เป็นเรื่องราวใหญ่โตทันที หลังดาราสาว “เปิ้ล ไอริณ” แจ้งความ “โบว์ไลท์” อดีตผู้จัดการ ในข้อหาลักทรัพย์ หลังมีคลิปวงจรปิดที่กำลังค้นกระเป๋าที่มีซองเงิน โดยเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้(12 มิ.ย. 2566) “โบว์ไลท์” อดีตผู้จัดการตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อชี้แจงในประเด็นของการหยิบเงินจากซอง โดยให้เหตุผลว่าตนหยิบเงินจริง แต่ไม่ใช่การลักทรัพย์ เพราะเป็นการหยิบเงินในส่วนที่ตนควรได้รับ โดยก่อนหน้านี้ได้ตกลงค่าตัวของ “เปิ้ล ไอริณ” 10,000 บาท และทาง “เปิ้ล ไอริณ” ก็ตกปากรับ โดยหลังจากนั้น “โบว์ไลท์” คิดว่า ส่วนต่างที่ได้จากเปิ้ล เพียง 10,000 บาท ไม่เพียงพอ เนื่องจากวันถ่ายรายการตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ บวกกับระยะทางการเดินทางค่อนข้างไกล จึงพูดคุยกับทีมงานเรื่องค่าตัวที่เพิ่มขึ้น และมันเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน คิดว่าส่วนต่างที่ได้จะต้องแยกส่วน คนละส่วนกับของเปิ้ล แต่ทีมงานบวกเข้าไปในค่าตัวของเปิ้ล รวมเป็น 15,000 บาท
หลังจากที่หยิบเงินออกจากซอง ตนได้ชี้แจงและพูดคุยกับ “เปิ้ล” ถึงที่มาของการกระทำ และได้พูดคุยถึงสองครั้ง และเหมือนทางเปื้ล จะเข้าใจรับทราบถึงสองครั้ง จนวันรุ่งขึ้นทางเปิ้ลก็ได้โพสต์ทางเฟซบุ๊ก และพาดพิงถึง “ปอเปี๊ยะ กาลเวลา” ผู้สื่อข่าวช่องดัง และทีมงาน โดย “โบว์ไลท์” มองว่า บุคคลเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้อง จึงได้ขอโทษและปรับความเข้าใจกับ “ปอเปี๊ยะ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฟาก ทนายสาคร ศิริชัย มองว่า สิ่งที่ “เปิ้ล” แจ้งความไปในข้อหาลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ในวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา ไม่ตรงการกระทำของ “โบว์ไลท์” เพราะมันเป็นการเอาส่วนแบ่งของตนเองโดยสุจริตใจ เป็นประเพณีปฏิบัติระหว่างผู้ประสานงานที่เป็นส่วนต่างที่ได้ พร้อมบอกว่าถ้าพูดคุยกันได้ก็ถือว่าเป็นการดี เพราะไม่อยากให้กระจายเป็นวงกว้าง แต่ถ้าต้องต่อสู้ก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด ในทำนองกระทำโดยเชื่อสุจริตใจว่ามีสิทธิ์ที่จะได้ในส่วนตรงนั้น ซึ่งดูพฤติการไม่เข้าเจตนาที่จะลักทรัพย์ตามองค์ประกอบของกฎหมาย
ทั้งนี้ “โบว์ไลท์” ยกมือไหว้ขอโทษ “เปิ้ล ไอริณ” พร้อมกับบอกว่ามันคือการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนทำให้เข้าใจผิด ไม่มีเจตนายักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ เพราะไม่เอาเงินเเค่นี้มีทำลายงานในวงการบันเทิง และไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นคดีความ แต่ในเมื่อมันต้องเป็นเรื่องจริง ๆ เราต้องออกมาปกป้องตัวเอง ว่าเราไม่ได้เป็นคนลักขโมย รู้ว่าภาพมันแรง แต่อย่าพึ่งตัดสินใจจากภาพที่เห็น
ในวันเดียวกัน พิธีกรดัง “ปอเปี๊ยะ กาลเวลา” พร้อมทนายความส่วนตัว “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” เดินทางมายัง สถานีตำรวจปากคลองรังสิต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี “เปิ้ล ไอริณ” ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่กล่าวหาว่า “ปอเปี๊ยะ” มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงค่าตัว โดยทนายกล่าวว่า ทาง “ปอเปี๊ยะ” ได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า “เปิ้ล” ยังแจ้งข้อกล่าวหาต่อ “ปอเปี๊ยะ” ในข้อหาลักทรัพย์อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนต่อไปว่าทางได้แจ้งข้อกล่าวหาจริงหรือไม่ ถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวทางทนายจะดำเนินคดีแจ้งความเท็จให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับ “เปิ้ล ไอริณ” ทุกกระทงที่โดนกล่าวหา ในส่วนของคดีแพ่ง ยันฟ้องแน่นอน แต่จะขอพิจารณาอีกครั้งนึง
“ปอเปี๊ยะ” เผยได้คุยกับทางผู้จัดการแค่วันที่ “เปิ้ล” โพสต์ อยากให้ไปเคลียร์กันเองมากกว่าหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการคุยอะไรเพิ่มเติมเรื่องดังกล่าวค่อนข้างที่จะกระทบต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก จึงมาขอพึ่งกระบวนการยุติธรรม หากอีกฝ่ายมีการมาขอโทษหรือขอไกล่เกลี่ย พิธีกรดังยืนยันว่าให้เวลามานานแล้วยังไงก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในส่วนของผลกระทบต่อเรื่องงานของพิธีกรอาจจะมีประชาชนหรือแฟนคลับบางคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แต่ยืนยันทางผู้ใหญ่และทีมงานของทางการรายเข้าใจและบอกว่าให้ครั้งนี้เป็นบทเรียน
พิธีกรสาวยืนยันจะไม่ท้อเพราะยังเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้เป็นห่วง “แม่” ที่กำลังป่วยอยู่กลัวว่ารู้ข่าวแล้วจะเกิดการคิดมากต่าง ๆ ตนเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เรื่องที่หลายคนสงสัยว่าทำไมตอนนั้นถึงยังยืนอยู่ เลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับ โดยปกติแล้วตนเป็นคนที่ดูแลแขกรับเชิญในรายการทุกคนมาอย่างดีตลอด ไม่ว่าจะใคร เพียงแค่ไปยืนตรงนั้นเพราะเป็นห่วงและอยากจะไปส่งแค่นั้นเอง ต่อไปก็จะปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน