รันวงการแบบเต็มเหนี่ยวทีเดียว สำหรับบริษัทบริหารศิลปิน-นักแสดงอย่าง“สกายบ็อกซ์ฯ” ล่าสุดจับสาวเฉี่ยวนัยน์ตาหวาน “ซินเซียร์ สาธิดา ศรีพรหมมา” จาก Cook Helper สู่หน้าจอแก้วประเดิมด้วยละคร 3 เรื่อง 3 แนว ของ 3 ผู้จัดมากฝีมือ จากเวิร์คพอยท์, รฤก โปรดั๊กชั่น ยอร์ช ฤกษ์ชัย และ บี มูฟวี่ฯ วันนี้เธอมาอัปเดตผลงานให้เราได้ฟัง พร้อมเผยของสุดรักที่ใครเห็นเป็นต้องรู้สึกอบอุ่นหัวใจตาม เพราะขนาดเจ้าตัวซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องยังเล่าไปยิ้มไปด้วยความสุขเลย
โดย “ซินเซอร์” เผยว่า ตอนนี้ละครที่ถ่ายทำปิดกล้องไปแล้วมี 2 เรื่องแล้ว คือเรื่อง นางทาสหัวทอง น่าจะได้ชมกันในปีนี้ และอีกเรื่องคือ ชะนีปีชง ค่ะ แล้วก็มีที่กำลังรอเปิดกล้องอีก 1 เรื่อง เป็นของมาเจนตา มีเดีย ครีเอชั่น ซึ่งจะเป็นคนละแนวกับสองเรื่องแรก ส่วนของสะสมของเซียร์ คือรูปโพลารอยด์ค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าการถ่ายรูปโพลารอยด์คือเป็นการบันทึกแต่ละโมเมนต์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ๆ โดยที่เราไม่สามารถที่จะแต่งเติมอะไรได้เลย มันดูดิบและเป็นอะไรที่มีคุณค่าทางจิตใจมาก วันนี้ “ซินเซียร์” หยิบเอา 10 รูปสุดรักสุดหวงมาแชร์ให้ทุกคนฟัง เริ่มต้นด้วยรูปแรกเป็นรูปครอบครัว และเป็นรูปแรกสำหรับการสะสมรูปโพลารอยด์ของ “เซียร์” เป็นรูปที่เราถ่ายด้วยกันในวันที่เซียร์เรียนจบและเป็นรูปที่เราอยู่กันครบทั้ง 4 คน พ่อ, แม่, เซียร์ และ พี่สาว ความรู้สึกที่ได้ถ่ายรูปนี้มันคือความภูมิใจในตัวเองที่สามารถเรียนจบพร้อมเกียรตินิยมอันดับ 2 มาให้กับครอบครัว เป็นอะไรที่ภูมิใจมาก ๆ รูปที่สองเป็นอีกหนึ่งรูปที่เซียร์ รู้สึกอยากขอบคุณคน ๆ นี้มากที่สุด ถ้าไม่มีเขาอาจจะไม่ได้เป็นซินเซียร์ทุกวันนี้ ใครจะคิดว่าอากงที่อายุ 90 ปี คนนี้จะทำทุกอย่างเหมือนเดิม ตั้งแต่เซียร์เรียนอนุบาลยันจบวิทยาลัย ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง มองกี่ครั้งก็รู้สึกดีใจที่มีอากงอยู่เสมอ ต่อมารูปที่สามรูปคือรูปของ “แพร” เพื่อนสนิทที่สุดของ “เซียร์” ค่ะ เขาเป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่วิทยาลัย เป็นคนที่คอยเพิ่มสีสันและเสียงหัวเราะทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน คอยอยู่ข้าง ๆ กันเสมอในช่วงที่รู้สึกแย่ และรูปที่สี่คนในรูปคือคุณครูที่คอยและให้คำปรึกษาเซียร์ทุกเรื่องทั้งในช่วงที่ยังเรียนอยู่และจบไปแล้ว ต่อมารูปที่ห้า เพื่อนแก๊งนี้ขาดไม่ได้เลย ถ้าไม่มีพวกเขาเซียร์คงไม่ได้เกียรตินิยมแน่นอน เป็นเพื่อนที่เรียนในเซกเดียวกัน พอช่วงที่จะลงเรียนเมื่อไหร่ก็จะพาไปเป็นกลุ่มเสมอ คอยติวหนังสือให้กันตอนช่วงใกล้สอบ เรียกว่าเป็นช่วงที่มีความสุข และสนุกที่สุดของการเรียนวิทยาลัยนี้เลย
รูปที่หก เป็นรูปของแก๊งเพื่อนที่เราเจอกันในช่วงกิจกรรมรับน้องของวิทยาลัย พวกเรารวมตัวกันจากเซกต่าง ๆ ด้วยกัน เป็นผู้นำเชียร์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่มารู้จักกันที่วิทยาลัย หรือเพื่อนที่เรียนอนุบาลด้วยกันมาก่อนแล้วกลับมาเจอกันอีกทีที่นี่ เป็นเพื่อนที่ไปไหนไปกันสุด ๆ รูปที่เจ็ด เป็นรูปถ่ายเพื่อนที่โรงเรียนบดินเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จริง ๆ ก็มีเพื่อนอีกหลายคนที่เซียร์สนิท แต่กลุ่มนี้คือไม่ว่าจะกลับมาเจอกันกี่ครั้งก็มีเรื่องคุยตลอด ถัดไปคือรูปที่แปดเป็นรูปกับคนที่คอยซัพพอร์ตเซียร์เสมอมา คอยให้คำปรึกษา ทำให้เซียร์มองเห็นอีกมุมที่ไม่เคยมอง รู้ในอีกมุมที่ไม่เคยสนใจ ทุกครั้งที่รู้สึกแย่ที่สุดก็จะมีเขาอยู่ข้าง ๆ เสมอ รูปที่เก้าอาจจะไม่ได้เป็นรูปที่ดูมีความหมายมาก แต่ก็เป็นรูปที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ มากมาย เพราะตอนที่ถ่ายรูปนี้ออกมา เป็นช่วงที่เซียร์รู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต (ช่วงโควิด) กว่าจะได้รู้นี้มาได้ กว่าจะกล้าออกมาจากสิ่งแย่ ๆ โชคดีที่มีแพรเพื่อนที่เซียร์สนิทที่สุดคอยอยู่ข้าง ๆ และพาออกมาเที่ยว ทำให้ได้เจออะไรใหม่ ๆ บ้าง ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะ และรูปสุดท้ายรูปนี้เป็นรูปที่เซียร์รู้สึกประสบความสำเร็จอีกขั้นในชีวิต เป็นรูปที่เซียร์อยากขอบคุณตัวเองที่คอยพาตัวเองไปเจอแต่คนดี ๆ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็น ถึงมันอาจจะมีไม่ถูกใจบ้าง เจออะไรที่ทำให้ท้อบ้าง แต่ก็ยังฮีลตัวเองขึ้นมาได้ และรูปนี้ก็คงจะเป็นอีกรูปที่เซียร์จะมองไปเสมอและบอกกับตัวเองว่า “เธอเก่งที่สุดแล้ว”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน