ยังคงติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีนักแสดงสาวหล่อ “ติ๊นา ศุภนาฎ จิตตลีลา” ขับรถเก๋งชนหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์อาการโคม่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 ย่านปากซอยอ่อนนุช 38 ซึ่งพอมีข่าวออกมา เจ้าตัวก็ได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว แต่ก็เกิดกระแสดราม่าหลายเรื่อง ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.66) พี่ชายผู้บาดเจ็บ และ ทนายความฝั่งผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง พร้อมด้วยทนายความและผู้รับมอบอำนายของ “ติ๊นา” ถึงกรณีที่ขับรถชนชายรายหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยภายหลังการเจรจา นายสันต์ กาวิชัย ทนายความและผู้รับมอบอำนายของ “ติ๊นา” ได้ออกมาเปิดเผยว่า การพูดคุยในวันนี้เป็นเพียงการพูดคุยในเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ผู้บาดเจ็บยังอาการสาหัส และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งการพูดคุยในวันนี้ก็จะเป็นเรื่องของการรักษาน้องให้ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติ ซึ่งหลังเกิดเหตุน้องผู้บาดเจ็บรักษาตัวภายในห้องไอซียู แต่อาการไม่ดีขึ้น โดยขอให้ทาง “ติ๊นา” รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยินดีรับผิดชอบ เผยเหตุไม่ได้มาเจรจาด้วย เพราะช่วยย้ายน้องผู้บาดเจ็บไปอีกโรงพยาบาล และรับเป็นเจ้าของไข้ ซึ่งก่อนหน้านี้ “ติ๊นา” ก็ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บแล้ว แต่ทาง รพ.ยังงดเยี่ยม จึงได้มีการนำดอกไม้ไปวางไว้ แต่ไม่ได้มีการถ่ายรูปไว้ อาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าคุณติ๊นาไม่ได้ไปเยี่ยมหาผู้บาดเจ็บเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง
ส่วนเรื่องกรณีที่การนำเสนอข่าวหรือคลิปวงจรปิด อ้างว่า “ติ๊นา” ขับรถชนคนแล้วหนีและหลังจากขับรถชนแล้วยังไปเที่ยวต่อที่งานสงกรานต์แห่งหนึ่ง ที่เมืองทองธานีนั้น ซึ่งในความเป็นจริงงานดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 13-14 เม.ย. แต่เหตุเกิดเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย.66 เป็นไปไม่ได้ที่ “ติ๊นา” ขับรถชนแล้วจะไปเที่ยวต่อ ส่วนเรื่องที่ขับชนแล้วหนีก็เป็นไปไม่ได้ เพราหลังชนในกล้องวงจรปิดคุณติ๊นาก็จอดรถรออยู่ หลังจากนั้น “ติ๊นา” ก็กลับมาที่ สน.พระโขนง เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในทางคดีคุณติ๊นาก็ยอมรับว่าตนเองขับรถประมาณค่อมเล่นจนไปชนผู้บาดเจ็บจริง ส่วนเรื่องที่หลายคนตั้งขอส่งสัยว่าอาจจะมีการดื่ม และมีอาการมึนเมาจนขับรถชนหรือไม่นั้น ตนยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับ “ติ๊นา” แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายปิยวุฒิ เปาทอง ทนายความผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า การพูดคุยในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการชดเชยค่าสินไหม แต่เป็นการพูดคุยในเรื่องการรักษาพยาบาลน้อง ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยความพอใจ เพราะฝั่ง “ติ๊นา” ยินดีที่จะช่วยเหลือในส่วนนี้ ส่วนอาการน้องที่บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ที่น่าเป็นห่วงคือกระดูกเชิงกรานที่แตกร้าวและอาการสมองบวม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ให้มีการดูอาการน้องผู้บากเจ็บและผลการตรวจสารต่าง ๆ โดยจะมีการนัดพูดคุยอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์
นายวชิเรศ ยาจิตต์ พี่ชายผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่าการเจรจาในครั้งนี้ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะทางคู่กรณียินดีที่จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ส่วนทางญาติ ๆ และคุณแม่ก็เข้มแข้งขึ้น เนื่องจากสิ่งสำคัญตอนนี้คืออยากให้น้องหายกลับมาเป็นปกติมากที่สุด .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน