สิ่งที่คุณแม๊ทำมันไม่ถูกต้อง! “แซน” เดินหน้าฟ้องหมิ่น “แม่แตงโม” ลั่นไม่โกรธแต่ไม่สะดวกใจจะคุยด้วย อยากไกล่เกลี่ยให้คุยกับทนาย

“แซน วิศาพัช” พร้อม “นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์” ทนายความส่วนตัว เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังตัดสินใจฟ้องหมิ่นประมาท “คุณแม่ภนิดา ศิริยุทธโยธิน” คุณแม่ของนักแสดงสาว “แตงโม ภัทรธิดา” พร้อมทีมทนาย เนื่องจากคู่กรณีแจกข่าวปลอม ไร้ข้อเท็จจริงให้สื่อที่ศาล เพื่อทำให้ตนเองเสื่อมเสียและหวังผลบางประการจากข่าวปลอมดังกล่าว เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่คุณแม่ทำมันไม่ถูกต้อง ส่วนตัวไม่โกรธและยังมองว่าแม่เป็นแม่ของแตงโมเหมือนเดิม แต่ถ้าจากนี้แม่จะไกล่เกลี่ย พูดคุยทำความเข้าใจอะไร ขอให้คุยกับทนายความแทน แซนไม่สะดวกใจที่จะคุยด้วยแล้ว


โดย “แซน” เผยว่า “ฟางเส้นสุดท้าย จุดที่ทำให้ทนไม่ไหวจนต้องตัดสินใจฟ้องกลับคุณแม่ คือจุดที่แม่แจกหลักฐานเท็จตรงหน้าศาล เอกสารระบุชัดเจนว่าแซนข่มขู่พนักงานอัยการ ยุ่งกับหลักฐาน ละเมิดอำนาจศาล รวมถึงกระติกกับพวก ถามว่าก่อนฟ้องถามแม่มั้ย แซนไม่มีอะไรคุยกับคุณแม่แล้ว แซนมั่นใจในเรื่องหมิ่นประมาทของคุณแม่ เนื้อหาในวันนั้นที่สื่ออ่านค่อนข้างชัดเจนกล่าวหาว่าแซนทั้งข่มขู่พยาน เรื่องละเมิดศาล ซึ่งเราทราบหลังแม่ เลยลองตามจากสื่อ จึงทราบว่ามีการส่งเอกสาร เลยไม่คิดว่าต้องคุยแล้ว ตอนนี้เรายื่นฟ้องศาลไปแล้ว ศาลท่านรับพิจารณาคดีไว้ อยู่ระหว่างส่งหมายศาลไป ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 22 เม.ย. เวลา13.30 น. ส่วนคดีเรียก 40 ล้านเป็นอีกคดีหนึ่ง ซึ่งตรงนี้แซนฟ้องอาญา ไม่ฟ้องแพ่ง เพราะแค่อยากให้คุณแม่รู้สึกว่าสิ่งที่คุณที่แม่ทำมันไม่ถูกต้อง มันเกินไปเยอะเลย สำหรับความรู้สึกที่แซนมีให้คุณแม่ตอนนี้คือคุณแม่ก็ยังเป็นคุณแม่โมเหมือนเดิม หลังจากนี้ถ้าแม่จะพูดคุยทำความเข้าใจอะไร ขอให้คุยกับทนายแทน แซนไม่สะดวกใจที่จะคุยโดยตรงกับคุณแม่แล้ว ถามว่าถ้ายอมความได้จะยอมไหม ขอให้เป็นเรื่องอนาคตแล้วกันค่ะ ส่วนปอกับโรเบิร์ต แซนไม่ค่อยได้คุยค่ะ เอาจริง ๆ แซนไม่ได้เครียดหรือกังวลอะไรเลย แค่เหนื่อย ขี้เกียจไปศาล ตลอด 1 ปีสังคมชี้ชัดว่าเราผิด ส่วนตัวแซนมองว่ามันไม่ยุติธรรมเลยกับการตัดสินจากการดูสื่อ โดยไม่รอผลจากศาล มาต่อว่าแซนรุนแรง จนเรารู้สึกไม่ดี จนหลัง ๆ เราเริ่มที่จะอยู่กับความเห็นแย่ ๆ พวกนั้นได้ มันไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต เพราะแซนไม่ค่อยให้ค่ากับความเห็นหยาบ ๆ ในเมื่องเรื่องเกิดขึ้นก็ต้องแก้ไขไปตามขั้นตอน หลายคนมองว่าที่ผ่านมาแซนไฟว้คนเดียว คนอื่นไม่ไฟว้ แซนไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม แต่เราเก็บอะไรไม่ค่อยอยู่ ถ้าเราไม่ผิด เรารู้สึกไม่โอเคกับเรื่องนั้น เราก็ต้องออกมาบอกในมุมของเราบ้าง ส่วนตัวแซนได้คุยกับพี่กระติกบ้าง ในส่วนของหลักฐานใหม่ที่คุณแม่บอกว่าเป็นกล้องหน้ารถ ไม่ได้มีใครกังวลกับตรงนี้ เอาจริง ๆ แทนไม่ได้ทราบด้วยซ้ำว่าคุณแม่มีหลักฐานอะไร ไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึก แต่เรารู้ความจริงว่ามันคืออะไร เลยไม่ได้กังวล แซนเป็นห่วงคุณแม่มากกว่าที่ออกมายื่นหลักฐานไม่จบไม่สิ้น ห่วงว่าคุณแม่จะต้องไปนั่งอธิบายในรายการเท็จทอล์กหรือเปล่า ขอบคุณที่หน้าศาลคุณแม่ชมว่าแซนสวย คุณแม่สวยกว่าค่ะ แต่ถ้าจะไกล่เกลี่ยให้คุณกับทนายค่ะ แซนไม่คุยกับคุณแม่แล้วค่ะ แซนไม่ค่อยสบายใจ เกรงใจด้วยกลัวคุณแม่ลำบาก ส่วนตัวแซนไม่เคยโกรธคุณแม่เลย แต่เรื่องนี้อยากให้คุณแม่รู้ว่ามันเกินไปจริง ๆ ขอให้เชื่อแซนด้วย แซนไม่มีเหตุผลต้องโกหก ถ้าใครไม่เชื่อสิ่งที่แซนพูดก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องมาออกความเห็นในพื้นที่ของแซน สำหรับคุณที่เข้ามาคอมเมนต์แซนรู้สึกว่าทำไมเขารู้ดีกว่าเรา เขาอยู่บนเรือเหรอ แล้วเราจะโกหกทำไม โกหกแล้วได้อะไร เขาควรจะคิดถึงเหตุผลและหลักความเป็นจริงก่อน แต่ก็คงไม่ฟ้องชาวเน็ตแล้วค่ะ เหนื่อยกับการขึ้นศาลแล้ว พอแล้วค่ะ เพราะตอนนี้มีคดีที่เขาฟ้องเรา เราฟ้องเขามีประมาณ 4-5 คดีแล้วค่ะ”

ด้าน “นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์” ทนายความส่วนตัวของ “แซน” กล่าวเสริมว่า “ก่อนหน้านี้คุณแม่เคยมอบอำนาจให้ประธานชมรมฟ้องคนบนเรือข้อหาฆาตกรรม อันนั้นคือคดีที่แซนจะฟ้องกลับคุณแม่เรียก 40.8 ล้าน ส่วนที่เราเพิ่งฟ้องไปคือคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งตรงนี้แซนฟ้องอาญา ไม่ฟ้องแพ่ง ถามว่าถ้ายอมความได้จะยอมไหม ต้องดูเจตนาหลาย ๆ อย่าง ถ้าเงื่อนไขดี คุณแม่เข้าใจ เราค่อยมาพิจารณาเรื่องเงื่อนไข ผมจะใช้สิทธิ์ยื่นคัดค้านทุกเรื่องที่คุณแม่ยื่นมา เนื่องจากคุณแม่ใช้สิทธิ์ตามอำเภอใจเกินไป กฏหมายคุ้มครองทุกคนรวมถึงจำเลย ผู้ต้องหาในคดีด้วย ความยุติธรรมมีไว้สำหรับทุกคน ทุกคนก็ใช้สิทธิ์กันตามกระบวนการแล้วให้ศาลท่านพิจารณา ส่วนกรณีของปอและโรเบิร์ต หากในอนาคตเขารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา คิดว่าเขาจะรอดไหม ถ้าศาลตัดสินรอลงอาญา คุณแม่ยังใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ในคดีอาญาได้ เป็นสิทธิ์ตามกฏหมายขึ้นอยู่กับคุณแม่ว่าจะดำเนินการหรือเปล่า ซึ่งเป็นส่วนของทางอาญา ส่วนทางแพ่งมีการทำหนังสือสัญญาประนีประนอมแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้น คุณแม่มีสิทธิ์โต้แย้ง แต่ส่วนตัวผมมองว่าคุณแม่เรียกเพิ่มในส่วนของปอและโรเบิร์ตไม่ได้แล้ว ส่วนคลิปกล้องหน้ารถที่คุณแม่บอกว่าเป็นหลักฐานใหม่ มันมีอยู่ในสำนวนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะทนายทุกคนได้ไปคัดสำเนาสำนวน รวมถึงคลิปนี้มาแล้ว เพราะเอกสารและคลิปในคดีนี้มีเยอะพอสมควร ส่วนของคุณแม่ก็ต้องมานั่งไล่ดูว่าว่าแตกต่างกันไหม แต่ถ้าเป็นตัวเดิมก็อยู่ในสำนวนแต่แรกอยู่แล้ว แต่เอามาบอกว่าเป็นหลักฐานใหม่ เพราะอยากใช้สิทธิ์ให้เต็มที่เหมือนที่คุณแม่ต้องการ ผมเชื่ออย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้กังวลอะไร ทำตามกระบวนการขั้นตอน คุณแม่ยื่นอะไรมา ผมก็ยื่นคัดค้านตามสิทธิ์ของจำเลยที่มีในศาล ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้หากคุณแม่อยากไกล่เกลี่ยย สามารถไกล่เกลี่ยได้ครับ เพราะเป็นคดีที่ยอมความได้”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 265 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม