ทำเอาคนทั้งสตูฯ รายการแฉ ช็อกไปตาม ๆ กัน หลังนักแสดงสาว “โบว์ เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์” แขกรับเชิญในรายการ เปิดใจทั้งน้ำตาว่าเพิ่งโทรศัพท์เคลียร์กับแฟนหนุ่ม “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” หลังสัมพันธ์ของทั้งคู่เครือมาพักใหญ่ ก่อนจะถูกฝ่ายชายบอกเลิกจบรัก 10 ปีแบบไม่ตั้งตัว
โดย “โบว์” เล่าไปสลับกับร้องไห้ไปว่า “ไม่เคยไม่มั่นใจในความรักของโบว์ โบว์เชื่อว่าอาจมีบ้างที่ไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ แต่โบว์อยู่ในจุดที่โบว์งงอยู่ตอนนี้เพราะเรื่องนี้ที่มีการแมนชั่นถึงตั้งแต่ต้นปีจนวันครบรอบ วันที่ 8 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ยังมีการฉลอง วาเลนไทน์เราก็ยังไปเที่ยวด้วยกัน ทุกอย่างสำหรับโบว์ ไม่ได้รู้สึกว่ามีสัญญาณอะไร แต่พอกลับมาก็เริ่มไม่เหมือนเดิม เขารู้สึกอยากขอเวลาไปอยู่กับตัวเอง ที่ผ่านมามันก็มีโมเมนต์พวกนี้ ที่อยู่ดี ๆ ก็อยู่ในจุดที่เราอาจจะเหนื่อย ล้า ไม่ว่าจากงานหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มากระทบ เขาก็อาจขอเวลาไปอยู่แบบนั้น ซึ่งผ่านมาเดือนกว่า สองเดือนกว่าแล้ว พอได้คุยกัน ก็มีความไม่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็เงียบหายกันไป เราไม่ได้ติดต่อกัน 2 เดือน ไม่มีการอันฟอลโลว์ ไม่ได้ลบรูป ตอนนั้นเป็นช่วงที่โบว์ไม่รู้จะยังไง ก็เอารูปไปเก็บไว้เฉย ๆ เพราะเวลามีใครมาคอมเมนต์รูปนั้นมันจะเด้ง และตอนนั้นโบว์กำลังสับสนอยู่ ว่ามันจะไปยังไง เขาบอกว่าเดียวไปจัดการตัวเอง อาทิตย์ที่แล้วโบว์ได้ติดต่อเขาไป บอกว่าจะมาทำงานอาจต้องมีการพูดถึง ขอคุยหน่อยได้ไหมว่าอะไรยังไง ก็เพิ่งได้คุยวันนี้ก่อนเข้ารายการ บทสรุปคือทุกอย่างจบแล้ว มันปุ๊บปับ เราแค่รู้สึกว่า 10 ปีมันมีอะไรดี ๆ ด้วยกันตั้งเยอะ มันผ่านมาด้วยกัน โตมาด้วยกัน ผ่านอะไรมาหลาย ๆ อย่าง พอถึงจุดนี้ก็แค่รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่สามารถคุยหรือเคลียร์กันได้ พอมาถึงจริง มันก็เหมือนโบว์ยังมึน ๆ อึ้ง ๆ อยู่ เพราะมันสดมาก เรามีการตั้งคำถามเรื่องการอยากอยู่กับตัวเอง แต่โบว์คิดว่าเหตุผลลึก ๆ เขาต้องจัดการกันเองมากกว่า โบว์ไม่อยากพูดอะไรเยอะด้วย เพราะใจโบว์ยังงงอยู่ เขาอาจให้ไซน์คำตอบมาสักพักนึงแล้ว ก่อนหน้านี้เขาให้สัญญาณว่าห่างกัน ตั้งแต่ปีที่แล้วถึงต้นปีก็แล้วแต่ มันก็เป็นเมมโมรี่ดี ๆ ณ ตอนนั้นที่โบว์ลงไป โบว์ก็ไม่ได้รู้ว่ามีสัญญาณอะไร อาจเป็นไปได้ที่พูดไม่เข้าหูบ้าง เราอาจไม่ได้คิดว่ามันเป็นอะไร แต่พอวันนี้โบว์พยายามคุยกับเขา พยายามบอกเขานะว่ามีอะไรที่เราสามารถคุยกันได้ไหม โบว์อยากเคลียร์กับเขา โบว์ไม่ได้หยุดรักเขา แค่ไม่รู้ว่าจุดพลิกคือตอนไหน ไม่เห็นประโยชน์ในการจี้ถาม เพราะบางทีเขาเองอาจลำบากใจที่จะพูด ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจริง ๆ ไม่ไหวก็ต้องไหว”
“ถ้าเขาฟังอยู่ หนูบอกเขาไปแล้วว่าหนูรักเขา หนูบอกแล้วหนูไม่อยากเลิก หนูรู้สึกว่า 10 ปีที่ผ่านมาหรือการได้อยู่กับเขาตลอด ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี เราเติบโตและพัฒนามาด้วยกันเรื่อยๆ เติบโตด้านความคิด สติปัญญา มีภาพความทรงจำที่โบว์อาจตีภาพขึ้นมาเรื่อย ๆ และทำให้เรารู้สึกคิดถึงโมเมนต์นั้นๆ คือโบว์ว่าเขารู้ว่าโบว์รัก และเขาก็รู้ว่าเขาคือคนสำคัญของโบว์ ตอนนั้นก็หวังว่ายังไม่จบ แค่ห่างกันสักพัก ตั้งแต่มี.ค. – พ.ค. คิดว่าแค่ห่างกัน โบว์ว่าปัญหาจุกจิกมันมีอยู่แล้ว พูดไม่เข้าหูบ้าง หรือทำปฏิกิริยาไม่น่ารัก มันมีเกิดขึ้น ส่วนเรื่องต่างคนต่างดัง โบว์ว่าไม่เกี่ยว อาจอยู่ในจุดที่เริ่มหาสิ่งที่ตัวเองเอ็นจอยมากขึ้นมั้ง หรืออยากทำอะไรที่…โบว์ไม่รู้ โบว์ถามเขาไปหมดแล้ว บางอย่างโบว์ได้คำตอบ บางอย่างโบว์ไม่ได้คำตอบ โบว์ก็ขอไม่ลงรายละเอียดแล้วกัน โบว์ว่าเราทั้งคู่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เอาจริงๆ ก่อนได้คุย โบว์แอบหวังแหละ คิดว่าแค่ห่างกัน อาจมีอะไรที่คาใจ ให้เวลารักษามันเดี๋ยวมันโอเค ถึงมันยาก แต่โบว์ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจ ไม่ได้อยากเลิก โบว์คิดว่าที่ผ่านมาโบว์ทุ่มเทมาก ๆ เพราะมันมีค่าสำหรับโบว์ การได้อยู่กับเขา แม้หลังๆ เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ต่างคนต่างมีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำ เขาทำงานเยอะ เขาทุ่มเท เขาเหนื่อย โบว์รู้เขาทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อครอบครัว เขาพยายามมาก และโบว์ก็ชื่นชมเขาตรงนี้ เขาทุ่มเทมาตลอด และเราเห็น เราก็รู้สึกว่าคนนี้เป็นคนที่สามารถไกด์เราได้ หรือวันไหนเรารู้สึกว่าเราเคว้ง หรือมีคำถามที่เราตอบไม่ได้ เราเลยรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เราอยากไปต่อยาวๆ อยากอยู่ด้วย ไม่เกี่ยวกับเรื่องแต่งงานหรืออะไรก็แล้วแต่ โบว์คุยเรื่องนี้หลายรอบแล้วว่าโบว์ไม่ได้เอาเรื่องนี้เป็นหลัก โบว์แค่อยากอยู่กับคนที่เราสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้ และอยากเติบโตไปด้วยกัน แค่นั้นมีค่าสำหรับโบว์ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ โบว์เห็นภาพของเราตลอด (เสียงสั่นเครือ) ทุกวันนี้ก็ยังเห็นอยู่เลย แต่ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ความหวังในใจมีตลอด คำพูดที่โบว์คุยกับเขาก่อนมาออกรายการ โบว์บอกว่าเดี๋ยวโบว์จะมาทำงานนะ น่าจะมีการถามเรื่องนี้ ควรตอบว่าอะไร เขาก็บอกว่าอยากพูดอะไรก็พูดได้เลย เขาไม่ได้ใช้คำว่าเลิก แต่บางทีไม่จำเป็นต้องพูดคำนั้นก็ได้ แต่มันชัดมาก เพราะช่วงที่คุยกันแรก ๆ มันไม่มีคำนั้นเลย เราก็เลยคิดว่ามันไปต่อได้ ซึ่งตอนเป็นข่าว ยังไม่มีคำตอบ แค่ห่าง ต่อให้เราผิดใจกัน เขาก็บอกว่าขอไปเคลียร์ตัวเองก่อน ด้วยความปกติของเขาเราก็ปล่อยเขาไปอย่างนั้น เมื่อก่อนมีโกรธกันหลักเดือน แต่เวลาโกรธอาจไม่ได้คุยกันวันสองวัน แต่พอถึงขั้นขอไปจัดการเคลียร์ตัวเองนะ วันนี้ไม่พร้อมปะทะ ไม่พร้อมเจอ มันก็คุยกัน และกลับมาเป็นปกติทุกครั้ง ครั้งนี้เราก็คิดว่าน่าจะกลับมา แต่คำตอบก็สาหัสอยู่”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน