลายอาชีพ ตั้งแต่ขายของตามงานแฟร์ ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกิน สู้เพื่อความอยู่รอดมาตลอด แต่มันไม่ประสบความสำเร็จ ขายของได้ แม้ไม่เข้าเนื้อ แต่ได้เงินเท่าทุน พอแค่ค่าข้าว ค่าน้ำมันรถ ยิ่งช่วงโควิดระบาด ละครที่ถ่าย 2-3 เรื่อง ต่อเดือน ต้องหยุดถ่ายไป พอกลับมาถ่ายได้พอละครปิดกล้อง ละครเรื่องใหม่ก็ไม่มีติดต่อเข้ามาจนว่างงาน แต่ยอมรับเป็นคนเลือกรับงาน ต้องถามรายละเอียดเยอะ และเลือกให้ดี เช่น ถ่ายกี่โมง เลิกดึกที่สุดกี่โมง นักแสดงมีใคร ไปต่างจังหวัดกี่วัน ทั้งหมดมีผลต่อสุขภาพเพราะป่วยเป็น “โรคซึมเศร้า” ต้องกินยาตามคำสั่งแพทย์ ยิ่งช่วงนี้ได้ยาแรงเพราะเครียด แต่การใช้ยาอย่างเดียวไม่ช่วยทั้งหมด จิตใจเราต้องเข้มแข็งด้วย รวมถึงกำลังใจจากลูกก็สำคัญ จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจโพสต์ขอโอกาสทำงานการแสดง
ส่วน “น้องคนดี” ลูกสาวเพียงคนเดียวของ “แวร์” ปีนี้ อายุ 18 ปี แล้ว น้องเรียนแบบโฮมสคูลมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเทียบตอนนี้ก็เตรียมเข้า ปี 1 ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งด้านลูกสาว เล่าว่า ปัจจุบันยังไม่ตัดสินใจเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เพราะเธอยังค้นหาสิ่งที่ชอบ ขอค้นหาตัวเองก่อน ตอนนี้มีความสนใจอยากเป็น “นักเขียน” เพราะชอบอ่านหนังสือ ก็หวังว่าจะได้ลองและต่อยอดเป็นอาชีพ มีรายได้ ส่วนที่คุณแม่โพสต์ของาน “ในทุกการตัดสินใจของแม่ น้องก็รับรู้ เพราะคุยกันตลอด ที่แม่โพสต์ว่า “จะไปทำงานปั๊มน้ำมัน หรือร้านสะดวกซื้อ” ก็เป็นการคุยกันจริง แม้ที่แม่บอกว่าโพสต์เล่น ๆ แต่เป็นทางหนึ่งให้แม่ระบายความเครียด ยอมรับชีวิตตอนนี้ลำบาก ที่ต้องวางแผนการเงินรัดกุม แต่เงินไม่ใช่ปัจจัยทำให้เรามีความสุขได้ทั้งหมด และหนูกับแม่ไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ตอนนี้หนูกับแม่ อยู่ในสภาวะที่มีเงินทุนพอไปเริ่มธุรกิจใหม่ ก็พยายามหางาน เพื่อเก็บเงินเอาไปทำทุนใหม่
หลังจากนี้ “น้องคนดี” ก็จะเริ่มหางาน คิดไว้อยากทำพาร์ทไทม์ ร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านอาหารในห้าง ส่วนงานแสดง ก็เปิดรับ เพราะคลุกคลีและชอบงานด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้ามีโอกาส มีคนสนใจก็ยินดีรับงานแสดง-เดินแบบ อยากบอกว่าเรายังพยายามสู้ต่อไป หวังว่าจะมีผลงานให้ติดตาม.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
