ผู้กำกับ แห่ #แบนสุพรรณหงส์ คาดกติกาใหม่ไม่เป็นธรรม สมาพันธ์ฯ เตรียมประชุมบ่ายพรุ่งนี้(31มี.ค.)

หลังคณะทำงานรางวัลสุพรรณหงส์ ที่จัดโดยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ออกมาประกาศเกณฑ์การคัดเลือกภาพยนตร์ที่สามารถเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ในปี 2563 ว่า ต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ และต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครบทั้ง 5 ภูมิภาค อย่างน้อย 5 จังหวัดหลัก กรุงเทพ , เชียงใหม่ , ชลบุรี , นครราชสีมา และ นครศรีธรรมราช และต้องมียอดคนดูไม่ต่ำกว่า 50,000 คน หรือคิดเป็นราคาตั๋วเข้าชมมูลค่าประมาณ 5-7 ล้านบาท ถึงจะผ่านการพิจารณา ทำให้มีภาพยนตร์จำนวนมากไม่ผ่านเกณฑ์ทันที เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่คนทำหนังและผู้กำกับ ว่ากติกาดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับหนังนอกกระแสหรือหนังอินดี้


โดย “ศราวุธ แก้วน้ำเย็น” ผู้กำกับศิลป์ ภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) โพสต์ “จากใจคนทำหนังไทย เมื่อคืนเป็นอีกหนึ่งคืนที่มีความสุข ในขณะที่เราตั้งตารอว่า ภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เราทำจะได้รางวัลในประเทศไทยบ้างไหม สรุปเกินคาด เมื่อภาพยนตร์เรื่อง “เวลา” (Anatomy of Time) ได้คว้ารางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ‘คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่19 และ ผู้กำกับ พี่เก่ง จักรวาล ของเราได้คว้ารางวัล ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมแห่งปี ก็ดีใจและภูมิใจมาก หลังจากได้รางวัลจากหลายประเทศทั่วโลก อีกใจก็คิดว่าในที่สุด ประเทศเราก็เห็นค่างานศิลปะงานภาพยนตร์นอกกระแส ภาพยนตร์ที่ทำอย่างตั้งใจอีกเรื่องหนึ่งในชีวิต ด้วยทุนที่ต่ำกว่ามาตราฐานมากๆ โดยเฉพาะงานด้านโปรดักชั่นดีไซน์ ที่ตัวผมเองนั้นไม่มีแม้แต่ค่าจ้างด้วยซ้ำ เพราะคิดว่านี่เป็นอีกเวที ที่เราจะได้ทำงานศิลปะโดยไม่มีข้อแม้ ของสตูดีโอมาปิดกั้นจินตนาการ

แต่ๆๆๆๆๆ เมื่อฝันหวานไปได้หนึ่งคืน ก็เจอฝันร้ายไปอีกวัน เมื่อ ภาพยนตร์ เวลา (Anatomy of time) ที่พึ่งได้รางวัลอันทรงเกียรติ กลับ ต้องถูกตัดสิทธิเอาชื่อออก ไม่ผ่านเกณฑ์การเข้าชิงรางวัล ของกองประกวดกองหนึ่ง กองที่ใหญ่ที่สุด และยืนระยะในการมอบรางวัล (และยังเรียกว่าการประกวดแห่งชาติ) เพราะเพียงว่า ” ………..หงส์มีหลักเกณฑ์ ใหม่ที่พึ่งตั้งในปีนี้ว่า ว่าภาพยตร์ที่จะเข้าคัดเลือกต้องมีการเข้าฉายในโรงภาพยตร์ให้ครบ 5ภูมิภาค ของประเทศไทย แต่ภาพยนตร์เรื่อง Anatomyoftime ไม่ได้ไปฉายให้ครบทุกภาคของประเทศก็เลยไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสิน” นี่หรอครับ เพียงแค่เราทำหนังโดยทุนต่ำ และไม่มีปัญญาหาเงินหรือไปขอโรงภาพยนตร์ยักษใหญ่ เข้าฉายให้ครบทุกภาคในประเทศบ้านเกิด แต่เราเข้าฉายไปทั่วโลกและคนในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเรา ก็ให้รางวัลมาหลายที่? ผิดด้วยหรอที่เราฉายไม่ครบทุกภาค? แต่เราก็ฉายในสตรีมมิ่งอันดับต้นของโลก? ผิดด้วยหรอที่เราถูกโรงหนังขนาดใหญ่ของประเทศตัดรอบฉาย?


