ทนเก็บความอึดอัดใจมาเป็นปี ล่าสุด “หนิง” เปิดใจถึงสถานะครอบครัวผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวเปิดใจทั้งน้ำตากลางวงสัมภาษณ์ยอมรับว่าครอบครัวมีปัญหาจริง กำลังแก้ไขด้วยสติ ก่อนจะมีภาพหลุดของ “จิน จรินทร์” สามี “หนิง” และสาวปริศนาที่ “จิน” ควงไปกินข้าวที่ฮ่องกง กลางสนามบิน เกิดเป็นดราม่าร้อนแรงต่าง ๆ นานา ๆ
โดย “หนิง” เผยว่า “ก่อนอื่นต้องบอกว่าก่อนจะสัมภาษณ์ได้มีการพูดคุยและปรึกษา น้องณิรินแล้ว ซึ่งณิรินเข้าใจ หนิงตกผลึกแล้วว่าการสอนลูกจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและแก้ปัญหาจากเรื่องจริงน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับลูกด้วย ภายนอกเราดูเหมือนสตรอง ความจริงคือเราพยายามสตรองมากกว่า แต่จริง ๆ เราไม่ได้เป็นคนสตรองเลย ตัดสินใจนานเหมือนกันกว่าจะโพสต์สิ่งที่ได้โพสต์ลงโซเชียลไปก่อนหน้านี้ จากที่เมื่อก่อนหนิงเป็นคนที่ที่พิมพ์อะไรโพสต์เลย ตอนหลังเป็นคนที่ทำอะไรช้ามาก เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด วันนี้ตัดสินใจพูด เพราะมันส่งผลกระทบและลามไปถึงคนรอบข้าง ตอนแรกคิดว่าเคลียร์รอบข้างได้แล้ว แต่มันไม่สำเร็จ ข่าวมันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ การตัดสินใจในเรื่องครองครัวเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหนิง ข้อผิดพลาดในชีวิตของหนิง คือหนิงเป็นคนตัดสินใจเร็ว ใจร้อน ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก แต่การใช้ชีวิตแต่งงานของหนิง หนิงเป็นคนผิดทุกครั้ง เพราะหนิงขาดสติและใช้อารมณ์ หนิงพยายามจะแก้ไขตรงนี้ เพราะหนิงกำลังจะสอนลูกให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ หนิงแข็งแรงหน้าทุกคน แต่เวลาที่ถอยไปอยู่คนเดียว ณิรินเห็นว่าหนิงเป็นยังไง”
“ชีวิตแต่งงาน 11 ปี หนิงปรับตัวเยอะมาก ทุกวิถีทาง จากที่เราเป็นผู้หญิงทำงานเสร็จกลับบ้าน ก็ปาร์ตี้ ไปเที่ยวบ้าง แต่พอระยะยาวเรารู้สึกว่าตอนเช้าเราต้องทำงาน พอไปแฮงเอาท์หนิงทำงานไม่ได้ แล้วมันไม่ใช่ตัวหนิง มันเหนื่อยค่ะ สุดท้ายเราใช้ชีวิตเหมือนเดิม เขาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดี แล้วข่าวพวกนี้ก็มีมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ข่าวใหญ่โตในอดีตจนถึงวันนี้ ซึ่งเราก็ปรับมาเรื่อย ๆ เพราะเมื่อก่อนเราใจร้อนมีปุ๊บก็ไปตาม จนเราทำใจได้ ว่าถ้าเขาจะไปมีผู้หญิงคนอื่น ๆ แต่เรายังอยู่ในฐานะภรรยา เรารับได้ ถ้ามันไม่ล้ำเส้นมากระทบเรา ถ้าไม่กระทบลูกเรา ซึ่งหนิงคิดว่ามันน่าจะอยู่ตัว มันน่าจะโอเคแล้ว ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันจริงใช่ไหม แต่ในเมื่อตอนนี้มันเกิดขึ้นจริง ๆ เราจะเดินหนีปัญหา ปล่อยให้เรื่องเงียบเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ เพราะมันแรงขึ้นเรื่อย ๆ และคนไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร เลยตัดสินใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาใจ ให้เดินไปข้างหน้าอิย่างมีพลัง เชื่อว่าทุกปัญหามันจบแบบนี้หนิงเองก็มีส่วนผิด แต่หนิงตัดสินใจในปัญหาส่วนของหนิงถูกแล้ว หนิงไม่อยากเกลียดจิน อยากจับมือกับจินไปเพื่อลูก คนเราช้ำเยอะ ๆ มันจะเปลี่ยนจากช้ำเป็นเกลียด หนิงอยากจับมือเขาต่อไปในสถานะพ่อของลูกไม่ใช่สถานะสามี ไต่ตรองมาจนสุดแล้ว คิดว่าน่าจะดีที่สุด จินเองก็น่าจะเป็นอิสระและทำทุกอย่างได้โดยที่เขาไม่เสีย”
“หนิงคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ที่ผ่านมาเวลาทะเลาะกัน เขามั่นใจว่าเรารักเขา เราเองก็เชื่อว่าเขาก็รักเรามา มีการท้าหย่ากันบ่อย ซึ่งจินเป็นคนพูด แต่ระยะหลังไม่ได้พูดกับหนิง แต่พูดกับคนรอบข้างหนิง จนคนรอบข้างมาถามว่าจะหย่ากันเหรอ เขาก็ตอบไปว่าตอนที่รู้มานั่นแหละ จนกระทั่งช่วงที่หนิงพาลูกไปเที่ยว หลังกลับมาไทยแล้ว พี่ ๆ ที่หนิงและจินเคารพทนไม่ไหวเรียกให้มาเคลียร์ มาคุย แต่วันนั้นก็ยังพูดว่าต้องการจะหย่า ซึ่งจินเป็นคนพูด ปกติเวลามีผู้หญิงทีจินก็จะขอหย่าที วันนี้หนิงยอมหย่าให้ค่ะ เพราะหนิงเหนื่อย หมดแรงยื้อ ถ้าหย่ามันก็ไม่กระทบใคร ถามว่าเคยคุยกัน 2 คนไหม คุยค่ะ แต่ก็จบลงด้วยคำว่าเราสองคนจะทำให้ดีที่สุด แต่เหตุการณ์หลังกลับจากเกาหลี จินยังยืนยันคำพูดเดิมว่า “ต่อให้ไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็จะเลิก” เราก็บอกว่าได้ แล้วถามเขาว่าจะรับผิดชอบลูกร่วมกันยังไง จินก็ให้ข้อเสนอมา และทำบันทึกยื่นให้ทนายไปทำตามกฏหมาย หลายคนคิดว่าเอกสารฉบับนั้นมันยิ่งใหญ่และหนิงต้องได้รับอะไรมากมาย มองว่าดาราแต่งงานกับคนรวยเพราะเราอยากสุขสบาย อยากใช้เงินเขา เวลาเกิดปัญหาคนก็มองว่าเราเลือกเอง ไม่เลิกหรอก มันเจ็บปวดนะคะ ผู้หญิงคนนี้ทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ส่งน้องเรียนจบที่ดี ๆ 3 คน ดูแลแม่ ทำงานดูแลตัวเองทั้งหมด และรับผิดชอบลูกครึ่งหนึ่ง แต่เอกสารฉบับนี้ที่มันไม่จบ เพราะจินไม่มาทำอะไรในสิ่งที่จินจะทำ หนิงห่วงที่สุดว่าถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตหนิง หนิงห่วงความมั่นคงในชีวิตลูก สิ่งที่หนิงขอให้กระทำให้ณิรินเป็นเรื่องเล็กมาก ๆ ถ้าหนิงจะทำให้ลูกเอง หนิงก็ทำได้ แต่อย่างน้อยที่สุดลูกจะได้ภูมิใจว่าพ่อได้ทำอะไรเพื่อลูก หนิงยังเชื่อว่าจินรักลูกมาก”
“หากแยกกันในฐานะสามีภรรยา ถ้าทะเลาะกัน เราไม่สามารถไปสั่งเขาได้ว่าต้องทำอะไร ฉะนั้นต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน วันนี้เราอยู่ในฐานะสามีภรรยา เราตกลงกันอย่างนี้ ถ้าวันหนึ่งเราเป็นเพื่อนกัน เราทำตามนี้ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้เซ็นใบหย่าใด ๆ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังรอจินมาเคลียร์ว่าจะทำยังไง หนิงยังไม่ได้รับการเคลียร์ตรงนั้นเลย หนิงไม่รู้ว่าหนิงจะทำตัวยังไง จะตอบยังไง เพราะหนิงกำลังพยายามแก้ไขปัญหาหลังบ้าน หลังบ้านมันมีปัญหาวุ่นวาย จนหนิงตัดสินใจว่าถ้าหนิงไม่เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาเอง มันไม่จบ สิ่งที่ได้ยินหนิงได้ยินมาจากณิลิน ลูกมาเล่าให้ฟัง ตอนนนั้นฟังแล้วเขา คิดว่าลูกหวงพ่อ แต่ก็จะไม่ไปถามซ้ำเรื่องเดิมกับลูก หน้าที่เรามีหน้าที่ประคองความจริงที่เขารู้ ให้เขาเข้าใจความจริงในมุมที่เด็กควรเข้าใจ หนิงอยากหย่าแล้ว คุยกับลูกเรียบร้อยแล้ว แต่ณิรินยังไม่เข้าใจ เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้เจอคุณอากับคุณปู่ รองลงมาคือไม่ได้คุณพ่อ เราก็บอกว่าไม่มีปัญหาเลย เพราะแม่ยังเป็นลูกของปู่ เป็นพี่สาวของอา และเป็นเพื่อนของพ่อ หนิงคิดทบทวนแล้ว ค่อยออกมาพูด มันคือสิ่งที่ผ่านกระบวนการคิดแล้ว ถามว่าอยากหย่าไหม หนิงอยากหย่านะ เจ็บไหม เจ็บ แต่ไม่อยากเกลียยดจิน อยากให้จินเป็นพ่อที่น่ารักมาก ๆ ของลูก หนิงว่ามันคือทางออกที่ดีทมี่สุด ซึ่งณิริน โอเค เพราะเรานอนคุยกันทุกเรื่อง”
“ถ้าจินเคลียร์ใจและอยากกลับมา มีโอกาสไหม เรื่องอนาคตหนิงไม่สามารถตอบได้ ตอบได้แค่วันนี้ เพราะคิดทบทวนเรื่องในอดีตมาแล้ว หนิงว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุด หนิงอยากมีชีวิตใหม่ที่มีความสุขและอยากมีเพื่อนที่ดีที่สุด จุดตั้งต้นหนิงไม่ใช่คนผิดแต่จุดสิ้นสุดหนิงเป็นคนผิดเสมอ แต่วันนี้หนิงพยายามทุกอย่างให้เงียบที่สุด ใช้วิธีจัดการตามกฏหมาาย ณ วันนี้มีบันทึกตรงนั้น แต่ยังไมได้เซ็นใบหย่า หนิงได้ใช้กฏหมายจัดการในฐานะเมียหลวง ฟ้องบุคคลที่ 3 ซึ่งศาลรับฟ้องแล้ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าณิรินมาบอกเรื่องของพ่อ จริง ๆ ณิรินไม่ได้มาเล่า หนิงไปรู้จากแม่เพื่อนของณิริน หนิงไปถามลูกว่าทำไมไม่เล่าให้แม่ฟัง ลูกบอกที่ไม่เล่า เพราะแม่มีปัญหาเรื่องงานเยอะแล้ว หนูไหว หนูโอเค ไปโรงเรียนก็มีเพื่อน ๆ มาถาม ลูกบอกเพื่อนเขารู้กันทั้งโรงเรียน เวลาเพื่อนถามถาม ณิรินก็บอกไปว่าใช่พ่อฉันนั้นแหละที่เป็นข่าว แต่พอ่แม่ฉันยังรักกันนะ เขากำลังเคลีฃยร์กัน อย่างที่บอกหนิงพูดก็มีผลกระทบ ไม่พูดก็กระทบ ทำอะไรก็กระทบหมด แต่ถ้าไม่ตัดสินใจเป็นผู้นำในการแก้ปัญหา ผลกระทบระยะยาวมันจะยังเกิดอยู่ ก่อนมารายการหนิงปรึกษาคนสำคัญที่สุดดในชีวิตคือลูก ตอนนี้รอจินเคลียร์ให้ชัดเจนว่าจะยังไง หลายคนมองว่าหนิงเป็นคนลุย ๆ ตรง ๆ คือหนิงทำอะไรขาดสติ เรื่องเพื่อนแก้ให้เขาได้หมด แต่พอเรื่องตัวเองล้มไม่เป็นท่า แต่หนิงค่อย ๆ ลุก ไม่ว่าาจะเกิดอะไรขึ้นชข้างหน้าหนิงตัดสินใจอย่างที่สุดแล้ว หนิงอยากให้คนเข้าใจว่าหนิงพยายบามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อลุก อยากให้คนเห็นถึงความพยายามของหนิงด้วย”
“หลังเกิดเรื่องหนิงพยายามคุยแต่เขาไม่คุย เลยส่งข้อความไป ข้างน่าเราน่าจะรักกันเป็นเพื่อนได้ อย่างเดียวที่อยากจะบอกคือทำเพื่อลูกเถอะไม่ต้องทำเพื่อหนิง เพราะในส่วนของหนิง หนิงจบแล้ว ไม่ต้องอึดอัดใจในส่วนของหนิง หนิงอยากให้หนิงกับจินอยู่ในถานะพ่อและแม่ที่ดีของลูก อยากให้ทำทุกอย่างเพื่อความมั่นคงของลูกที่ชัดเจน เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา อะไรที่ดีที่สุดสำหรับลูกให้ทำ ให้ลูกมีความภาคภูมิใจว่าพ่อรักเขา ถามว่าสถานะเปลี่ยน เราสามารถอยู่ด้วยกันได้ไหม ยอมรับว่าเคยคิด แต่สำหรับคู่หนิงไม่น่าจะเหมาะ ขอแยกกันอยู่สักพักดีกว่า แต่ในมุมของหนิง หนิงมีแต่ความหวังดีจีริง ๆ หนิงอยากให้เขาได้เจอคนที่เหมือนกับเขา เข้าใจเขา และอยู่กับเขาได้อย่างมีความสุข หนิงให้อภัยเขาไปนานแล้ว หนิงอยากเป็นแม่ที่ดีให้ลูกแค่นั้นเอง อย่าทนเพื่อเกลียด”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน
