กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างทันที เมื่อบรรดาคนทำหนังทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ออกมาติดแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์ หลังเกณฑ์การคัดเลือกภาพยนตร์ที่สามารถเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ในปี 2563 ระบุว่า “ต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ และต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครบอย่างน้อย 5 จังหวัดหลัก กรุงเทพ , เชียงใหม่ , ชลบุรี , นครราชสีมา และ นครศรีธรรมราช และต้องมียอดคนดูไม่ต่ำกว่า 50,000 คน หรือคิดเป็นราคาตั๋วเข้าชมมูลค่าประมาณ 5-7 ล้านบาท ถึงจะผ่านการพิจารณา”
ล่าสุดวันนี้(31 มี.ค. 2566) หลังทางสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ รับทราบถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ได้ทำการหารือและประชุมร่วมกับตัวแทนผู้กำกับบางส่วน จนได้ข้อสรุปและแถลงการณ์ออกมาดังนี้
“แถลงการณ์สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ตามที่ได้มีกระแสต่อกรณีเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยเพื่อเข้าประกวดรางวัลสุพรรณหงส์ คณะอนุกรรมการอำนวยการจัดงานรางวัลสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 31 ได้มีการประชุมหารือ และมีมติเรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาภาพยนตร์ไทยที่สามารถส่งประกวดเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ให้เป็นไปเพื่อเปิดโอกาสให้กับภาพยนตร์ไทยที่หลากหลายและครอบคลุม ดังนี้
“ภาพยนตร์ไทยที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 60 นาที เข้าฉายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยเป็นการฉายในโรงภาพยนตร์ หรือสถานที่อื่นใดที่มีการจัดฉายภาพยนตร์ใน เชิงพาณิชย์ในประเทศไทย และมีระยะเวลาการฉายไม่น้อยกว่า 7 วัน”
สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนภาพยนตร์ไทยมาโดยตลอด สมาพันธ์ฯ ยินดีรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ วันที่ 31 มีนาคม 2566″