แต่ท้ายที่สุดรางวัลหรือยอดขายมันอาจมีไว้ตีค่าทางสังคมได้ดีที่สุด แต่มันไม่สามารถเลยครับที่จะหยุดจินตนาการ มันไม่สามารถ เลยครับที่จะหยุดค่าของภาพยนตร์ (ผมอาจไม่ใช่นักกีฬา จึงไม่สามารถ เรียกตัวเองว่านักกีฬาทีมชาติ แต่ผมตั้งใจและทำหนังไทยแบบต่อเนื่องในทุกค่ายทุกรูปแบบทั้งในกระแส หรือ นอกกระแส ผมมั่นใจและกล้าที่จะบอกกับคนทั้งโลก ว่า ผมคือทีมชาติหนังไทยอีกคน อดก็ทำมีก็ลุย) สุดท้ายความสิ้นหวังก็ต้องยืดอกยอมรับการตัดสิน เเละภาพยนตร์อีก11เรื่อง ก็คงตกอยู่ในความรู้สึกเดียวกัน วันนี้คุณอาจตัดสินเพียงเรา แต่เชื่อสิว่ามันคือการตัดสินวงการทั้งวงการหนังนอกระแสไปแล้ว ขอบคุณทุกการตัดสินครับ เราไม่เคยบอกว่าหนังเราดีที่สุด บทดีเรื่องดี แต่เราแค่ขอพื้นที่นำเสนอภาพยนตร์อีกรูปแบบหนึ่ง แบบที่คนในชาติไม่สามารถหาดูทั่วไป เพื่อเราจะได้ไม่ต้องถูกยัดถูกบังคับให้เลือกให้ดูให้กินไปจนตาย แก่พันธุ์ทาง

ด้าน “เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” ผู้กำกับชื่อดัง ระบุว่า “ในตำแหน่งผู้กำกับและผู้เขียนบท fast & feel love ผมขอถอนตัวจากการได้รับสิทธิ์ในการถูกคัดเลือกเพื่อได้รับการพิจารณาในรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ เพราะโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกติกาและเงื่อนไขครับ / ขอบคุณครับ”

ฟาก “บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ผู้กำกับชื่อดัง ร่วมติดแฮชแท็กแบนสุพรรณหงส์ และระบุว่า “ผมในฐานะผู้กำกับ/ทีมเขียนบทภาพยนตร์ เรื่อง One for the Road ขอถอนชื่อของตัวเองจากการได้รับการเสนอชื่อเพื่อ
คัดเลือกเข้าชิงรางวัลผู้กำกับและผู้เขียนบทของรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติจะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนัง และมองเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ไทยทุกเรื่อง
และทีมงานทุกคนศิลปะที่ดีไม่ได้เกี่ยวกับขนาดเล็กหรือใหญ่ แต่ต้องพิสูจน์ด้วยพื้นที่ในใจคนดูครับ”


และ “ไก่ ณฐพล บุญประกอบ” ระบุว่า “ผมในฐานะทีมเขียนบท/ผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์เรื่อง One for the Road ขออนุญาตถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติจะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนังและเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ และทีมงานหนังไทยทุกคนครับ#แบนสุพรรณหงส์”

ส่วนเฟซบุ๊ก “Kongdejworkboard” ก็ออกมาโพสต์ “Faces of Anne เป็นภาพยนตร์สตูดิโอ การส่งชื่อเสนอรางวัลจึงเป็นสิทธิ์ของสตูดิโอ แต่ขอใช้สิทธิส่วนตัวในการไม่ร่วมสังฆกรรมกับรางวัลสุพรรณหงส์ในกติกาสกปรกที่พยายามลักลอบทำมาหลายปีแล้ว ลำพังหนังไทยทุกวันนี้ก็โดนด้อยค่ามากพอแล้ว แต่การด้อยค่ากันเองนี่ทุเร่ศเกินทนจ้ะ #แบนสุพรรณหงส์”

ขณะที่ “นายอดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ” รองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ โชว์เอกสารใบลาออกจากตำแหน่ง พร้อมแจงว่า “ขอแจ้งให้สาธารณะทราบโดยทั่วกัน ผมขอลาออกจากการเป็นรองประธานสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติด้วยเหตุผลตามหนังสือลาออก ขอขอบคุณท่านเลขา​สมาพันธ์ฯ พรชัย ว่องศรีอุดมพร ที่ชวนให้มาร่วมทำงานเพื่อวงการภาพยนตร์ไทย​ หลังจากงาน​ World​ Film​ Festival​ of Bangkok ครั้งที่15เมื่อต้นธันวาคม2565ที่มีจุดมุ่งหมายเปิดพื้นที่สำหรับภาพยนตร์ไทยอิสระ #แบนสุพรรณหงส์”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

โดยวันนี้(30 มี.ค. 2566) ทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทน ติดต่อไปยังสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เพื่อถามถึงกระแสแบนข้างต้น ซึ่งทางสื่อสารองค์กรได้เผยเพียงสั้น ๆ ว่า ผู้ใหญ่รับรู้ถึงกระแสแล้ว และทางผู้ใหญ่ของสมาพันธ์ฯ จะประชุมหารือกันในบ่ายวันพรุ่งนี้(31มี.ค.2566) และจะแถลงข้อสรุปต่อสื่อมวลชนอีกที.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 689 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม